May 16, 2024   6:16:07 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > จุดพลุหุ้นโบรกเกอร์รับ ดบ.ขาลง
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 03/04/2007 @ 23:16:20
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

นักลงทุนจุดพลุหุ้นโบรกเกอร์ รับทิศทางดอกเบี้ยขาลง ทั้งการเมืองไม่ร้อนแรงเกินไป ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายพุ่งกระฉูดทะลุกว่า 1 หมื่นล้านบาท นักวิเคราะห์แนะนำซื้อ KEST-PHATRA-BLS-CNS

* นลท.ลุยซื้อหุ้นโบรกเกอร์
หุ้นกลุ่มโบรกเกอร์กลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้ง ท่ามกลางความคาดหมายของทุกๆ คนว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะตัดสินใจลดดอกเบี้ยอีก 0.5-1% ในการประชุมวันที่ 11 เมษายนนี้ ขณะที่สถานการณ์ทางการเริ่มได้คลี่คลายไปเปราะหนึ่ง เมื่อไม่มีเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงที่รุนแรงเกิดขึ้นในวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา

โดยวานนี้ (3 เม.ย.) หุ้นโบรกเกอร์ต่างปรับตัวขึ้นถ้วนหน้า นำโดย บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS ซึ่งปิดที่ระดับ 32.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท หรือ 11.11% มูลค่าการซื้อขาย 16.73 ล้านบาท, บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GBX ปิดที่ระดับ 1.44 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท หรือ 10.77% มูลค่าการซื้อขาย 42.58 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน) หรือ BSEC ปิดที่ระดับ 2.58 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท หรือ 5.74% มูลค่าการซื้อขาย 20.50 ล้านบาท, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ปิดที่ระดับ 2.74 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท หรือ 5.39% มูลค่าการซื้อขาย 72.73 ล้านบาท, บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ PHATRA ปิดที่ระดับ 30.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 4.27% มูลค่าการซื้อขาย 246.67 ล้านบาท และ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS ซึ่งปิดที่ระดับ 12.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 4.20% มูลค่าการซื้อขาย 14.57 ล้านบาท

* SET Index ปิดบวก ต่างชาติดอดเก็บหุ้นต่อ
ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปิดที่ระดับ 686.53 จุด เพิ่มขึ้น 6.91 จุด หรือ 1.02% มูลค่าการซื้อขาย 13,882.02 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,002.74 ล้านบาท ซึ่งเป็นการซื้ออย่างต่อเนื่องทุกวันทำการตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2550 จนถึงปัจจุบัน หลังก่อนหน้านี้เทขาย 212.76 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2550

ส่วนมูลค่าการซื้อขายได้ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากวันที่ 2 เมษายน 2550 ที่เกินกว่าหมื่นล้านบาท มาอยู่ที่ 12,172.14 ล้านบาท

* คาด กนง.ลดดอกเบี้ย 0.5-1%
แนวโน้มดอกเบี้ยขาลงที่คาดการณ์ว่า กนง.อาจพิจารณาลดลงถึง 0.5-1% เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ส่งผลให้เกิดคาดการณ์ตามมาว่า นักลงทุนจะโยกเงินจากเงินออมในธนาคาร มาลงทุนในหลักทรัพย์มากยิ่งขึ้น

โดยประเด็นนี้ นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. ได้ระบุว่า เป็นเรื่องของ กนง. ที่จะตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวโดยพิจารณาจากข้อมูลเป็นหลัก ไม่ใช่พิจารณาจากความรู้สึกว่าควรจะปรับลดลงเท่าใด

* แนะนำซื้อ KEST-PHATRA-BLS-CNS
นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ในวันที่ 3 เมษายน นักลงทุนเริ่มหันมาให้ความสนใจหุ้นในกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ ทำให้หุ้นในกลุ่มดังกล่าว อย่างหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ PHATRA รวมถึงหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS ที่ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการที่ปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเริ่มกลับเข้ามาคึกคักมากขึ้น โดยปริมาณการซื้อขายอยู่ในระดับประมาณ 10,000 ล้านบาท ติดต่อกันมา 2 วัน ดังนั้นจึงทำให้นักลงทุนระยาวรีบเข้ามาเก็บหุ้นพื้นฐานดีในกลุ่มหลักทรัพย์ในช่วงที่ตลาดฯเริ่มมีการรีบาวน์ขึ้น

ทั้งนี้ หากนักลงทุนที่สนใจจะเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ในช่วงนี้นั้น ก็สามารถทำได้ โดยแนะนำให้รออ่อนตัวซื้อ ในหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEST โดยให้แนวรับไว้ 16.50 บาท ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 18 บาท รวมทั้งหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ PHATRA ให้แนวรับไว้ที่ 30 บาท แนวต้านให้ไว้ที่ 32 บาท รวมทั้งหุ้นบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS โดยให้แนวรับไว้ที่ 12.20 บาท แนวต้านให้ไว้ที่ 13 บาท และหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS ให้แนวรับไว้ที่ 32 บาท แนวต้านให้ไว้ที่ 35 บาท

* ลุ้นวันนี้บวกต่อ ให้แนวรับ 680 จุด แนวต้าน 690 จุด
นางสาวอรุณรัตน์ จิวางกูร ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี กล่าวว่า คาดว่า วันนี้ (4 เม.ย.) ดัชนีฯ น่าจะยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง แต่อาจไม่แรงนัก โดยน่าจะมีการเคลื่อนไหวคล้ายๆ กับก่อน เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยหรือตัวแปรใหม่ๆ ที่เข้ามากระทบตลาด และส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายยังคงไม่หนาแน่นเท่าที่ควร

อย่างไรก็ตาม ให้รอติดตามผลการประชุมของ กนง. ที่จะมีขึ้นสัปดาห์หน้า ที่อาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ซึ่งจะเป็นผลดีต่อหุ้นในกลุ่มอสังหาฯ-ธนาคาร รวมทั้งให้รอติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมของพีทีวีด้วย เนื่องจากเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวอาจจะมีผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนของนักลงทุนได้

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ซื้อเมื่ออ่อนตัว ในหุ้นกลุ่ม ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ และวัสดุก่อสร้าง โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 680 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 690 จุด


[/color:4f3c1bb769">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com