April 29, 2024   6:41:16 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ไทยนี้ไม่สงบ ! ม็อบรังควานหุ้นไทยต่อ
 

arthor
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 803
วันที่: 30/03/2007 @ 08:53:26
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ไทยนี้ไม่สงบ !
ม็อบรังควานหุ้นไทยต่อ
* นายกฯประกาศยังไม่ออกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อเมื่อมีเหตุรุนแรง


หุ้นไทยยังซึมเซาต่อ แม้วานนี้จะฟื้นตัวรีบาวน์กว่า 2 จุด ขณะที่นายกฯ แถลงยังไม่ออกพ.ร.ก.ภาวะฉุกเฉิน เพราะยังไม่มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น แต่ระบุจะออกทันทีหากพบสถานการณ์รุนแรง โดยใช้อำนาจนายกฯเป็นผู้ประกาศได้ทันที พร้อมกำหนดวันเลือกตั้งใหม่เป็นวันที่ 16 หรือ 22 ธันวาคมนี้ ขณะที่วงการ ฟันธง จะมีพ.ร.ก.หรือไม่มี ก็ไม่แตกต่าง เหตุการเมืองไทยยังไร้เสถียรภาพและขาดความชัดเจน เชื่อวันนี้ นลท.ยังชะลอลงทุนต่อ พร้อมแนะให้ถือเงินสด ลดความเสี่ยง และรอดูสถานการณ์นอกตลาดฯ ขณะที่ บิ๊ก UNIQ หวั่นหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกวันนี้ แต่รับกังวลม็อบชุมนุมพรุ่งนี้ หวังหุ้นยืนเหนือจอง 1.80 บ.

ภาวะตลาดในช่วงสัปดาห์นี้ยังถือว่าไม่ฟื้นตัวนัก ดัชนียังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ มาเกือบสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยทั้งภายใน ภายนอกประเทศ ยังรุมเร้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัจจัยเกี่ยวกับการเมืองในประเทศ ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าสถานการณ์การเมืองยังขาดความชัดเจน ไร้เสถียรภาพ ทั้งในเรื่องนโยบายการเมืองในประเทศเอง เรื่องของการดูแลความสงบ ความมั่นคงภายในที่ยังคงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนจะไม่สามารถหาทางออกในการแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ อีกทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ เองก็เริ่มมีความหวั่นวิตกเกี่ยวกับประกาศชุมนุมต่อต้านรัฐบาลของกลุ่มต่างๆ หลายกลุ่ม โดยมีกลุ่มPTV ที่ดูเหมือนจะแสดงเจตนาชัดเจนว่าพร้อมจะชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ซึ่งหลายฝ่ายหวั่นเกรงว่าเหตุการณ์อาจจะบานปลายได้ จนถึงขนาดทำให้รัฐบาลมีแนวคิดที่จะออกพระราชกำหนด หรือ พ.ร.ก.ภาวะฉุกเฉินในกทม. เพื่อควบคุมการชุมนุมโดยเฉพาะ ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้ล้วนส่งผลฉุดให้ดัชนีตลาดฯ ปรับตัวลดลง ไม่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนได้ไกลนัก โดยเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมานั้นสะท้อนให้เห็นชัดเจนกับการปรับตัวลดลงถึง 10 จุดของดัชนีฯ ทันทีที่ความกังวลดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดจนยังมีข่าวลือกรณีการปฏิวัติซ้อนเพิ่มขึ้นมาอีก และถึงขณะนี้ข่าวลือดังกล่าวก็ยังไม่คลี่คลายแต่อย่างใด
แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์เมื่อวานนี้ ( 29 มี.ค.) กลับดูเหมือนจะดีขึ้น ถึงแม้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมยังยืนยันที่จะชุมนุมในวันนี้ก็ตาม เพราะว่าทางกรุงเทพมหานคร กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองทัพภาคที่ 1 ได้ข้อสรุปหลังการประชุมร่วมกันว่าจะปิดพื้นที่ท้องสนามหลวงตั้งแต่วันนี้ -5 เม.ย.50 และไม่อนุญาตให้กลุ่มผู้ชุมนุมจัดตั้งเวทีขึ้นปราศรัย ทำให้บรรยากาศการลงทุนเริ่มดีขึ้นมาบ้าง เพราะหากมีการปิดพื้นที่สนามหลวงก็เท่ากับจะไม่สามารถชุมนุมได้ในพื้นที่ดังกล่าว แต่ทั้งนี้การสั่งปิดสนามหลวงดูจะไม่ใช่ประเด็นที่กลุ่มผู้ชุมนุมให้ความสนใจ เพราะยังยืนยันจะย้ายการปราศรัยไปที่ลานคนเมืองหน้าศาลาว่าการกทม. แทน เพราะฉะนั้นสถานการณ์จากนี้ก็ยังต้องตามเกาะติดกันต่อว่าการชุมนุมจะกระทบภาพรวมตลาดต่อไปอย่างไร และทำให้บรรยากาศการลงทุนยังคงซึมเซาต่อเนื่องอีกยาวนานหรือไม่
นอกจากนี้ สถานการณ์ดังกล่าวยังทำให้ฝ่ายของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และรัฐบาล ต้องมีการหารือเพื่อหาบทสรุปเรื่องของ พ.ร.ก. ภาวะฉุกเฉิน โดยมีการประชุมตั้งแต่ 15.00 น. และเสร็จสิ้นในเวลา 17.00 น. โดยใช้เวลาในการหารือนานถึง 2 ชั่วโมงก่อนที่ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีจะออกมาแถลงข่าว ว่ารัฐบาลยังไม่ประกาศพ.ร.ก. ดังกล่าวเพราะเมื่อประเมินแล้วยังไม่พบว่าเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงจนจำเป็นต้องนำประกาศดังกล่าวมาใช้
ขณะที่ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปิดที่ 671.62 จุด เพิ่มขึ้น 2.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5,583.52 ล้านบาท ซึ่งเป็นรีบาวน์ขึ้นจากเมื่อวานนี้ หลังจากนักลงทุนคลายความกังวลว่าการสั่งปิดสนามหลวงจะทำให้รัฐบาลไม่ประกาศพ.ร.ก.ภาวะฉุกเฉิน ส่วนนักลงทุนต่างประเทศก็กลับมามีมูลค่าซื้อสุทธิที่ 213.13 อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ขายสุทธิต่อเนื่องมาหลายวัน



* นายกฯ เผย ยังไม่ออกพ.ร.ก.ภาวะฉุกเฉิน เหตุยังไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยระบุว่า จะยังไม่มีการประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากยังไม่อยู่ในภาวะที่เหมาะสม และจะมีการประกาศใช้ก็ต่อเมื่อเหตุการณ์รุนแรงขั้นฉุกเฉินตามมาตรา 4 ที่กำหนดไว้ในพระราชกำหนด โดยนายกรัฐมนตรีเป็นผู้มีอำนาจในการประกาศใช้ได้ทันที
" รัฐบาลพร้อมที่จะร่วมมือและประสานงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย โดยยืนยันเจตนารมณ์เดิมว่าไม่ต้องการเห็นการเผชิญหน้าหรือการปะทะกันของประชาชน ซึ่งรัฐบาลพร้อมจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้สถานการณ์ไปถึงขั้นรุนแรง" นายกฯ กล่าว
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมมีมติที่พร้อมจะทำประชามติภายในเดือนกันยายนนี้ในปีงบประมาณ 2550 พร้อมจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 16 ธันวาคม หรือ 22 ธันวาคม ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ และเป็นไปตามกรอบของรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ได้กำหนดไว้ว่าจะมีการจัดการเลือกตั้งภายในสิ้นปี 2550 นี้
พร้อมทั้งยืนยันว่ายังมีความพร้อมในการทำงานและเต็มใจที่จะรับผิดชอบงานในทุกด้านอย่างเต็มที่ พร้อมกับระบุว่าไม่หนักใจ แม้ความเห็นที่ว่ายังไม่จำเป็นต้องประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจะแตกต่างจากความคิดเห็นของประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ โดยยืนยันว่าได้ดำเนินการทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานที่เหมาะสม




*วงการ ฟันธงไม่มีพ.ร.ก. นักลงทุนก็ชะลอเล่นหุ้น-ตลาดหุ้นยังไม่แจ่ม
นายอภิสิทธิ์ ลิมป์ธำรงกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า แม้รัฐบาลมีการประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) หรือไม่ประกาศ รวมทั้งรอดูสถานการณ์ในวันพรุ่งนี้ (30 มี.ค.50)ก่อน ก็จะส่งผลกระทบด้านลบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากปัจจัยทางการเมืองยังคงเป็นตัวแปรหลักที่นักลงทุนให้ความสนใจ
" จะประกาศใช้หรือไม่ประกาศใช้ในวันนี้ รวมทั้งรอดูสถานการณ์ในวันพรุ่งนี้ก่อน ก็มีผลกระทบทั้งนั้น เพราะการเมืองภายในประเทศยังไม่ชัดเจนรวมทั้งไม่มีเสถียรภาพ ก็คาดว่าดัชนีฯ คงจะซึมๆ ไม่ต่างจากวันนี้ วอลุ่มก็น่าจะเบาบางเหมือนเดิม " นายอภิสิทธิ์ กล่าว
กลยุทธ์การลงทุนแนะนำถือเงินสดและลดความเสี่ยงรวมทั้งรอดูสถานการณ์อยู่นอกตลาดฯ โดยให้แนวรับไว้ที่ 665 จุด ให้แนวรับถัดไปไว้ที่ 660 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 675 จุด
ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซิกโก้ กล่าวถึงกรณีเดียวกัน ว่า จะประกาศใช้ พ.ร.ก. ดังกล่าวหรือไม่ประกาศใช้ รวมทั้งรอดูสถานการณ์ก็มีผลกระทบต่อภาวะตลาดหุ้นไทยเช่นกัน ซึ่งคาดว่าพรุ่งนี้นักลงทุนคงจะลดความเสี่ยง โดยการชะลอลงทุนออกไปก่อนจนกว่าปัจจัยทางการเมืองจะชัดเจน
" ตราบใดที่การเมืองไม่นิ่ง ใครจะกล้าเข้ามาลงทุน เชื่อเลยว่าพรุ่งนี้นักลงทุนก็คงจะชะลอการซื้อหุ้น เพราะถ้าซื้อไปแล้วเกิดวันเสารือาทิตย์มีเหตุหฃการณ์รุนแรงเกิดขึ้นประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เปิดตลาดฯ มาวันจันทร์หุ้นคงจะลง ลดความเสี่ยงก่อนดีกว่า " แหล่งข่าวรายเดิม กล่าว
ส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำลดความเสี่ยง หรือรอดูสถานการณ์ก่อนเข้าไปลงทุน โดยให้แนวรับไว้ที่ 665 จุด และให้แนวต้านไว้ที่ 675 จุด [/color:23ef53525a">



* บิ๊ก UNIQ ยอมรับกังวลม็อบชุมนุมพรุ่งนี้ หวังหุ้นยืนเหนือจอง 1.80 บ.
นางสาวกรภัทร์ สุวิวัฒน์ธนชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ กล่าวกับ eFinanceThai.com ว่ามีความกังวลกับการชุมนุมประท้วงทางการเมืองตามกระแสข่าวที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (30 มี.ค.50) พอสมควร เนื่องจากอาจเป็นประเด็นกดดันการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ทั้งนี้ยังมองว่าไม่ถึงขั้นบานปลายจนเป็นนัยสำคัญให้บริษัทฯต้องเลื่อนการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรกออกไป
อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรก ราคาหุ้นจะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นยืนเหนือราคาไอพีโอที่ 1.80 บาท/หุ้นได้ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่มองถึงพื้นฐานธุรกิจที่ดี และน่าจะถือลงทุนระยะยาว ไม่ใช่เก็งกำไรระยะสั้นๆ
เรามั่นใจว่ามีพื้นฐานดี อยู่ในวงการอสังหาฯ รับเหมามาพอสมควร นักลงทุนที่ซื้อหุ้นคงดูพื้นฐาน และเข้าถือลงทุน นางสาวกรภัทร์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการปี 2550 คาดการณ์รายได้เติบโตมากกว่าปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 1.27 พันล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) ถึง 4.2 พันล้านบาท ซึ่งทยอยรับรู้ต่อเนื่อง 1 - 2 ปีจากนี้ โดยโครงสร้างรายได้ปัจจุบันมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 95% และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 5% ซึ่งในส่วนของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเน้นรับงานภาครัฐบาลถึงสัดส่วน 95% และที่เหลืออีก 5%เป็นงานภาคเอกชน ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็ยังคงเน้นบ้านสร้างเสร็จก่อนขายเป็นหลัก
ด้านแหล่งข่าวจาก บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ กล่าวว่าบริษัทฯพร้อมเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ หมวดอสังหาริมทรัพย์ ในวันพรุ่งนี้ (30 มีนาคม 2550) เป็นวันแรกอย่างแน่นอน แม้ว่าจะมีกระแสข่าวชุมนุมประท้วงทางการเมือง รวมถึงภาวะตลาดหลักทรัพย์โดยรวมไม่สดใส เนื่องจากเป็นกำหนดการเดิมที่วางไว้อยู่แล้ว และมั่นใจว่าหุ้น UNIQ มีพื้นฐานดี
อย่างไรก็ดี ยอมรับว่าไม่สามารถระบุชัดเจนว่าจะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของ UNIQ ในวันพรุ่งนี้เป็นวันแรกจะสามารถยืนเหนือราคาจองที่ 1.80 บาท/หุ้นได้หรือไม่ เนื่องจากยังมีปัจจัยลบหลายด้านกดดันการลงทุน แต่ก็ยังมั่นใจว่าราคาไอพีโอที่กำหนดดังกล่าวถือเป็นราคาเหมาะสม และมีส่วนลดให้นักลงทุน ซึ่งเชื่อว่านักลงทุนจะคำนึงถึงประเด็นนี้เป็นหลัก



*เซียนหุ้นระบุ UNIQ เข้าเทรดใน ตลท. วันนี้ มีโอกาสต่ำกว่าจองที่ 1.80 บ.
เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง กล่าวว่า กรณีที่หลักทรัพย์ของบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ จะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันพรุ่งนี้ (30 มี.ค.50) เป็นวันแรก คาดว่าจะไม่สามารถยืนเหนือราคาจองที่ 1.80 บาท/หุ้นได้ เนื่องจากผลการดำเนินงานในปี 2549 ของบริษัทฯ ดังกล่าวออกมาไม่ดี ซึ่งอาจจะสะท้อนและส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นในกระดานได้ โดยในปี 2549 ปรากฎว่า UNIQ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 40 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 218 ล้านบาท
ประเมินว่าพรุ่งนี้ราคาหุ้น UNIQ คงจะปรับลดลงไปก่อน เพราะปัจจัยลบก็ยังคงมีอยู่ ผลการดำเนินงานก็ไม่ได้ แต่ถ้านักลงทุนระยะยาวก็สามารถซื้อเพื่อลงทุนได้ เพราะอนาคต คาดว่าคงจะมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานก่อสร้างสะพาน ถนน ก็จะทยอยเข้ามาในช่วงกลางปีนี้ ส่วนนักลงทุนระยะสั้นไม่แนะนำเพราะมีความเสี่ยง แหล่งข่าวรายเดิมกล่าว [/color:23ef53525a">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com