May 17, 2024   1:07:38 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ถึงเทศกาลลดดอกเบี้ยแล้ว
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 17/04/2007 @ 23:34:34
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ถึงเทศกาลแบงก์ลดดอกเบี้ยแล้ว SCIB-KTB เปิดตัวนำร่องลดดอกเบี้ยเงินกู้-ฝาก เป็นรายแรกหลังจาก กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่วน BAY ขอเวลาตัดสินใจ 1-2 วัน จับตาใครเป็นรายต่อไป วงการประเมินภายในปีนี้มีสิทธิรูดลงไปอีก 0.25-0.50% แต่ถือเป็นข่าวดีของหุ้นอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะกลุ่มที่พักอาศัย เหตุอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำลง ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น และเป็นปัจจัยจิตวิทยาทางบวกต่อการตัดสินใจซื้อ แนะหุ้นน่าสนใจ QH, SPALI, NOBLE และ SC


หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วัน ลงอีก 0.50% จาก 4.50% ต่อปี เป็น 4% ต่อปี โดยให้มีผลในทันทีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนี้ก็เริ่มเห็นผลแล้วโดย ธนาคารนครหลวงไทย(SCIB) ได้นำร่องเป็นรายแรกประกาศลดดอกเบี้ยเงินฝากประจำลง 0.50% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ทางการเงินในปัจจุบัน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. เป็นต้นไป

นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ SCIB เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ประเภท 24 เดือน และ36 เดือน ลงอีก 0.50% ต่อปี โดย ประเภท 24 เดือน จากเดิม 3.75% ต่อปี ปรับเป็น 3.25% ต่อปี และประเภท 36 เดือน จากเดิม 3.75% ต่อปี ปรับเป็น 3.25% ต่อปี สำหรับเงินฝากทวีค่า มีการปรับลดลงอีก 0.50% ต่อปี เช่นกัน โดยประเภท 24 เดือน จากเดิม 3.75% ต่อปี ปรับเป็น 3.25% ต่อปี และประเภท 36 เดือน จากเดิม 3.75% ต่อปี ปรับเป็น 3.25% ต่อปี

ขณะเดียวกันธนาคารกรุงไทย(KTB) ก็เตรียมที่จะประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงเช่นกัน โดยจะมีผลในวันที่ 20 เม.ย.นี้ เป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำลง 0.50% และดอกเบี้ยเงินกู้ลงอีก 0.25-0.50% จะมีผลตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.นี้

ทั้งนี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้มีผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ประเภท 3 เดือน, 6 เดือน, 12 เดือน, 24 เดือน และ 36 เดือน ปรับลดลงเหลือ 3.00% ต่อปี จาก 3.50% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) ปรับลดลง 0.50% เหลือ 7.00%ต่อปี ขณะที่ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR)ปรับลด 0.25% เป็น 7.75%ต่อปี ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ปรับลง 0.25% เป็น 7.50% ต่อปี


 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 17/04/2007 @ 23:35:28 :
ด้านนายตรรก บุนนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เปิดเผยว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากของ ธนาคารกรุงไทย โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ย MLR ที่ปรับลดลง 0.5% ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ธนาคารพาณิชย์อื่นที่จะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เพราะ KTB เป็นธนาคารขนาดใหญ่และเป็นธนาคารของรัฐ ส่วน BAY จะพิจารณาใน 1-2 วัน โดยรอดูว่าธนาคารพาณิชย์อื่นจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร

เจ้าหน้าที่วิเคราะห์รายหนึ่ง ให้ความเห็นว่าหลังจากที่ KTB ได้ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้นำร่องไปแล้วเชื่อว่าธนาคารพาณิชย์รายอื่นๆ น่าจะประกาศปรับลดตามมาภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ แต่ในส่วนของ ผลกระทบที่จะเกิดกับหุ้นกลุ่มแบงก เชื่อว่าจะไม่หวือหวามากนักในระยะสั้น แต่จะส่งผลดีในระยะยาวมากกว่า โดยคาดว่าประมาณไตรมาส 3 น่าจะเห็นบวกผลที่ชัดเจน จากนโยบายการเงินที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดดอกเบี้ย และทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อฟื้นตัว และหุ้นอีกกลุ่มที่นักลงทุนต้องจับตา เพราะจะได้รับผลบวกโดยตรงจากมาตรการดังกล่าวก็คือกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดแรงซื้อเพิ่มขึ้น

สำหรับความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นก็เริ่มเห็นผลแล้วโดยดูจากการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวานนี้ หลักทรัพย์ที่นำตลาดและดันดัชนีดีดตัวขึ้น เป็นกลุ่มที่อิงกับอัตราดอกเบี้ย อย่างกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ขณะที่หุ้นในกลุ่มธนาคารนั้น ก็มีแรงเก็งกำไรในเรื่องการคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 1/50

เจ้าหน้าที่วิเคราะห์จาก บล.ไทยพาณิชย์ คาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะลดลงอีก 0.25-0.50% ภายในสิ้นปี เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัวลงอย่างมากนับถึงปัจจุบัน เห็นได้จากดัชนีการบริโภคภาคเอกชนและดัชนีการลงทุนภาคเอกชนในเดือน ก.พ. ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยลดลง 1.2% และ 1.8% เทียบปีต่อปีตามลำดับ ในขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อก็มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือน มี.ค. ลดลงสู่ระดับ 2.0% และ 1.3% ตามลำดับ

ส่วนบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ให้ความเห็นว่าดอกเบี้ยที่ปรับลดลง ถือเป็นข่าวดีกับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะที่พักอาศัย เพราะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำลง ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น และเป็นปัจจัยจิตวิทยาทางบวกต่อการตัดสินใจซื้อ นอกจากนั้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ยังมีโอกาสที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่คาดว่าจะออกมาในไม่ช้านี้ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์มีความเชื่อมโยงทั้งไปข้างหน้าและข้างหลัง (Forward & Backward linkage) กับอีกหลายอุตสาหกรรม เช่น วัสดุก่อสร้าง (ปูนซีเมนต์, เหล็ก, กระเบื้องปูพื้น-บุผนัง, กระเบื้องมุงหลังคา, สี), ถมดิน, รถบรรทุก, เฟอร์นิเจอร์, ธนาคารพาณิชย์, พาณิชย์ (โดยเฉพาะ HMPRO) เป็นต้นดังนั้นจึงมีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้รัฐบาลพิจารณากระตุ้นอุตสาหกรรมนี้เพื่อนำไปสู่การฟื้นตัวในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ แนะนำเลือกซื้อ 1) หุ้นกลุ่มที่พักอาศัยที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ซึ่งได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาลง และ 2) หุ้นพื้นฐานดีปันผลสูง ซึ่งจากการวิเคราะห์พบว่าหุ้นที่น่าสนใจลงทุนในกลุ่มที่พักอาศัย ประกอบด้วย QH, SPALI, NOBLE และ SC ส่วนหุ้นปันผลสูงที่ให้เป็น Top Picks คือ MCS, SPF, TISCO และ DCC


 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com