May 16, 2024   10:20:21 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สัญญาณหุ้น
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 10/04/2007 @ 12:35:14
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บล.เอเซีย พลัสแนะนำซื้อ GSTEELราคาเป้าหมาย 1.33 บาทเหตุการณ์ความไม่สงบช่วงปลายปี 2549 ส่งผลกระทบให้ยอดขายในเดือน ม.ค. ของGSTEEL ลดลงเหลือเพียง 7 หมื่นตัน อย่างไรก็ตามราคาเหล็กในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นมากในเดือน ก.พ. ทำให้ลูกค้าหันกลับมาเร่งสั่งซื้อเหล็ก รวมถึงยอดการส่งออกที่เพิ่มขึ้น คาดว่าจะทำให้ GSTEEL มีปริมาณการขายใน 1Q50 ที่ระดับ 270,000 ตัน ใกล้เคียงกับ 4Q49โดยมีราคาขายเฉลี่ยที่ 19 บาท/ก.ก. เพิ่มขึ้น 2.7%QoQ ด้านต้นทุนการผลิต ราคาเศษเหล็กในตลาดโลกมีการปรับตัวขึ้นค่อนข้างรุนแรงจากระดับ 330 เหรียญฯ/ตัน ใน 4Q49เป็น 380 เหรียญฯใน 1Q50 แต่ GSTEEL สามารถลดผลกระทบดังกล่าวได้บางส่วน โดยการหาแหล่งวัตถุดิบในประเทศที่มีราคาถูกกว่าเพียง 330 เหรียญฯ/ตัน โดยรับซื้อเศษเหล็กมาจากโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ คาดว่าจะทำให้ Gross margin ในงวด 1Q50ปรับลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 9.8% เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น 2.7%QoQ น่าจะทำให้ GSTEEL มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 107 ล้านบาท รวมถึงค่า Fee ที่ได้รับจาก NSM อีกประมาณ 117 ล้านบาทต่อไตรมาส และ Negative Goodwill จากการซื้อ NSM ในราคาที่ต่ำกว่าNet Asset Value ซึ่งจะทยอยบันทึกเป็นรายได้ประมาณ 20 ล้านบาทต่อไตรมาส ภายใต้สมมุติฐานข้างต้น คาดว่า GSTEEL จะมีกำไรจากการดำเนินงานงวด 1Q50 ที่ 316ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3%QoQ และมีกำไรสุทธิ 423 ล้านบาท ฐานรายได้และกำไรของ GSTEELน่าจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2552

บล.โกลเบล็กแนะนำซื้อ FORTHราคาเป้าหมาย 11 บาทเราคาดว่ารายได้ในปี 50 ของ FORTH จะสูงถึงเกือบ 5,000 ล้านบาท หรือจะเติบโตกว่า 104% YoY โดยโครงสร้างรายได้หลักจะมาจากงานรับจ้างผลิต ซึ่งคาดว่าจะมีสัดส่วนกว่า 45% จากรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากปี 49 ที่ 26% เนื่องจากได้รับงานรับจ้างผลิตแผงควบคุมฮาร์ดดิสก์ให้กับ Western Digital ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับ FORTH ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท รวมทั้งยังมีงานโครงการเดิม และงานโครงการใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจอื่นๆ เช่น Electronic Meter และ Tracking System ก็มีโอกาสเติบโตที่ดีในอนาคตได้ นอกจากนั้น ยังมีงานที่รอเข้าร่วมประมูลที่เป็นงานขนาดใหญ่เช่น งาน GIS ของ กฟภ. มูลค่าสูงถึงกว่า 1,760 ล้านบาท ทั้งนี้ เราคาดว่ากำไรสุทธิในปี 50 จะอยู่ที่ 395 ล้านบาท หรือเติบโตราว 85% FORTH จะเริ่มทำการผลิตแผงวงจร(PBCA) ควบคุมฮาร์ดดิสก์ให้กับ Western Digital ในเดือน เม.ย.50 เฉลี่ยเดือนละ 600,000 ชิ้นต่อเดือน ซึ่งคิดเป็นรายได้และกำไรสุทธิจากการผลิตให้กับ Western Digitalในปี 50 ราว 2,000 ล้านบาท และ 80 ล้านบาท ตามลำดับ รวมทั้ง FORTH อาจจะมีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตให้กับ Western Digital ได้อีกในอนาคต หากผลตอบแทนทางธุรกิจดีเพียงพอต่อการลงทุนเพิ่ม เราคาดการณ์รายได้ในปี 50 ราว 5,000 ล้านบาทหรือเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 104%

ที่มา ข่าวหุ้น[/color:b81c9bf4c5">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com