May 17, 2024   4:07:44 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เวทีวิเคราะห์
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 09/04/2007 @ 10:55:56
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ถือ ATC เป้าหมาย 53 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส จำกัด (มหาชน) คาดว่าราคาผลิตภัณฑ์หลักจะทรงตัวสูง เพราะอุปทานใหม่ของ Paraxylene และ Benzene ออกมาล่าช้ากว่าเดิม ตามข้อมูลในเดือนม.ค.50 จะมีกำลังการผลิต Benzene ใหม่เข้ามา 2.2 ล้านตันในปี 50 และมีอุปสงค์เพิ่มขึ้น 1.3 ล้านตัน ยังผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตจะลดลงจาก 83% ในปี 49 เป็น 82% ในปีนี้ แต่ข้อมูลล่าสุดพบว่ากำลังการผลิตใหม่จะเลื่อนออกไป มีการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน ทำให้ราคา Benzene สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม สำหรับ Paraxylene ตามข้อมูลเมื่อม.ค.50 จะมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามาในปี 50 เท่ากับ 2 ล้านตัน และอุปสงค์เพิ่มขึ้นมากกว่าที่ 3.8 ล้านตัน และตามข้อมูลล่าสุดพบว่ากำลังการผลิตใหม่บางส่วนจะเลื่อนออกไป ซึ่งทำให้ราคา Paraxylene จะทรงตัวสูงได้ ดังนั้นฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิและราคาตามพื้นฐาน เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มที่ดีของบริษัท จึงแนะนำ ?ถือ?

ซื้อ CK เป้าหมาย 10.70 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด แนะนำ ซื้อ CK ปัจจุบันมี Backlog อยู่ในมือแล้ว 2.7 หมื่นล้านบาท ในไตรมาสแรกของปี CK เซ็นต์สัญญาก่อสร้างมูลค่ารวม 1.8 พันล้านบาทประกอบด้วยทางหลวงสาย 67 มูลค่า1,153 ล้านบาทและโครงการขยายโรงงานผลิตน้ำประปามูลค่า 693 ล้านบาท ทำให้มีมูลค่างานในมือ ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2550 อยู่ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท สามารถรับรู้รายได้ประมาณ 1.6 ปีหรืออีกกว่าปีครึ่ง โดยในไตรมาสสองคาดว่า CK จะสามารถเซ็นต์สัญญาก่อสร้างระบบควบคุมการจราจรและด่านเก็บเงิน มูลค่า 2.4 พันล้านบาท นอกจากนี้ยังคาดว่ารายได้จากการขายเงินลงทุนใน PTW ประมาณ 1.8 พันล้านบาท จะช่วยทำให้กระแสเงินสดและงบดุลของ CK ปรับตัวดีขึ้น กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ ?ซื้อ? ที่ราคาเหมาะสม 10.70 บาท จากวิธี Sum-of-parts โดยใช้จำนวนหุ้นทั้งหมดหลังการแปลงสภาพวอแรนท์ จำนวน 1,450 ล้านหุ้น ทำให้ได้มูลค่าเหมาะสมที่ 10.70 บาทต่อหุ้น ยังมี Upside ประมาณ 42%

ซื้อ LH เป้าหมาย 8.40 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ ซื้อ LH มาตราการกระตุ้นตลาดใหม่ ๆ ของรัฐจะช่วยกลุ่มบ้านและที่ดิน หนึ่งในมาตราการที่ถูกเสนอคือการลดภาษีชั่วคราวสำหรับภาษีธุรกิจเฉพาะจาก 3.3% เหลือ 0.1% และภาษีในการโอนจาก 2% เหลือ 0.01% เมื่อรวมกับการลดอัตราดอกเบี้ยอีก 25-50 bps จะทำให้ผู้บริโภคเร่งตัดสินใจซื้อบ้าน ทำให้สินค้าคงคลังหมุนเร็วขึ้นและช่วยเพิ่มกระแสเงินสดในที่สุด จากการคาดการณ์ว่าสินค้าคงคลังจะหมุนเร็วขึ้นตามการลดอัตราดอกเบี้ยและการฟื้นตัวของความต้องการ ปรับลดสมมติฐานเกี่ยวกับสินค้าคงคลังสำหรับ LH ลง 25 วันเหลือ 584 วันทำให้ราคาเป้าหมายสำหรับ LH ในปี 2550 เพิ่มเป็น 8.4 บาท (เพิ่มขึ้น 12% จาก 7.54 บาท) เราเชื่อว่าบริษัทฯ ได้ผ่านช่วงเวลาเลวร้ายในปี 2549 และควรจะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 1/2550 คงแนะนำ ?ซื้อ? โดยปรับราคาเป้าหมายเป็น 8.4 บาท จากระดับราคาปัจจุบัน ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 8.4 บาทให้ Upside 17% ดังนั้นเราคงแนะนำ ?ซื้อ?

ซื้อ VNG เป้าหมาย 5.20 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด แนะนำ VNG การขยายกำลังการผลิตแผ่นเอ็มดีเอฟที่แล้วเสร็จในช่วงปลายปีที่ผ่านมานั้นยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักที่จะทำให้ผลประกอบการใน FY07E ของบริษัทเติบโตขึ้นแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าเนื่องจากความต้องการใช้แผ่นเอ็มดีเอฟยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องจากประเทศจีน เวียดนาม และตะวันออกกลาง ขณะที่ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการเพียงรายเดียวที่ทำการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นคือ METRO ที่จะเริ่มผลิตได้ตั้งแต่ ไตรมาส 3/2550 เป็นต้นไป ส่งผลให้เราคาดการณ์รายได้และกำไรสุทธิในปี 2550 เพิ่มขึ้น 9.9% จากปีก่อน และ19.2% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 7,272 ล้านบาท และ 850 ล้านบาทตามลำดับ แนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 5.20 บาท ฝ่ายวิจัยปรับคำแนะนำจาก "ถือ" เป็น "ซื้อ" โดยมีราคาเหมาะสมที่ 5.20 บาท(อิง Prospective PER ที่ 8 เท่า) เนื่องจากราคาหุ้นมีการปรับตัวลงหลังจากขึ้น XD ไปในวันที่ 3 เม.ย.2550 ทำให้มี Upside Gain เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 10.6% และมี Dividend Yield ที่ 6.3% คิดเป็นผลตอบแทนจากการลงทุนรวม 16.9%

ที่มา ทันหุ้น[/color:ff8391b525">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com