[b:ad32c93770">ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดบวก 6.91 จุด รับผลมาตรการกระตุ้นศก.,สัปดาห์หน้ายังมีลุ้นลดดอกเบี้ย [/b:ad32c93770">

SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 686.53 จุด เพิ่มขึ้น 6.91 จุด(+1.02%) มูลค่าการซื้อขาย 13,882.02 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้น รับผลจากมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาฯ หากกระตุ้นแล้วฟื้นจะช่วยให้หลาย ๆ ภาคธุรกิจมีการปรับตัวดีขึ้น แม้วันนี้จะมีขึ้น XD หุ้น PTT แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดฯ นอกจากนี้สัปดาห์หน้ายังมีลุ้นปรับลดดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมกนง.11 เม.ย.นี้ ส่วนแนวโน้มพรุ่งนี้คาดตลาดฯยังขึ้นต่อได้ แต่เทคนิคช่วงสั้นอาจรีบาวน์กลับได้ไม่เกิน 700 จุด เหตุยังมีเรื่องการเมืองที่ยังไม่นิ่งทำให้ตลาดฯขึ้นได้ค่อนข้างจำกัด โดยให้แนวรับ 682 จุด แนวต้าน 688 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 686.53 จุด เพิ่มขึ้น 6.91 จุด(+1.02%) มูลค่าการซื้อขาย 13,882.02 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเกือบตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 686.53 จุด และแตะจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 679.27 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 237 หลักทรัพย์ ลดลง 100 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 105 หลักทรัพย์

น.ส.ปองรัตน์ รัตนะตวณานนท์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น โดยประเด็นที่ทำให้ตลาดปรับตัวขึ้นมาเป็นเรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งใน Sector หลักที่จะกระตุ้นก็เป็นกลุ่มยานยนต์, อิเลคทรอนิกส์ และอสังหาฯ แต่มองว่ากลุ่มที่ดูแล้วได้ประโยชน์น่าจะเป็นกลุ่มอสังหาฯ เพราะภาพรวมยานยนต์ และอิเลคทรอนิกส์ จริง ๆ ได้ประโยชน์จาก BOI อยู่แล้ว ถ้าจะเพิ่มอะไรให้อีกก็คงจะเพิ่มไม่ได้มากนัก

ขณะที่กลุ่มอสังหาฯที่เวลานี้เรียกได้ว่าไม่มีอะไรมาช่วยเลย การที่จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยผ่าน Sector นี้ คิดว่ามาตรการกระตุ้นอสังหาฯก็น่าที่จะต้องมีออกมาและทำให้อสังหาฯฟื้นตัวได้ ซึ่งการฟื้นตัวของอสังหาฯจะช่วยให้หลาย ๆ ภาคธุรกิจมีการปรับตัวดีขึ้น เพราะถ้าพูดถึงอสังหาฯก็พูดถึงบ้าน คอนโดฯ การก่อสร้างต่าง ๆ แน่นอนว่า จะต้องนึกไปถึงวัสดุก่อสร้าง นึกไปถึงแบงก์ ซึ่งก็เป็นตัวหลักของ real sector ด้วยเหมือนกัน ก็เลยทำให้นักลงทุนเข้ามาดักซื้อก่อนที่จะมีการประชุมอะไรกันออกมา

"ตอนนี้ในเรื่องของเศรษฐกิจทุกคนรู้สึกว่าไม่ค่อยดี ความรู้สึกของนักลงทุน หรือผู้บริโภค รู้สึกไม่ค่อยดี เพราะอย่างน้อยที่สุดเราเห็นได้จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงมาเรื่อย ๆ ซึ่งหลาย ๆ ฝ่ายเองก็เห็นว่าควรมีมาตรการอะไรออกมาสักอย่างมากระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะถ้าความเชื่อมั่นไม่กลับมา การใช้จ่ายในประเทศมันจะลดลง ก็จะต้องส่งผลให้เศรษฐกิจมันแย่อย่างที่ทุกคนรู้สึก ดังนั้นก็มองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะมีการประชุมกัน ก็น่าที่จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้"น.ส.ปองรัตน์ กล่าว

แม้วันนี้หุ้น PTT จะขึ้น XD เป็นวันแรก แต่ก็สังเกตุได้ว่าหุ้น PTT ไม่ได้ปรับตัวลงมากกว่าเงินปันผลเลย แล้วหุ้นใหญ่หลาย ๆ ตัว ก็มีการปรับตัวดีขึ้น ดังนั้นก็ทำให้ไม่เห็นว่า PTT ขึ้น XD แล้วมีผลกับตลาดฯ

นอกจากนี้ สัปดาห์หน้าจะมีการประชุมของแบงก์ชาติเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทุกคนก็คาดหวังว่าแบงก์ชาติคงจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ 0.50% แต่ข้อเท็จจริงก็ต้องรอลุ้นวันที่ 11 เม.ย.นี้

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(4 เม.ย.) คาดว่า ตลาดฯน่าจะยังปรับขึ้นต่อได้ แต่ก็ต้องรอดูเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจว่าจะมีเนื้อหาสาระสำคัญอะไรที่จะทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจกลับมาอยู่ในระดับที่ดีได้ แต่ในทางเทคนิคระยะสั้นคาดว่าจะรีบาวน์กลับขึ้นไปได้ไม่เกิน 700 จุด เพราะเรื่องของการเมืองที่ยังไม่ค่อยนิ่งจะเป็นตัวที่ทำให้การปรับขึ้นของตลาดฯค่อนข้างจะมีข้อจำกัดอยู่ ส่วนกรอบการแกว่งในวันพรุ่งนี้ให้แนวรับ 682 จุด แนวต้าน 688 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 943.79 ล้านบาท ปิดที่ 208.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 791.49 ล้านบาท ปิดที่ 110.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 544.36 ล้านบาท ปิดที่ 94.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
IRPC มูลค่าการซื้อขาย 518.91 ล้านบาท ปิดที่ 6.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 495.62 ล้านบาท ปิดที่ 242.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา

ATC & RRC Consolidation: การควบรวมกิจการของ ATC+RRC น่าจะสำเร็จปลายปีนี้ - ซื้อ ATC

การรวมกิจการของ ATC+RRC คาดจะแล้วเสร็จปลายปี 50
เราคาดว่าแนวทางการควบรวมกิจการ ATC+RRC จะได้ข้อสรุปภายในเดือน พ.ค.นี้ และจะดำเนินการแล้วเสร็จช่วงปลายปี 50

วิธีการรวมกิจการแบบ Amalgamation น่าจะเหมาะสมที่สุด
การควบรวมกิจการแบบ Amalgamation โดย ATC+ RRC = Merged Co จะช่วยลด transaction cost และภาระภาษีให้แก่ผู้ถือหุ้นของทั้ง 2 บริษัทในการแลกหุ้นเป็น Merged Co

คาด Swap Ratio ATC: RRC: Merged Co. เท่ากับ1: 2.56: 1.84
ในการแลกหุ้นเป็น Merged Co. ฝ่ายวิจัยคาดว่า Swap ratio จะเท่ากับ 1 หุ้น ATC ได้ 1.84 หุ้นในบริษัทใหม่ และ 1 หุ้น RRC ได้ 0.72 หุ้นในบริษัทใหม่ หรือ 1 หุ้น ATC = 2.56 หุ้น RRC = 1.84 หุ้นบริษัทใหม่ ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่คำนวณมาจากมูลค่าหุ้นที่ประเมินด้วยวิธี DCF ของ ATC เท่ากับ 48 บาท เทียบกับมูลค่าหุ้นของ RRC ที่ 18.75 บาท (PER 8x)
ATC มีความน่าสนใจกว่า RRC จากการประเมินการแลกหุ้น

หากพิจารณาราคาหุ้นทั้ง 2 บริษัท เทียบกับ Swap ratio ที่เราประเมิน พบว่าปัจจุบันราคาหุ้น ATC ยังมี Upside มากกว่า ทำให้มีความน่าสนใจกว่า RRC ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในกรณีนี้ให้ ซื้อ ATC

การควบรวมกิจการจะก่อเกิดประโยชน์ในระยะยาว
บริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบบริษัทจะเป็นแกนนำในธุรกิจปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์ของกลุ่ม PTT ทำให้มีความชัดเจนในนโยบายการดำเนินธุรกิจ ซึ่งทั้ง ATC และ RRC ต่างมีแผนที่จะดำเนินธุรกิจร่วมกันในอะโรเมติกส์ คอมเพล็กซ์
ฐานะการเงินแข็งแกร่ง

บริษัทใหม่จะมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น โดยมีสินทรัพย์รวม 126,183 ล้านบาท มี EBITDA ประมาณ 18 พันล้านบาท (ณ สิ้นปี 49) ทั้งนี้ภาระหนี้สินโดยรวมของบริษัทใหม่จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับขนาดของสินทรัพย์