samjin สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 352 | วันที่: 02/04/2007 @ 09:10:48 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยถูกกดดันจากอิทธิพลทางการเมืองอย่างหนัก จนนักลงทุนต่างชาติต้องเทมาขายหุ้นบลูชิพออกมาเป็นจำนวนมากเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตส่งผลให้ดัชนีอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่คาดว่าจะส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจชลอตัว ในขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานกลับเป็นหุ้นเพียงกลุ่มเดียวที่ได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าว
ส่วนข่าวการลงนามเขตการค้าเสรี(FTA)กับญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มเหล็กปลายน้ำอาหาร และชิ้นส่วนยานยนต์ กลับไม่ช่วยให้นักลงทุนเข้ามาไล่ซื้อหุ้นกลุ่มดังกล่าวเหมือนกับที่คาดการณ์กันไว้
ประกอบกับสัปดาห์ที่แล้วมีกหารชุมนุมของม็อบต่างๆ มากมาย และคาดว่าจะมีการประทะกันเกิดขึ้น ยิ่งทำให้นักลงทุนกลุ่มต่างๆ ชลอการลงทุน และถอยออกจากตลาดหุ้นเพื่อดูสถานการณ์ให้แน่ใจก่อนเข้าลงทุนใหม่อีกครั้ง
ถึงกระนั้นนักลงทุนราย่อยบางส่วนยังคงเข้ามาเล่นหุ้นเก็งกำไรสั้นๆ เพราะกลุ่มหุ้นขนาดเล็กมีราคาหุ้นเคลื่อนไหวหวือหวา และเป็นทางเลือกเดียวที่นักลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนได้ในเวลานี้
หากบรรยากาศการลงทุนยังเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้แบบนี้ ย่อมส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายซบเซาลงไปเรื่อยๆ ซึ่งเห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยตลอดทั้งสัปดาห์อยู่แค่ระดับ 8-9 พันล้านบาท ขณะเดียวกันเรื่อง Window dressing ก็ส่งผลบวกกับตลาดฯในระยะสั้นเท่านั้น และคาดว่าสัปดาห์นี้ดัชนีมีโอกาสอ่อนตัวลงมากกว่าปรับตัวขึ้น
สำหรับกลุ่มหุ้นที่นักลงทุนควรเลือกซื้อเก็บช่วงอ่อนตัวลงมา คือ หุ้นกลุ่มแบงก์ หุ้นกลุ่มบริการ หุ้นกลุ่มปิโตรเคมี และหุ้นกลุ่มพลังงาน เพราะหุ้นกลุ่มดังกล่าวมีราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน
โดยสัปดาห์นี้ดัชนีมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 680-690 จุด และมีแนวรับสำคัญที่ 665-655จุด
|