ดัชนีหุ้นไทย วันที่ 30 มี.ค. 50 ปิดที่ 673.71 จุด เพิ่มขึ้น 2.09 จุด มูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบาง อยู่ที่ 8,234.65 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,293.86 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 1,443.84 ล้านบาท

หุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด นำโดย PTT ปิด 208 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง, PTTEP ปิด 90.00 บาท บวก 2.50 บาท, BBL ปิด 108 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง, TCAP ปิด 14.10 บาท บวก 1.40 บาท และ SCB ปิด 68 บาท บวก 0.50 บาท

ยังคงมีแรงดอดเข้ามาทยอยเก็บหุ้นน้ำดี เพื่อรอรับปันผลงาม...งาม!!

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.นครหลวงไทย มองว่าการที่นายกรัฐมนตรีออกมายืนยันว่าจะยังไม่มีการพิจารณาประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการออกมาระบุช่วงของการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ถือเป็นการสร้างความชัดเจนให้กับสถานการณ์การเมืองที่อึมครึมมาตลอด ถือว่าเป็นภาพที่ดีขึ้น

แม้นักลงทุนในประเทศส่วนใหญ่จะยังคงกังวลกับเหตุการณ์ชุมนุมที่เกิดขึ้น แต่เชื่อว่าไม่น่ามีความรุนแรง ขณะที่หุ้นพลังงานยังช่วยพยุงตลาด หลังมีการปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก

ขณะที่มองทิศทางตลาดสัปดาห์หน้าว่า ดัชนีจะเคลื่อนไหวในลักษณะประคองตัวหากการชุมนุมไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น เชื่อว่าตลาดจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นมาได้ แต่คงไม่ได้ไกลมาก เพราะตลาดยังขาดปัจจัยบวกที่เด่นๆเข้ามากระตุ้นให้ดัชนีปรับตัวขึ้นแรงๆได้

แนะกลยุทธ์การลงทุน ให้เลือกซื้อหุ้นเป็นรายกลุ่มที่ ความเสี่ยงต่ำ และมีการจ่ายปันผลดี ด้านเทคนิคให้แนวรับของดัชนีไว้ที่ 665 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 680 จุด

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เคทีบี มองแนวโน้มสัปดาห์หน้าว่า ดัชนีไม่น่าจะผ่านแนวต้านที่ 675 จุดขึ้นไปได้ ขณะที่ต้องติดตามการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยรอบนี้เท่าไหร่ ซึ่งตลาดคาดกันว่าน่าจะมีการปรับลดลงได้ถึง 0.50%

กลยุทธ์การลงทุน สำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะให้รอรับที่แนวรับ 665 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 675 จุด.

อินเด็กซ์ 51