ลุ้นน้องใหม่ UNIQฝ่ามรสุมเข้าเทรดกูรูหวั่นปิดต่ำจอง

?ยูนิค? ไม่สนภาวะหุ้นตก มั่นใจฝ่าวิกฤตได้เทรด วันนี้ราคาเหนือจองที่ 1.80 บาทแน่ จาก
ปัจจัยพื้นฐานดี-ราคาถูก มองสภาวะตลาดไม่เลวร้ายกว่านี้แม้ปัจจัยการเมืองรุมเร้า พร้อมโชว์
Backlog ที่เตรียมรับรู้ใน 2 ปีที่ 5.4 พันล้านบาท ส่วนปีนี้คาดรายได้ 3.4-4 พันล้านบาท เซียน
หุ้นหวั่นต่ำจอง โอดผลปี 49 ยังไม่ประทับใจ
นายนที พานิชชีวะ ประธานกรรมการ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น
จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ เปิดเผยว่า บริษัทมีความมั่นใจในการเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาด
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) หมวดอสังหาริมทรัพย์วันนี้จะสามารถทำราคาให้ปรับตัวขึ้น
เหนือราคาจองที่ 1.80 บาทได้ แม้หลายฝ่ายมองว่าสภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวยจะทำให้ราคาหุ้นต่ำ
กว่าราคาจองก็ตาม
โดยทางบริษัทมองว่าสภาวะตลาดที่เป็นอยู่ไม่น่าจะมีอะไรที่เลวร้ายไปกว่านี้ ประกอบ
กับเมื่อช่วงที่ทำการเปิดจองซื้อหุ้นนั้นสภาวะตลาดไม่ได้ดีไปกว่าที่เป็นอยู่ปัจจุบัน แต่ความต้อง
การซื้อหุ้นของนักลงทุนยังมีมากกว่าจำนวนหุ้นของบริษัทที่เปิดจอง ดังนั้น จึงทำให้ประเมินได้ว่า
เมื่อมีการซื้อขายจริงแล้วราคาจะขึ้นไปเหนือราคาจองได้แน่นอน
?เราเชื่อว่าบริษัทจะผ่านสภาวะแบบนี้ไปได้ เพราะราคาที่คำนวณถึงปัจจัยรอบด้าน รวม
ทั้งความเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานดี รวมถึงนักลงทุนที่เข้ามาซื้อหุ้นเราจะต้องมั่นใจตัวบริษัทระดับ
หนึ่งว่าเมื่อมาถือหุ้นแล้วจะมีผลตอบแทนที่ดี รวมทั้งบริษัทเน้นนักลงทุนระยะยาวมากกว่าเก็ง
กำไรระยะสั้น โดยทางบริษัทไม่ได้กังวลในเรื่องของราคาเหนือจอง หรือต่ำจองมากนัก? นายนที
กล่าว
นางสาวกรภัทร์ สุวิวัฒน์ธนชัย กรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสต
รัคชั่น กล่าวว่า การที่บริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จะช่วยเพิ่มศักยภาพการดำเนินงานที่มี
อยู่แล้วให้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งจะทำให้เปอร์เซ็นต์การได้รับงานประมูลงานมากขึ้นด้วย เนื่องจาก
สามารถระดมทุนได้หลากหลาย ทำให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน
ขณะเดียวกัน การที่ UNIQ เป็นบริษัทขนาดกลางทำให้มีความคล่องตัวในการดำเนิน
งาน โดยสามารถรับงานได้ทั้งขนาดเล็กมูลค่าร้อยล้านบาท จนถึงมูลค่างานขนาดหมื่นล้านบาท
เนื่องจากมีต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำกว่าจากการสามารถปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีที่มีอยู่ให้สอด
คล้องกับงานในแต่ละโครงการที่ได้รับ ประกอบกับยังหาพันธมิตรเข้าร่วมในกรณีที่มีลักษณะงานที่
ไม่ชำนาญด้วย
ทั้งนี้ แม้ในปีนี้ยังคงมีปัจจัยเรื่องการเมืองที่รุมเร้า แต่บริษัทยังคงมีงานในมือทั้งงาน
เก่า และงานใหม่ที่รอรับรู้รายได้ประมาณ 5,400 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมงานที่บริษัทจะเตรียมเข้า
ประมูลอีกจำนวนมาก รวมทั้งโครงการเมกะโปรเจกต์ โดยงานดังกล่าวจะทำให้บริษัทยังสามารถ
เติบโตได้ในระยะเวลา 2 ปีในกรณีที่ยังมีปัญหาการเมืองอยู่ ขณะที่ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้
ประมาณ 3,500-4,000 ล้านบาท
ด้าน ดร.อัสวานี อะฮูจา รองกรรมการผู้จัดการด้านวาณิชธนกิจ บริษัท หลักทรัพย์ ซีมิ
โก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ UNIQ ว่า ราคาหุ้นที่ทำการเสนอ
ขายนั้น บริษัทได้มีการคำนวณในหลายปัจจัยแล้วไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ และปัจจัยอื่นๆ
รวมทั้งราคาหุ้นที่ 1.80 บาทเมื่อเทียบกับศักยภาพของบริษัทแล้วถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างต่ำ
โดยมีราคาต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี (Price Per Book) อยู่ที่ 1.68 เท่า
ขณะที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง กล่าวถึง UNIQ ว่า คาดว่าจะไม่สามารถยืน
เหนือราคาจองที่ 1.80 บาท/หุ้นได้ เนื่องจากผลการดำเนินงานในปี 2549 ของบริษัทฯออกมาไม่
ดี ซึ่งอาจจะสะท้อนและส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นในกระดานได้ โดยในปี 2549 ปรากฎว่า UNIQ
มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 40 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 218 ล้านบาท แต่ถ้านักลงทุน
ระยะยาวสามารถซื้อเพื่อลงทุนได้ เพราะอนาคต คาดว่าคงจะมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานก่อ
สร้างสะพาน ถนน ที่จะทยอยเข้ามาในช่วงกลางปีนี้