May 15, 2024   8:02:33 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สัญญาณหุ้น
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 03/04/2007 @ 10:08:11
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บล.โกลเบล็กแนะนำซื้อ SFราคาเป้าหมาย 9.60 บาทเนื่องจากLifestyle ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยหันมาซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน หรือรับประทานอาหารในศูนย์การค่าใกล้บ้านมากขึ้น ทำให้ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ขนาดของศูนย์การค่าที่ใช้พื้นที่น้อยกว่า รวมทั้งต้องการจำนวนคน/วัน โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะอยู่ในรัศมี 3 - 5 กม.) ทำให้โอกาสและทำเลในการขยายธุรกิจยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งคู่แข่งโดยตรงที่ดำเนินธุรกิจในรูปแบบเดียวกันส่วนใหญ่เป็นผู้พัฒนาโครงการรายย้อย ในขณะที่คู่แข่งทางอ้อม ได้แก่ ผูพัฒนาโครงการศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เช่น Central ,The Mall ยังไม่มีนโยบายหันมาพัฒนาโครงการขนาดเล็ก ทํให้ SF เป็นผู้นำในการพัฒนาและบริหารศูนย์การค้าชุมชน รวมทั้งตั้งเป้าเปิดสาขาเพิ่มอีก 25 โครงการ ภายใน 5 ปี กลยุทธ์ในการทำธุรกิจของ SF ซึ่งเน้นการหาทำเลที่เหมาะสมโดยจะใช้การเช่าระยะยาวพื้นที่ที่จะพัฒนาโครงการแทนการซื้อที่ดิน ทำให้สามารถบริหารสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่มีการลดความเสี่ยงของบริษัทโดยการมีสัดส่วนลูกค้าที่เช่าพื้นที่ระยะยาวในแต่ละโครงการไม่ต่ำกว่า 30% ทำให้อัตราการเช่าพื้นที่ของบริษัทไม่ผันผวน โดยในช่วงที่ผ่านมาศูนย์การค่าของ SF มีอัตราการเช่าพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 95% คาดว่าในปี 50 บริษัทจะมีรายได้ 1,893 ล้านบาท เติบโต 14.8% จากปี 49

บล.สินเอเชียแนะนำถือ RATCHราคาเป้าหมาย 49.00 บาทคาดว่าปี 50 RATCH จะมีกำไรปกติประมาณ 5,612 ล้านบาท ลด 18% YoY เพราะในปี50 จะมีการหยุดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ซึ่งจะเกิดขึ้นทุกๆ 6 ปี โดยจะหยุดซ่อมบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมและโรงไฟฟ้าพลังความร้อรวม 4 เครื่องในช่วง 3Q50 และ 4Q50 ทำให้จำนวนวันในการเดินเครื่องน้อยลง รวมทั้งจะมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงสูงขึ้นด้วย ใน4Q49 RATCH ได้บันทึกค่าใช้จ่ายตั้งสำรองค่าเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้เครื่องดักจับก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ของโรงงานไฟฟ้าพลังความร้อนเครื่องที่ 1 จำนวน 750 ล้านบาทไว้ ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทประกันเพื่อขอรับเงินชดเชยคืนทั้งจำนวน คาดว่าจะได้ข้อยุติภายในปี 50 ซึ่งหากได้รับเงินประกันคืน จะช่วยให้กำไรสุทธิปี 50 ของRATCH ดีขึ้นจากที่ประมาณการไว้ คาดว่าปริมาณการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าไอพีพีครั้งนี้มีจำนวนรวมประมาณ 3-4 พันเมกะวัตต์ และกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ประมาณปี 2554 - 56 ทั้งนี้ RATCH ได้เตรียมความพร้อมในการยื่นประมูลอย่างน้อย 2 โรง RATCHตั้งงบลงทุนระยะ 5 ปีสำหรับโครงการใหม่ไว้ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท ทั้งโครงการโรงไฟฟ้าในลาวและโรงไฟฟ้าไอพีพีที่จะได้จากการประมูลรอบ 2 โดย RATCH คาดว่าจะใช้กระแสเงินสดที่มีอยู่ประมาณ 8 พันล้านบาทในการลงทุน และคาดว่า จะยังไม่มีการการกู้เงินเพิ่มหรือออกหุ้นกู้ในระยะ 2-3 ปีนี้

บล.เคจีไอแนะนำซื้อ CPFราคาเป้าหมาย 5.35 บาทดังที่ได้เคยคาดไว้ ราคาสัตว์ปีกและสุกรภายในประเทศเริ่มฟื้นตัว เนื่องจากปริมาณในตลาดลดลงในระยะยาว ราคาไก่คงตัวอยู่ที่ 32-34 บาทต่อกก. ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ราคาสุกรได้ปรับตัวเพิ่มเป็น 39 บาทต่อกก. จากที่เคยลดลงถึง 32 บาทต่อกก. ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากการลดปริมาณการผลิตไก่ในช่วง 2เดือนแรกของปี 2550 อย่างไรก็ดี พิจารณาจากความจริงที่ว่าไตรมาส 1/50 เป็นช่วงของการปรับอุปสงค์และอุปทานทั้งภายในและนอกประเทศ เราคาดว่ารายรับและผลประกอบการในไตรมาส 1/50 จะยังคงตกต่ำ และเราเชื่อว่าครึ่งหลังของปี 50 จะดีขึ้น เราปรับรายได้และรายรับปี 2550 อีก 4% และ 28% และปี 2008 อีก 6% เพื่อรับแนวโน้มของบริษัทที่ดีขึ้น อย่างไรก็ดี เนื่องจากราคาข้าวโพดและและวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้น เราปรับลดกำไรขั้นต้นลง เราเชื่อว่าราคาหุ้นของบริษัทฯ ที่ปรับตัวลดลงเมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นโอกาสในการซื้อจากผลประกอบการที่ตกต่ำในไตรมาส 1/50 อย่างไรก็ดี รายรับและกำไรควรจะเริ่มพลิกฟื้นในไตรมาส 2/50 และปี 2551 จะเป็นปีที่ดีขึ้น จากอุปสงค์ที่ดีขึ้น ปัจจุบันหุ้นนี้ขายอยูjที่PE07 11.9x และ PB07 ที่ 0.8x และคาดว่าจะให้ผลตอบแทนในรูปเงินปันผลที่ 4.2%

ที่มา ข่าวหุ้น[/color:dcb34f4a9c">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com