April 29, 2024   6:42:58 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สัญญาณหุ้น
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 30/03/2007 @ 11:04:43
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บล.สินเอเชียแนะนำถือ EGCOMPราคาเป้าหมาย 95.00 บาทEGCOMP คาดว่าการประมูลไอพีพีที่จะเกิดขึ้นในเดือนเมย.50 นี้ จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่ที่จะเปิดประมูลประมาณ 8 พันเมกะวัตต์ โดยมีสมมติฐานว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือกฟผ.อาจได้รับสิทธิ์ในกำลังการผลิตใหม่สัดส่วน 50% ทำให้มีกำลังการผลิตประมาณ 4 พันเมกะวัตต์ที่จะเปิดให้ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนประมูล หรือคิดเป็นโรงไฟฟ้าขนาด700-800 เมกะวัตต์จำนวน 5-6 โรง และคาดหวังว่? จะชนะการประมูลไอพีพีประมาณ30% ของกำลังการผลิตใหม่ คิดเป็น 1.2 พันเมกะวัตต์ หรือเป็นโรงไฟฟ้าประมาณ 2 โรงโดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สอดคล้องกับเงื่อนไขในการประมูล โดยในปี 50 จะได้รับรู้ส่วนแบ่งกํไรจากโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีสัดส่วน 50% ของกำลังการผลิต 1.4 พันเมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 สัดส่วน 50% จากกำลังการผลิต1.4 เมกะวัตต์ โดยรับรู้ Phase 1 จำนวน700 เมกะวัตต์ประมาณมีค.50 และรับรู้ Phase 2 อีก 700 เมกะวัตต์ประมาณ มีค.51และในปี 53 จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้านำเทิน 2 สัดส่วน 25% ของกำลังการผลิตรวม 920 เมกะวัตต์กำลังการผลิตรวมของ EGCOMP จากปี 50-52 คาดว่ากำไรปกติปี 50 จะอยู่ที่ 6,279 ล้านบาท สูงขึ้น 19% YoYเป็นผลจาก 1) รับรู้รายได้และกำไรในสัดส่วน 50% จากโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 หน่วยที่ 1 กำลังการผลิต 700เมกะวัตต์ที่จะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์เดือนมี.ค.50 และ 2) รับรู้รายได้และกำไรจากโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีในสัดส่วน50% ของกำลังการผลิตรวม 1.4 พันเมกะวัตต์ตั้งแต่ช่วง 2Q50 เป็นต้นไป

บล.ธนชาตแนะนำซื้อ CPFราคาเป้าหมาย 5.70 บาทแม้ว่าตลาดคาดว่า CPF จะรายงานผลประกอบการที่ย่ำแย่ใน 1Q07 แต่มีความเป็นไปได้ว่าผลประกอบการที่จะประกาศออกมาจริงนั้นอาจจะแย่กว่าที่ตลาดคาดการไว้ TNS คาดว่าCPFจะประกาศผลประกอบการใน 1Q07 ขาดทุนมากกว่า 1Q04 ซึ่งเป็นไตรมาสแรกที่มีปัญหาการระบาดของไข้หวัดนก ใน 1Q04 CPF คนได้หันมาหยุดทานไก่ เนื่องจากการระบาดครั้งแรกของไข้หวัดนกในประเทศไทย ส่งผลให้ราคาเฉลี่ยของไก่ลดลง 14% เหลือ 23.7บาทต่อกิโลกรัม ต่ำกว่าจุดคุ้มทุน (break-even level) ที่ราคา 27 บาทต่อกิโลกรัมอย่างไรก็ดีการหยุดบริโภคไก่ทำให้ราคาเนื้อหมูเพิ่มขึ้น 23% จาก 37 บาทต่อกิโลกรัมเป็น 45.7 บาทต่อกิโลกรัม แต่ใน 1Q07 ทั้งราคาเนื้อไก่และเนื้อหมูได้ลดลงมาสู่จุดคุ้มทุนเนื่องจากผลกระทบจากการวางระเบิดกรุงเทพเมื่อสิ้นปี 2006 และจากราคาเนื้อหมูที่ลดลง นอกจากนี้การเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบก็เป็นแรงกดดันต่อ Marginราคาเฉลี่ยของเนื้อไก่ในประเทศ ใน 1Q07 อยู่ที่ 26.3 บาทต่อกิโลกรัม ต่ำกว่าราคาคุ้มทุนที่ 30 บาทต่อกิโลกรัมอยู่ 12% ขณะที่ราคาเนื้อไก่เฉลี่ยปัจจุบันอยู่ที่ 33 บาทต่อกิโลกรัม ต่ำกว่าราคาคุ้มทุนที่ 40 บาทต่อกิโลกรัมอยู่ 21% อย่างไรก็ดีเรามีมุมมองในเชิงบวกสำหรับผลประกอบการใน 2Q07เนื่องจากการปรับตัวเข้าสู่ดุลยภาพอีกครั้งของอุปสงค์ และอุปทานของเนื้อไก่ซึ่งเห็นได้จากแนวโน้มการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาเนื้อหมูและไก่ เป็น 39 บาท และ32บาทต่อกิโลกรัม ตามลำดับ

บล.กิมเอ็งแนะนำซื้อ SATราคาเป้าหมาย 15.50 บาทบมจ. สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) ได้จัดงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน(Opportunity Day) เมื่อวาน(27 มี.ค.) ผู้บริหารได้ตั้งเป้าหมายแผนงานใน 3 ปีข้างหน้า คือ ยอดขายปี 2550 คาดหมายว่าจะขยายตัว 10%, ปี 2551 ขยายตัว 17%, และ ปี 2552ขยายตัว 7% และตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ประมาณ 20% สำหรับในปี 2550 กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยประเมินยอดผลิตรถยนต์จะโต 8% แต่ SAT สามารถโตกว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ได้เล็กน้อยคือ 10% เนื่องจากการได้รับคำสั่งซื้อใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นสำหรับในช่วงเดือน ม.ค. ก.พ. 2550 ที่ผ่านมาแม้ว่ายอดผลิตรถยนต์จะติดลบ 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ยอดขายของ SAT ในช่วงสองเดือนแรกยังโตประมาณ 10%โครงการต่างๆได้แก่ 1.) โครงการผลิต Module ช่วงล่างรถยนต์ ซึ่งจะสร้างรายได้แก่SAT ประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี มูลค่าลงทุนประมาณ 1,200-1,500 ล้านบาทปัจจุบันกำลังรอยืนยันจากลูกค้า และ 2.) โครงการจะเข้าซื้อกิจการโรงหล่อเหล็กเหนียวใช้เงินประมาณ 200 ล้านบาท จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและทำให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น 2.5% คาดจะได้ข้อสรุปไตรมาส 2/50 นี้ สำหรับประมาณการของเราประเมินยอดขายของ SAT จะเท่ากับ 4,638 ล้านบาท ขยายตัว 9% ต่ำกว่าประมาณการของผู้บริหารเล็กน้อย มีอัตรากำไรขั้นต้น 18.4% เทียบกับประมาณการของผู้บริหาร 20% และ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 468 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 1.56 บาท) เพิ่มขึ้น 6%

บล.โกลเบล็กแนะนำซื้อ APราคาเป้าหมาย 5.30 บาทAP มียอดขายในช่วง 2 เดือนแรกของปี 50 ราว 2.7 พันล้านบาทจากการจัดงาน APBest Address และการเปิดขายคอนโดมิเนียม The Address@Chidlom ซึ่งมียอดขายแล้ว 60% ถือว่าดีทีเดียวสำหรับช่วงเวลาที่เรากังวลว่าเหตุระเบิดส่งท้ายปีอาจส่งผลกระทบต่อยอดขาย ทำให้ปัจจุบัน AP มียอดขายที่รอรับรู้เป็นรายได้ (backlog) กว่า 9.5 พันล้านบาทแบ่งเป็นยอดขายโครงการแนวราบ 2 พันล้านบาทซึ่งน่าจะโอนทันภายในปีนี้ ส่วนที่เหลืออีก 7.5 พันล้านบาทเป็นยอดขายคอนโดมิเนียมที่จะทยอยรับรู้ในปี 51-52 ถือเป็นbacklog ที่ปลอดภัยสำหรับการเติบโตของยอดขายระดับ 10-15% ต่อปี AP มี backlogในระดับสูงเราจึงปรับเพิ่มประมาณการณ์ยอดขายปี 50 ขึ้น 11% เป็น 7,344 ล้านบาท (เดิม 6,633 ล้านบาท) ขยายตัว 16%yoy โดยมี backlog รองรับแล้ว 4.9 พันล้านบาทคิดเป็น 67% ของประมาณการณ์ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมสยาม-ปทุมวันมูลค่า 2.9 พันล้านบาทซึ่งขายหมดแล้วและจะเริ่มโอนได้ราว Q3/50 และ backlog ยกมาของโครงการในแนวราบอีก 2 พันล้านบาท ซึ่งน่าจะบันทึกได้หมดภายในปีนี้ ทั้งนี้สินค้าสำหรับขายในปีนี้มีมูลค่ารวม 1.2 หมื่นล้านบาทแบ่งเป็นโครงการเก่ามีมูลค่าคงเหลือต้นปี 7.9 พันล้านบาทและปีนี้มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 4.2 พันล้านบาท ได้แก่คอนโดมิเนียม The Address@Chidlom ที่เปิดตัวไปแล้ว และทาวน์เฮาส์อีก 3 โครงการในทำเลซอยโชคชัย4 ถ.กรุงเทพกรีฑา และถ.ลาดปลาเค้า ด้วยสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 32%สัดส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขาย 14.2% และอัตราจ่ายภาษีเงินได้ 30% เราคาดกำไรสุทธิปี 50 ใหม่เพิ่มอีก 3% เป็น 862 ล้านบาท (เดิม 838 ล้านบาท) ซึ่งเติบโต 10%yoy

ที่มา ข่าวหุ้น[/color:69d086815a">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com