Puu
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476 |  วันที่: 28/03/2007 @ 10:27:56 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต SET Index วันอังคารที่ 27 มีนาคม 2550 ปิดที่ดัชนี 678.57จุด -0.47จุด มูลค่าการซื้อขาย 7,958ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 657.04 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 116.03ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 541.01 ล้านบาท SET Index ทำ High ที่ 680.81จุด +1.77 จุด และ Low ที่ 677.07 จุด -1.97 จุด K.KRAZIP ว่าอยู่เมื่อวานซืนหุ้น (เล็ก) เก็งกำไรหายหน้าหายตาไปชาร์ตแบ็ตฯ กัน วานนี้กลับมาวิ่งกันใหม่เต็มกระดาน โดยตลาดได้แรงหนุนจากหุ้นพลังงานที่ราคาน้ำมันยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีเช้าสามารถยืนค่อนไปในแดนบวก แต่ก็ต้องลงไปในแดนลบเนื่องจากมีแรงขายหุ้นแบงค์บางตัวและกลุ่มสื่อสารคอยกดดัชนี ส่วนตลาดในช่วงบ่ายทิศทางตลาดยังแกว่งตัวในกรอบแคบๆ จากสาเหตุที่ไม่มีปัจจัยบวกมาเสริมทำ SET ปิดในแดนลบ ส่วนหุ้นที่ยังทำให้มีน้ำเลี้ยงดี SUPER , S2Y ,BAY และอย่าลืมดูต่างชาติช่วงนี้ท่านซื้อทุกวัน ไม่แน่อาจจะมีอะไรดีในกอไผ่ SET มีโอกาศทดสอบที่ 690.81 ก็เป็นไปได้
PTT ราคาเปิด -ปิด 208บาท มูลค่าการซื้อขาย 393.483ล้านบาท จากที่ทางPTT ได้ทำสัญญาเงินกู้กับธนาคารออมสินจำนวน 6 พันล้านบาท การกู้เงินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการระดมทุนในช่วง 5 ปี (20จำนวน 50 พันล้านบาทเพื่อ ต้องการที่จะre-finance เงินกู้เดิม และเพื่อการลงทุนในโครงการใหม่ๆ โดย PTT ได้ออก และจำหน่ายหุ้นกู้ มูลค่า 29 พันล้านบาทในช่วงที่ผ่านมาและจากการที่ออกหุ้นกู้ของPTTนั้นทำให้บริษัทมีเงินลงทุนในโครงการต่างๆได้มากขึ้นเป็นการเปิดโอกาสในการมีกำในปี50 มากยิ่งขึ้นทั้งนี้ตัวของPTT ยังต้องการรักษาเงินกู้ที่เหลือไว้เป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐเพื่อสร้างสมดุลกับโครงสร้างรายได้ และแม้ว่ามาตรการสำรองเงินตรา 30% จะทำให้แผนการระดมทุนล่าช้าออกไปบ้างแต่ก็ไม่น่าจะกระทบต่อบริษัทฯ มากนัก ในขณะที่ผลตัดสินของศาลซึ่งกำลังใกล้เข้ามาน่าจะเป็นข่าวดีต่อบริษัทฯ และทำให้ราคาหุ้นสามารถปรับตัวขึ้นได้หลังจากถูกกดดันมานาน ดังนั้นK.KRAZIP ยังแนะนำ ?ซื้อ? โดยมีแนวรับ204บาท แนวต้านที่ 218บาท
RK ราคาเปิดที่ 2.56บาท ราคาปิดที่ 2.46บาท มูลค่าการซื้อขาย 48.705ล้านบาท RK คาดว่าในปีนี้จะมีรายได้ถึง 200 ล้านบาท เนื่องจากจะรับรู้รายได้จากทั้งคอนเสิร์ต และอีเวนต์ต่างๆโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับกีฬา ซึ่งจะเข้ามา สร้างรายได้แทนธุรกิจวิทยุที่เคยเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม สัดส่วนรายได้ในปีนี้แม้ยังไม่อาจสรุปชัดเจนได้ แต่จากการเน้นงานอีเวนต์มากขึ้นจะทำให้บริษัทฯมีรายได้จากธุรกิจนี้คิดเป็น 40% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือจะมาจากธุรกิจทีวี และนิวมีเดีย ขณะที่การจัดคอนเสิร์ต "เรน" ประเมินว่า ณ ปัจจุบันจะมีรายรับจากการขายตั๋ว และสปอนเซอร์รวมไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาทแล้ว ซึ่งถือว่าคุ้มทุนไปแล้ว ทั้งนี้รายได้จากค่าตั๋วเข้าชมทั้งหมดจะอยู่ที่ 40 ล้านบาท ดังนั้นหลังจากที่ RK ได้จำหน่ายบริษัทฯ หรือกิจการที่อาจจะไม่ทำกำไรได้ออกไปแล้ว จะสามารถล้างการขาดทุนสะสม 150 ล้านบาทได้ในช่วงกลางปี 2551 เนื่องจากต่อจากนี้ผลประกอบการจะพลิกมามีกำไรได้ จากกิจการที่เหลืออยู่และมีความสามารถในการทำกำไรได้ดี สำหรับปัจจุบันถือว่า RK เป็นบริษัทฯที่ไม่มีหนี้สิน จากการที่ได้รับเงินเพิ่มทุนเข้ามาและได้แบ่งบางส่วนมาใช้ชำระคืนหนี้เงินกู้ อีกทั้งปริษัทฯก็ยังมีเงินสดหมุนเวียน 60-70 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีสำหรับการลงทุนในอนาคต เนื่องจากธุรกิจของ RK จะเป็นลักษณะเข้าไปลงทุนในบริษัทย่อย หรือบริษัทลูก ซึ่งจะทำให้การลงทุนดังกล่าวมีความคล่องตัวยิ่งขึ้น K.KRAZIP แนะนำ "ซื้อ" โดยมีแนวรับที่ 2.42 บาท แนวต้านที่ 2.76 บาท
PSL ราคาเปิด 47.50บาท ราคาปิด 47.25บาท มูลค่าการซื้อขาย 70.464ล้านบาท ตามสัญญาณทางเทคนิคแล้ว กราฟรายวันและรายนาทีมีสัญญาณเป็นบวก เพื่อทดสอบแนวต้านแรกที่ 47.75 บาท หากสามารถยืนได้มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้อีก ในแง่ของปัจจัยพื้นฐาน PSLได้ประกาศจ่ายหุ้นปันผลในสัดส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล และประกาศจ่ายปันผลเป็นเงินสดเพิ่มเติมอีก 0.11 บาท/หุ้น เพื่อชำระภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากหุ้นปันผลที่ได้รับ (เงินปันผลที่จะจ่ายเป็นเงินสดทั้งหมดเท่ากับ 4.11 บาท/หุ้น) รวมมูลค่าหุ้นและเงินสดจ่ายปันผลทั้งปี 2549 จ่ายเท่ากับ 5.11บาท/หุ้น คิดเป็น 56% ของกำไรสุทธิ ซึ่งจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 30 มี.ค.50 และจ่ายปันผลทั้งเงินสดและหุ้น 2 พ.ค.50 K.KRAZIP แนะนำ " ซื้อเก็งกำไร" แนวรับที่ 46.50 บาท แนวต้านที่ 50 บาท
SNC ราคาเปิด -ปิด 7.10บาท มูลค่าการซื้อขาย 0.962ล้านบาท ผลประกอบการในปี2549 เติบโต 34%YoY จากรายได้ชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศในอาคาร คาดว่าการเติบโตยังคงต่อเนื่องมายังปี2550 เนื่องจากมีการรับจ้างประกอบเครื่องปรับอากาศให้กับ LG และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของการปั้มขึ้นรูปโลหะ ซึ่งคาดว่าในปี2550 มีกำไรโต 25%YoY จากที่ขาดทุนก่อนหักภาษี 20 ล้านบาทในปี 2549 ส่วนการขยายฐานลูกค้ายังมีแนวโน้มมากขึ้น และคาดว่าในปี 2549 จะมีการจ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงานประมาณ 0.47 บาทต่อหุ้น ในเรื่องของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบโดยตรง เนื่องจากSNC ทำธุรกิจเป็น Im-direct Export ที่มีการ Code ราคาขายเป็นบาทมากกว่า 90% ของยอดขาย K.KRAZIP แนะนำ "ซื้อ" แนวรับที่ 7 บาท แนวต้านที่ 7.35 บาท
ที่มา ทันหุ้น[/color:2454e1ea14">
|
