May 16, 2024   10:30:08 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > 14 หุ้น ติดโผถูกถอด....Bay..Top ข่าวดี
 

samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
วันที่: 02/04/2007 @ 09:08:24
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

MSCI จ่อลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยจาก 2.32% อีกระลอก พ.ค.นี้ พร้อมเปลี่ยนเกณฑ์คำนวณหุ้นใหม่ กระทบ 14 หลักทรัพย์ไทยติดโผถูกถอด แต่อีก 2ตัว TOP และ BAY รับข่าวดีได้เข้าดัชนีใหม่ ส่วนหุ้นสัปดาห์นี้แกว่งตัวกรอบแคบรอดูท่าทีการเมือง หุ้นมาร์เก็ตแคปใหญ่ขึ้น XD

รายงานข่าวจากโนมูระ ระบุว่า บริษัท MSCI จะมีการปรับปรุงเกณฑ์ดัชนีมาตรฐานในMSCI Global Investment Market ซึ่งจะพิจารณาถึงขนาดและสภาพคล่องการลงทุนที่เหมาะสมในการลงทุน โดยการปรับปรุงดัชนีดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือช่วงแรกจะเริ่มใช้สิ้นเดือน พ.ย.2550 และช่วงที่ 2 ใช้ในสิ้นเดือนพ.ค.2551

จากเกณฑ์ที่ MSCI กำหนดขึ้นใหม่นี้มีผลทำให้น้ำหนักการลงทุนของประเทศในเอเซียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่นมีทั้งปรับขึ้นและลดลง โดยประเทศที่มีตลาดหุ้นขนาดใหญ่จะมีน้ำหนักลงทุนเพิ่มมากขึ้น คือ จีน ฮ่องกง และไต้หวัน ขณะที่น้ำหนักการลงทุนในประเทศอินโดนีเซียเกาหลี มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทยคาดว่าจะลดลง ซึ่งปัจจุบัน MSCIเอเชียไม่รวมญี่ปุ่นมีน้ำหนักลงทุนในหุ้นไทย 2.32% ขณะที่ตะวันออกไกลไม่รวมญี่ปุ่นอยู่ที่ 2.58%

โดยในการปรับเกณฑ์ครั้งนี้คาดว่าจะมีหุ้นเข้าใหม่เพื่อใช้คำนวณน้ำหนักจำนวน 45หุ้น ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มพลังงาน และธนาคารในเกาหลีและจีน ส่วนบริษัทที่คาดว่าจะถูกถอดออกจากการคำนวณจะมี 102 บริษัท ส่วนใหญ่เกิดจากบริษัทเหล่านี้มีปริมาณการซื้อขายและขนาดน้อยกว่าเกณฑ์คำนวณ

ทั้งนี้ในส่วนของไทยโนมูระคาดว่า หลังการปรับปรุงดัชนีครั้งนี้จะมี 2 บริษัทที่จะเข้าไปคำนวณเพิ่มคือบริษัทไทยออยล์ หรือ TOP และธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ BAY ขณะที่จะมี 14 ตัวถูกถอดออกจากการคำนวณดัชนีประกอบด้วย ATC PSL TRUE DELTA HANAITD TUF MAKRO BECL TCAP KK SSI TISCO และ KEST

MSCI ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อให้ดัชนี MSCI มีความครอบคลุมตลาดเกิดใหม่มากขึ้น และจะดำเนินการไปทีละขั้นใน 3 ขั้นตอน ขณะที่คาดว่าจะโดยจะมีการประกาศรายละเอียดขั้นสุดท้ายของวิธีการ

ทั้งนี้ดัชนีใหม่ให้ความสำคัญกับรูปแบบการลงทุนต่างๆ, มูลค่าทุนในตลาด และกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ขณะที่นักลงทุนมองหาผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น

เมื่อการเปลี่ยนแปลงเสร็จสมบูรณ์ ดัชนี MSCI Standard Indices ก็จะประกอบด้วยดัชนี MSCI Large Cap และ Mid Cap Indices

ขณะที่ดัชนี MSCI Small Cap Index ในปัจจุบัน จะมีการปรับเปลี่ยนเช่นกัน โดยจะปรับวิธีการคำนวณตามดัชนี Global Investable Market Indices และจะไม่ซ้ำซ้อนกับดัชนี MSCI Standard Indices แบบใหม่

นายวรุฒน์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่าหุ้น BAYและ BAY-W1 ปรับขึ้นวันนี้ มีความเป็นไปจากการวิ่งรับข่าวที่ MSCI จะนำ BAY เข้าอยู่ในการคำนวณดัชนีในคราวต่อไป

นอกจากนี้ใแง่พื้นฐานน่าจะค่อยๆ ดีขึ้นหลังจากที่ GE เข้ามาเป็นพันธมิตร ซึ่งต้องใช้เวลาการที่จะควบรวมกันเข้าไป แต่ศักยภาพของแบงก์ดีขึ้นแน่นอนเพราะพอมี GE เข้ามาเรตติ้งก็จะอัพเกรดขึ้นไป ต้นทุนทางการเงินก็จะถูกลง

"เรากำลังจะปรับคำแนะนำขึ้นไปเป็นซื้อแต่เป็นการลงทุนระยะยาว เพราะกำไรปีนี้ฟื้นขึ้นมาจากปีที่แล้ว แต่ความสามารถในการทำกำไรเมื่อเทียบกับแบงก์ขนาดใหญ่สู้ไม่ได้ แต่ปีหน้าจะโตดีมากๆ เพราะฉะนั้นน่าจะเป็นซื้อลงทุนระยะยาวราคาเป้าหมายอยู่ระหว่างการปรับขึ้นใหม่"นายวรุตม์ กล่าว

ขณะที่แหล่งข่าวจากนักวิเคราะห์ กล่าว่า BAY รับผลดีสุดจากการปรับวิธีคำนวณดัชนีครั้งนี้ของ MSCI เนื่องจากถือเป็นข่าวใหม่ ขณะที่ในส่วนของไทยออยล์ตลาดค่อนข้างจะรับข่าวไปแล้วก่อนหน้า

อย่างไรก็ตามมองว่าการปรับลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบมากนักเนื่องจากเป็นเกณฑ์ใหม่ ทุกประเทศได้รับผลกระทบ ไม่ใช่เฉพาะไทย

ขณะที่นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า กรณีที่สถาบันการจัดอันดับ Morgan Stanley CapitalInternational (MSCI) มีแนวโน้มถอดหุ้นไทยหลายตัวออกจากการคำนวณดัชนีการลงทุนเป็นการสะท้อนความเห็นเพียงมุมเดียวเท่านั้น

"สิ่งสำคัญที่ควรให้ความสนใจ คือ ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยและมุมมองของหลาย ๆฝ่าย ซึ่งที่ผ่านมามีสถาบันจัดอันดับหลายแห่งที่ปรับเพิ่มน้ำหนักในการลงทุนหุ้นไทย ดังนั้น การปรับเพิ่มหรือลดการลงทุนในตลาดหุ้นไทยของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นประจำ"นางภัทรียา กล่าว

นายเพิ่มศักดิ์ ชีวาวัฒนานนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ATC กล่าวว่าการถูกปรับลดน้ำหนักครั้งนี้คงเกิดจากขนาดบริษัทไม่เป็นไปตามเกณฑ์ของการคำนวณดัชนีใหม่ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในส่วนของหุ้นคงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะพื้นฐานยังเหมือนเดิม โดยไตรมาส1 ปีนี้บริษัททำรายได้ได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

สำหรับบรรยากาศการลงทุนดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้คาดว่าจะแกว่งตัวกรอบแคบ ขณะที่ตลาดยังกังวลต่อความเสี่ยงจากปัจจัยทางการเมือง และการขึ้นเครื่องหมาย XD หุ้นบมจ.ปตท.(PTT)และธ.กรุงไทย(KTB)จะถ่วงบรรยากาศลงทุนในช่วงต้นสัปดาห์

นักวิเคราะห์ มองว่า ตลาดยังต้องติดตามทิศทางการเมือง และราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลต่อภาพเศรษฐกิจ แม้คาดว่าการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนมี.ค.ยังมีแนวโน้มลดลง จะเปิดโอกาสให้ดอกเบี้ยนโยบายลดลงได้ก็ตาม

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้ที่ 665-680 จุด โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 30มี.ค.ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 673.71จุด ลดลง 0.6% จากระดับปิด 677.79 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ 23มี.ค. โดยตลอดสัปดาห์นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3.01 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการซื้อสุทธิต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้า

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com