*ข่าวสารความเคลื่อนไหวของตลาดทุนช่วงนี้ ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่ากับ สถานการณ์ของขิงแก่ที่นับวันจะมีปัญหารุมเร้ามากขึ้นเรื่อยๆ จากที่เคยเป็นฝ่ายรุกไล่เชือดกลุ่มก๊วนต่างๆ แต่บัดนี้กลับโดนกลุ่มก๊วนเหล่านั้นสวนหมัดตรงจนหน้าหงายไปหลายครั้งคราจนไม่หลงเหลือความน่าเชื่อถือว่าจะจัดการกับกลุ่มก๊วนนั้นได้อย่างไร

*จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองดังกล่าว ส่งผลให้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติพากันเทขายหุ้นทำกำไรออกมาตลอดทั้งวัน จนดัชนีอ่อนตัวลงมายืนบริเวณแนวรับสำคัญที่ 685จุดอีกครั้ง และหากบรรยากาศการลงทุนวันนี้ไม่มีอะไรเลวร้ายลงไปกว่าที่เป็นอยู่ "โมนิก้า"เชื่อว่า ดัชนีจะต้องรีบาวนด์ เจ้าค่ะ

*เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคทั้งรายวัน และรายสัปดาห์ยืนยันชัดเจนเต็มหน้าจอว่าหุ้นมีโอกาสรีบาวนด์สูง...แต่ถ้าไม่เป็นเหมือนเช่นที่เดี๊ยนว่าไว้หล่ะก้อ ตัวใครตัวมันแล้วกันเพราะความเป็นไปได้เรื่องดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 50-50...คนที่เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมในจังหวะนี้ จึงเป็นพวกกล้าได้กล้าเสียล้วนๆ

*เห็นได้จากราคาหุ้น KTB ร่วงหล่นอย่างหนักติดต่อกันหลายวัน ทั้งที่ตัวธนาคารไม่ได้มีปัญหาเลวร้ายจนถึงขั้นวิกฤติ แถมกำไรก็ทำได้มากเป็นอันดับ 2 แต่พอมีบทวิเคราะห์แสดงความกังวลเรื่อง NPL และผลกำไรไตรมาส 2 อาจลดลง แรงเทขายก็ไหลบ่าเข้ามาเหมือนเขื่อนแตก จนเป็นเหตุให้ราคาหุ้นร่วงลงปิดราคาต่ำสุดของวันที่ 10.50 บาท ลดลง0.60 บาท พร้อมด้วยแรงเทขายอื้อซ่า 1.81 พันล้านบาทเจ้า

*แรงเทขายที่หนาแน่นขนัด ทำให้ "โมนิก้า" รู้สึกหวั่นใจว่า วันนี้พี่เอื้อยจะถูกถล่มเทขายอย่างหนักอีกวัน เพราะบรรยากาศการลงทุนยามนี้ไม่ค่อยสู้ดีนัก แถมนักลงทุนต่างชาติหันมาเป็นผู้ขายสุทธิอย่างเต็มตัว หากราคาหุ้นยังยืนหยัดต้านแรงเทขายได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดไม่ใช่น้อยนะค่ะ

*ในรายของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์รายใหญ่ อย่าง TISCO ที่ล่าสุดออกมาประกาศกร้าวไม่พึ่งเงินต่างชาติ หรือรอให้ใครมาควบรวม พร้อมกับเดินหน้าโตด้วยตัวเอง จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่จะดึงเม็ดเงินจากลูกค้าเงินฝากได้มากถึง 1 หมื่นล้านบาทในปีนี้

*การเดิมเกมออกสินค้าใหม่รอบนี้ ถือเป็นเจ้าแรกของประเทศในฐานะผู้ประกอบการแบงก์พาณิชย์ที่จูงใจลูกค้าให้เปิดบัญชี และใช้ธุรกรรมผ่านตู้ ATM โดยที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ ถ้ามีการใช้บริการผ่านตู้ ATM ของธนาคารอื่น

*นอกจากนี้ยังมีการให้บริการโอน ฝาก ถอน ข้ามสาขา อย่างกทม.โอนไปเชียงใหม่ก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเลยแม้แต่บาทเดียว การทำแบบนี้ มีหลายคนสบประมาทว่า จะอยู่รอดได้เชียวหรือ โดยเฉพาะการงดรับค่าธรรมเนียม ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรายได้หลักของแบงก์พาณิชย์

*จนมาถึงบางอ้อเมื่อ วัศกร เทพทิม คนออกแบบไอเดียให้กับ TISCO ออกมาบอกว่าต้นทุนเงินที่ได้จากการลดค่าธรรมเนียม เพื่อระดมเงินฝากให้มากขึ้นนั้น ถือว่ามีต้นทุนดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าการไปกู้มาตั้งเกือบ 1 % แหมเห็นแบบนี้ แล้วถ้าไม่อิจฉานายใหญ่อย่าง ปลิว มังกรกนกที่มีลูกน้องไอเดียกระฉูดแบบนี้ ก็เกินไปแล้วละคะ

*ด้านหุ้นเก็งกำไรที่ "โมนิก้า"เคยพูดถึงข่าวลือไว้ก่อนหน้านี้ว่า PT จะไปไกลได้ถึง6 บาท มาวันนี้ ข่าวที่ว่า คงจะเป็นจริง เพราะเจ้ามือติดไว้ที่ 6 บาทอย่างที่เคยไว้ตอนนี้ต้องขอบอกคำเดียวคะว่า ให้หยุดเล่นหุ้นตัวนี้ซะ ถึงแม้จะมีมือดีดันขึ้นไปไกลถึง6.50-7 บาทก็ตาม

*"โมนิก้า"ไม่อยากให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น เพราะก็อย่างที่บอกแล้วว่า เจ้ามือติดดอยอยู่ที่ 6 บาท ตอนนี้ราคาก็ 6 บาท แล้ว เพราะจากนี้ไปจะเป็นการลากเพื่อปล่อยของคะ ส่วนจะลากไปไกลแค่ไหน ก็ต้องดูคะ ถ้าเจ้ามือยังปล่อยไม่หมดก็ยังลากไม่หยุดเจ้าคะหุ้นต้องห้ามตัวนี้ห้ามยุ่งเด็ดขาด ราคาหุ้นปิดที่ 6.05 บาท บวกไป 1.37 บาท หรือ 29.27%ซิลลิ่งซะอย่างนั้น

*ด้านหุ้น EVER ที่ปรับตัวขึ้นมารอบนี้ คงไม่พ้นใกล้ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งงานนี้ต้องบอกว่ามันแน่นอนคะ เพราะรายใหญ่ที่ติดหุ้นอยู่ ต้องเข้าไปร่วมโหวตแน่นอนคะ ส่วนหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาวานนี้ คงไม่ใช่สัญญาณว่ารายใหญ่จะโหวตล้มเพิ่มทุนผ่านหรอกนะคะ แต่อาจเป็นการดันเพื่อทยอยปล่อยของ ก่อนที่จะทุบอีกครั้งหลังประชุมผู้ถือหุ้นเจ้าคะ ราคาหุ้นบวกแรงเหลือ1.88 บาท ปิดที่ 0.21 บาท

*สำหรับพระเอกของวันที่เป็นตัวค้ำดัชนีไม่ให้ร่วงลงหนักยามนี้ ได้แก่ TTA และPSL สองคู่หูคู่ฮา แสดงกำลังภายในด้วยการกระชากขึ้นมาปิดที่ 32 บาท บวกไป 2 บาทและขึ้นมาปิดที่ 24.90 บาท บวกไป 1.80 บาท หรือขึ้นไปคนละเกือบ 7% และ 8% ตามลำดับแบบนี้...มันน่าตามไปดูอย่างมากเจ้าค่ะ

*งานนี้หากไม่มีปัยหาฝืดเคืองเรื่องเงินทอง ดิฉันขอแนะนำให้ไล่ซื้อหุ้นติดพอร์ตไว้นิดหน่อย เพราะจะได้ไม่เสียใจในภายหลัง หากเห็นราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ นะซี

*ทางด้าน ATC ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหุ้นที่มีข่าวดีรองรับเต็มประตู ก็แสดงให้เห็นว่าทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟนั้นเป็นเช่นไร เพราะเป็นหุ้นเพียงไม่กี่ตัวที่สามารถกระชากขึ้นมาปิดราคาสูงสุดของวันที่ 49.75 บาท บวกไป 1.25 บาท อย่างแข็งแกร่ง...แถมวอลุ่มซื้อไหลทะลักเข้ามาถึง 130 ล้านบาทแบบนี้ วันนี้หุ้นขึ้นต่อชัวร์ป๊าบ...บบบ

*เช่นเดียวกับในรายของ S2Y เผลอแป๊บเดียวราคาหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 3.58บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไปถึง 20% ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา เพราะของมันก็รู้ๆ กันว่า หุ้นตัวนี้มือเจ้ามือใหญ่คุมอยู่ ราคาหุ้นถึงได้วิ่งแบบเย้ยฟ้าท้าดิน...งานนี้หากต้องการคำตอบแท้จริงว่ามีอะไรในก่อไผ่หรือเปล่า ก็ลองเรียบๆ เคียงๆ ถามที่ปรึกษาทางการเงินอย่าง บล.กรุงศรี ดูกันเอาเองว่ามีอะไรรึเปล่า...แล้วทุกอย่างจะกระจ่างชัดขึ้นเจ้าค่ะ