May 15, 2024   3:27:26 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เวทีวิเคราะห์
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 05/04/2007 @ 11:14:01
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ซื้อ TASCO เป้าหมาย 35 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด แนะนำ ซื้อ TASCO ผู้บริหารประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานใน ไตรมาส 1/2550 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 54 ล้านบาทในไตรมาส1/2549 โดยมีปัจจัยหลักมาจากความต้องการใช้ยางมะตอยภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบไตรมาสก่อนหน้า ผลประกอบการของบริษัทจะปรับลดลงจาก 135 ล้านบาทในไตรมาส4/2549 อันเป็นผลมาจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อจากประเทศจีน สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2550 กำลังซื้อยางมะตอยจากประเทศจีนยังมีอย่างสม่ำเสมอประกอบกับต้นทุนวัตถุดิบราคาถูกจากโรงกลั่นในประเทศมาเลเซียที่เริ่มผลิตนไตรมาส 3/2550 คาดจะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยให้กำไรสุทธิของ TASCO ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการมีแหล่งวัตถุดิบเป็นของตนเอง ทำให้บริษัทสามารถรักษาระดับอัตราการทำกำไรให้อยู่ในระดับสูง ดังนั้นแนะนำ ?ซื้อ? ราคาเหมาะสมปี 2550 เท่ากับ 35 บาทต่อหุ้น

ทยอยซื้อ TISCO เป้าหมาย 27 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด แนะนำ ทยอยซื้อ TISCO แม้ว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศชะลอตัวลงถึง 20% ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ แต่สินเชื่อเช่าซื้อของ TISCO ยังคงเติบโตได้ประมาณ 6% ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 4/49 เนื่องจากบริษัทมีการเพิ่มโปรโมชั่นให้กับ Dealer ในการจัดเช่าซื้อ (สินเชื่อเช่าซื้อสุทธิในไตรมาส 4/249 เพิ่มขึ้น 6 พันล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 3.5 พันล้านบาทในไตรมาส1/2550) อีกทั้งยังเชื่อว่าดีลการร่วมมือระหว่างธนาคารขนาดกลาง-เล็กจากพันธมิตรต่างประเทศในสัดส่วน 25% กรณีของ BT และ BAY ซื้อขายกันที่ P/BV 1.35 เท่า ส่วนกรณีของ TBANK กับ Nova Scotia Bank ซื้อที่ 1.6 เท่า P/BV เป็นสะท้อนมูลค่าสิ่งที่นักลงทุนภายนอกมองมาสู่ธนาคารขนาด-เล็ก ในภาวะที่ TISCO มีความสามารถในการทำกำไรที่สูงกว่า ดังนั้นจึงทำให้ TISCO ควรมี Premium และเชื่อว่าราคา TISCO ที่ต่ำกว่า P/BV ที่ 1.35 เท่าเป็น Undervalued ทั้งนี้ปรับราคาเหมาะสมของ TISCO ลดลงตามจำนวนเงินปันผลที่จ่ายทำให้ราคาเป้าหมายใหม่เป็น 27 บาทแนะนำทยอยซื้อ

ซื้อลงทุน TOP เป้าหมาย 68 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด แนะนำ ซื้อลงทุน TOP ยังเชื่อว่าการเติบโตของบริษัทยังมีต่อเนื่อง จากประเด็น1. สิทธิในการเข้าประมูลโรงไฟฟ้าใน IPP Bidding รอบใหม่ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นประมาณ เม.ย. 50 ซึ่งบริษัทคาดหมายอย่างน้อย 1 โรง ขนาดกำลังการผลิต 700 เมกะวัตต์ 2. การขยายกำลังการผลิตทั้งโรงกลั่นและปิโตรเคมี ที่จะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2551 3. อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ให้สูงถึง 5.5% โดยเราคาดว่าบริษัทจะจ่ายเงินปันผลในปี 2550 จำนวน 3 บาทต่อหุ้น คาดว่าบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,364 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.63 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 31% จากปีก่อนประเมินราคาที่เหมาะสมของ TOP จาก DCF ให้ WACC ที่ประมาณ 10.65% ให้ราคาที่เหมาะสมในปี 2550 ที่ 68 บาท ยังยืนคำแนะนำ ซื้อลงทุน ระยะยาว แม้ว่าเราจะปรับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ รวมทั้งค่าการกลั่นในอนาคตลดลง แต่อย่างไรก็ตามเรายังเชื่อว่าการเติบโตของบริษัทยังมีต่อเนื่อง

ซื้อ AP เป้าหมาย 5.55 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด แนะนำ ซื้อ AP โดยประเมินว่าสิ้นปี 2549 AP น่าจะมี Presale ที่ยังไม่บันทึกรายได้ประมาณ 6.94 พันล้านบาทแยกเป็นส่วนของโครงการแนบราบ (บ้านเดี่ยวและทาวเฮ้าส์) ประมาณ 1.5-1.7 พันล้านบาท ฝ่ายวิจัยประเมินว่าในงวดไตรมาส 1/2550 AP น่าจะสามารถบันทึกรายได้จากการขายที่ระดับ 1.96 พันล้านบาท โดยนอกจากจะมีการบันทึกรายได้จากยอดยกมาในส่วนของโครงการแนวราบแล้ว ยังน่าจะมีการบันทึกรายได้ตามวิธี Percentage of Completion จากโครงการบ้านกลางกรุง สยาม-ปทุมวัน เข้ามาอีกบางส่วน (บันทึกไม่เกินจำนวนเงินดาวน์ที่รับเข้ามา) นอกจากนี้ Presale ใหม่ในงวดไตรมาส 1/2550 ที่มียอดรวมประมาณ 3.4 พันล้านบาท แยกเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 1.8 พันล้านบาท และโครงการแนวราบอีกประมาณ 1.6 พันล้านบาท น่าจะมีการบันทึกรายได้เข้ามาบางส่วนด้วย Gross Margin ที่ 31.5% และมี SG&A/Sale ที่ 12.5% น่าจะทำให้มีกำไร 250 ล้านบาทในไตรมาส 1/2550 เพิ่ม 7% จากปีก่อน

ที่มา ทันหุ้น[/color:4e3d1a2f2d">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com