Toon
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973 |  วันที่: 29/03/2007 @ 11:05:41 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ที่มา : วีระชัย ครองสามสี
หัวคอลัมน์ : ยามภาวะไม่ดี อะไรๆ ก็ไม่ดีทั้งนั้น
ตลาดหุ้นไทยไปไหนไม่รอดเข้าตำราสูงสุดคืนสู่สามัญ หลังเจอมรสุมล้อมด้านไหนจะกังวลความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตกที่มีข่าวเริ่มปะทุเรื่อยๆ ส่งผลให้ราคาน้ำดิบสหรัฐส่งมอบเดือน พ.ค. พุ่งไปถึง 68.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย. 49 ก่อนจะอ่อนตัวลงมาที่ 64.50 ดอลลาร์/บาร์เรล เชื่อว่าราคาน้ำมันในช่วงนี้คงปรับตัวสูงขึ้นต่อไป ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับราคาขายอีกลิตรละ 50 สตางค์ เห็นแล้วกลุ่มใจแทนชาวบ้านที่ต้องแบกรับภาระจากราคาน้ำมันที่ผันผวน และมีความไม่แน่นอนว่าจะเกิดสงครามหรือไม่ หลังทหารสหรัฐมีการซ้อมรบในอ่าวเปอร์เซีย แถมปัจจัยภายในประเทศก็ยืดเยื้อไม่นิ่งเสียที โดยเฉพาะสถานการณ์ทางการเมือง เนื่องจากในช่วงเดือนนี้ที่มีสารพัดม็อบที่เตรียมชุมนุมใหญ่ในวันศุกร์ที่ 30 มี.ค. นี้ โดยมีกระแสข่าวอาจจะประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินในกรุงเทพฯเพื่อสกัดการชุมนุม และหากเป็นจริงก็ย่อมส่งผลกระทบทางลบในสายตาชาวโลก ทำให้นักลงทุนต่างพากันหยุดรอดูสถานการณ์ออกไปก่อนในสัปดาห์นี้ หรือบางส่วนก็ทยอยขายเพื่อลดความเสี่ยงชนิด Sale ทุกราคา ทั้งๆ ที่เพิ่งซื้อเมื่อไม่กี่วัน จากข่าวการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนของ JP Morgan แถมความหวังเล็กน้อยของการทำราคาเพื่อปิดงวดบัญชี (Window Dressing) ก็ไม่แน่นอน ในภาวะแบบนี้บรรดากองทุนหรือบริษัทจดทะเบียนก็คงไม่อยากเสี่ยงทำราคาเท่าไหร่ก็คงปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ขืนผืนภาวะก็มีหวังขาดทุน เชื่อว่าในภาวะแบบนี้ทุกคนคงกอดเงินสดไว้ดีที่สุด อย่างที่ผมได้เขียนไว้ตั้งแต่ต้นเดือนให้ถือเงินสดมากที่สุด และไม่ควรเพิ่มพอร์ต แต่เน้นรอซื้อเมื่อปรับตัวลงแถวๆ 665 ? 660 จุด เผลอแป๊ปเดียวก็จะได้เห็นแล้ว ถึงแม้จะมีข่าว ธปท. เตรียมพิจารณายกเลิกมาตรการสำรอง 30% แต่ก็อาจจะช้าเกินไปที่จะเยียวยาความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาเหมือนเดิม เพราะว่าปัจจุบันมีปัจจัยลบเต็มไปหมด ส่วนทางเทคนิคก็ดูไม่จืด เนื่องจาก SET INDEX ได้หลุดแนวรับเส้น SMA ระยะสั้นต่างๆ แถมกราฟ Candle stick เกิด Long Bearish แท่งยาวเสียด้วย ต้องบอกว่าดูแล้วไม่ดีจริงๆ และโอกาสทรุดตัวลงมีค่อนข้างสูง เมื่อพิจารณาเครื่องมือเทคนิค MACD และ RSI ที่แสดงสัญญาณ Negative สอดคล้องกัน โดยประเมินแนวรับแรกบริเวณ low เดิมที่ 665 จุด และถัดไปที่ 660 จุด ส่วนกรณีรีบาวด์ก็ไม่น่าเกินแนวต้านที่ 675 จุด กลยุทธ์ ช่วงนี้คงต้องถือเงินสด หรือถ้าจะซื้อคงต้องรอปรับตัวลงเท่านั้น โดยเน้นหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มพลังงานเป็นต้น
สำหรับหุ้นเก็งกำไร ที่น่าสนใจ TAPAC มีแนวรับที่ 2.10 บาท และมีแนวต้านที่ 2.40 ? 2.46 ตัดขาดทุนหากหลุด 2.00 บาท SINGER มีแนวรับที่ 2.20 บาท และมีแนวต้านที่ 2.50 บาท ตัดขาดทุนหากหลุด 2.10 บาท[/size:27bfb21a4b">
|
