May 17, 2024   6:08:00 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > จับตาหุ้นแบงก์
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 17/04/2007 @ 09:37:32
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หุ้นแบงก์สัปดาห์นี้มีโอกาสคึก นักลงทุนไหลเงินซื้อเก็งงบไตรมาส 1 ออกมาดีเพิ่มขึ้นกว่า 200% แถมหลายตัวมีข่าวดีหนุน ชู BBL KBANK ยังติดโผดาวเด่นของกลุ่ม SCIBโฉมใหม่เร้าใจ ขณะที่ BAY จ่อเพิ่มผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเท่าแบงก์ใหญ่

สัปดาห์นี้หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์หลายตัวมีโอกาสราคาคึกคัก โดยเชื่อว่าส่วนหนึ่งจะมีเม็ดเงินของทั้งนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนสถาบัน หรืแม้แต่ขาใหญ่ที่ชอบเล่นหุ้นพื้นฐานดีไหลเข้ามาลงทุนกันมากขึ้น เนื่องจากใกล้ช่วงที่แบงก์จะประกาศผลประกอบการไตรมาส 1ออกมา ซึ่งโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ฟันธงว่า จะออกมาดีกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปีก่อน แต่จะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

โดยหุ้นกลุ่มแบงก์ที่แนะนำส่วนใหญ่พบว่ามี 4 ตัวที่ราคายังมีส่วนต่างอีกมาก ได้แก่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTBธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK และธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCIB

ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) หรือ BAY ราคาซื้อขายช่วงนี้เกินปัจจัยพื้นฐาน โบรกเกอร์จึงแนะเพียงเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เพราะถึงแม้จะเทรดเกินปัจจัยพื้นฐาน แต่ในแง่ของการเก็งกำไรถือว่าทั้ง 2 ตัวยังมีข่าวดีหนุนเป็นระยะ โดยเฉพาะ BAY ที่ได้พันธมิตรใหม่อย่างกลุ่มจีอีเข้ามาเสริมทัพ

ส่วนอีก 2 ตัวได้แก่ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) หรือ BT และธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB โบรกเกอร์มองว่า ในส่วนของตัวแรกการเข้ามาของกองทุนทีพีจี นิวบริดจ์ และอีก 2 กองทุนถือว่าชัดเจนแล้ว แต่ส่วนใหญ่มองว่าอาจหนุนศักยภาพให้แบงก์ไม่มากนัก ขณะที่ TMB จะต้องคลังชี้ขาดแผนเพิ่มทุน 3.5 หมื่นล้านบาทจึงควรชะลอการลงทุน เพราะราคาหุ้นมีโอกาสไดลูทลงได้อีกมาก

สำหรับ 4 ตัวแรกที่แนะนำซื้อลงทุน นักวิเคราะห์มองว่าในส่วนของ BBL ถือว่าชัดเจนอยู่แล้วว่า เป็นหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ที่มีปัจจัยพื้นฐานดีมาก เพราะมีความแข็งแกร่ง และโดดเด่นในเรื่องของการทำกำไร ขณะที่ KBANK ก็มีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ดังนั้นจึงให้ราคาเป้าหมายไว้ 135 บาท และ 78 บาทตามลำดับ ขณะที่ราคาล่าสุดอยู่ที่ 113 บาทและ68 บาท ตามลำดับ

ขณะที่ KTB ช่วงที่ผ่านมาจะเห็นการเติบโตของกำไรที่ชัดเจนมากขึ้น และในปีนี้ถึงแม้สถานกาณ์สินเชื่อค่อนข้างชะลอลง แต่ในส่วนของแบงก์กลับได้รับผลดี เพราะถือเป็นแบงก์รัฐ ที่ได้รับผลดีจากโครงการต่างๆ และสวัสดิการที่รัฐมอบหมายให้ข้าราชการจำนวนมาก

ส่วน SCIB หลังได้มือการเงินอย่างนายชัยวัฒน์ อุทัยวรรธ์ มานั่งกรรมการผู้จัดการและลั่นจะผ่าตัดแบงก์ใหม่แบบยกกะบิ อีก 2 ปีหาพันธมิตรเทียบชั้น BAY ทำให้ราคาหุ้นอาจจะหวือหวาขึ้นมาได้ และราคาหุ้นปัจจุบันถือว่าต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานที่โบรกเกอร์ให้ไว้ที่ 26 บาท

อย่างไรก็ดีในส่วนของ BAY ยังมีสิ่งหนึ่งที่น่าจับตา หลังนายตัน คอง ควน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่าอนาคตจะเพิ่มอัตราตอบแทนจากส่วนผู้ถือหุ้นให้เป็น 15% จากปัจจุบันอยู่ที่ 3-4%

โดยบล.ไทยพาณิชย์ ได้คาดการณ์ผลประกอบการของแบงก์ 10 แห่ง(ไม่รวม SCB)พบว่ามีกำไรรวมกันสุทธิ 1.59 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 206% จากไตรมาส 4 ปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 1.49 หมื่นล้านบาท แต่ลดลง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2.11 หมื่นล้านบาท โดยทุกแห่งมีกำไรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปีก่อน แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนลดลง มีเพียง KBANK เท่านั้นที่กำไรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบทั้งไตรมาสและช่วงเดียวกันปีก่อน




 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com