May 17, 2024   1:26:59 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > คุยเรื่อง EVER
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 24/04/2007 @ 22:05:43
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผมจำไม่ค่อยได้แล้วว่า ผมได้เคยเขียนถึงหุ้น EVER ไปกี่ครั้งแล้ว แต่เท่าที่พอจำได้ก็เคยเตือน ให้นักลงทุนระวังตัวในการเล่นหุ้นทำราคาขนาดเล็ก ตั้งสมัยที่ EVER เคยขึ้นไป 7-8 บาท ล่าสุดราคาหุ้นก็ลงมาอยู่แถว ๆ 1.80-1.90 บาท ใครที่ขายไม่ทันก็เสียหายกันไปเยอะ ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาราคาหุ้นก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง ผมเห็นว่า ราคาหุ้น EVER ก็ลงมาเยอะมากแล้ว ก็เลยเข้าไปดูข้อมูลของบริษัทมาให้ดูกัน เผื่อจะมีประโยชน์ในการตัดสินใจบ้าง ไม่มากก็น้อย
EVER หรือ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสามารถจำแนกได้เป็น 1.ธุรกิจจัดสรรบ้านและที่ดินเพื่อขาย 2.ธุรกิจพัฒนาอาคารชุดพักอาศัยเพื่อขาย 3.ธุรกิจรับบริหารโครงการ 4.ธุรกิจร่วมลงทุนและร่วมพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์
บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ มีโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในทำเลต่างๆ ในรูปแบบที่หลากหลาย อาทิ คอนโดฯ-บ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและเน้นเจาะตลาดระดับกลาง
EVER กลับเข้ามาซื้อขายหลังจากที่เข้ากระบวนการฟื้นฟูตั้งแต่ เมื่อเดือนมกราคม 2549 ปัจจุบันศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้บริษัทออกจากแผนฟื้นฟูกิจการแล้วเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2550
บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ มีโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในทำเลต่างๆ ในรูปแบบที่หลากหลาย อาทิ คอนโดฯ-บ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและเน้นเจาะตลาดระดับกลาง ซึ่งปัจจุบันประกอบด้วยโครงการดังต่อไปนี้
ในปี 2549 ที่ผ่านมา ผลประกอบการของบริษัทปรับลดลงจากปี 2548 คือ มีกำไรสุทธิประมาณ 58 .49 ล้านบาท จากรายได้รวมทั้งสิ้น 496.97 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 65.83 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุสำคัญเนื่องจากในปี 2548 บริษัทมีกำไรจากการจ่ายชำระเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการจำนวน 108.25 ล้านบาท ในขณะที่ในปี 2549 บริษัทไม่มีกำไรในส่วนนี้ เนื่องจากบริษัทสามารถดำเนินการและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุในแผนฟื้นฟูกิจการครบถ้วนแล้ว ทั้งนี้ รายได้หลักของบริษัทฯมาจากรายได้จากการขายโครงการ คิดเป็นร้อยละ 99.32 รายได้จากค่าบริการ คิดเป็นร้อยละ 0.41 และรายได้อื่นๆ คิดเป็นร้อยละ 0.27
บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียน จากทุนจดทะเบียนเดิม 300 ล้านบาท ให้เป็นทุนจดทะเบียน 600 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่เป็นจำนวน 300 ล้านหุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วนการจองซื้อ 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 1 บาท โดยให้ผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นระหว่างพักการโอนหุ้น ณ วันที่ 9 เมษายน 2550 และกำหนดวันจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 4-8 มิถุนายน 2550
สรุปผลการดำเนินงานบริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน)
สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2549
ปี 2549 2548
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 58,487 166,141
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.19 0.40
จากผลการดำเนินงานที่ผมเอามาให้ดู EVER ก็ไม่มีอะไรโดดเด่นซักเท่าไร แต่มีข่าวที่น่าสนใจก็คือ ตลาดหลักทรัพย์ให้ EVER ชี้แจงเงินกู้ที่ผู้บริหารไปกู้มาจากบริษัทย่อยของ PLE
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ตลท.ได้ส่งหนังสือถึงบริษัทจดทะเบียน 2 แห่ง คือบริษัท เอเวอร์ แลนด์ (EVER) และเพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) ให้ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับรายการกู้เงินยืมเงินจากบุคคลอื่น และรายการกู้ยืมเงินของบริษัทในเครือระหว่างกัน คือ...
นายสวิจักร์ โลจายะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ (EVER) ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2549 บริษัทได้กู้เงิน 150 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้เป็นสภาพทางการเงินและนำเงินมาเพื่อพัฒนาโครงการ เพราะขณะนั้นบริษัทฯ กู้เงินจากสถาบันการเงินไม่ได้ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องให้ศาลมีคำสั่งให้ยกเลิก การฟื้นฟูกิจการของบริษัทก่อน และบริษัทมั่น ใจว่าจะสามารถชำระหนี้เงินกู้ได้ภายในเดือนธันวาคม 2550 และหากคิดอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายจะอยู่ที่ 7.5 ล้านบาท จากนายณพสิทธิ์ เที่ยงธรรม โดยจ่ายอัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี และได้ใช้ที่ดินบางส่วนของบริษัทย่อยไปจดจำนองเพื่อเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน มูลค่ากว่า 166.42 ล้านบาท
โดยบริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) มาเกี่ยวข้องก็คือ บริษัท เทคเนอร์ (TN) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ PLE ให้กู้เงินกับบริษัท เอเพ็ค คอนครีท เทค (Apex) จำนวน 149.19 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2549 ซึ่ง Apex ได้เข้าร่วมเป็นผู้ร่วมดำเนินการโครงการ บ้านเอื้ออาทรรวม 3 โครงการ จำนวน 6,824 หน่วย ในส่วนของที่ดินมูลค่ารวมประมาณ 580 ล้านบาท
นั่นก็หมายความว่า EVER ได้เงินกู้เพื่อนำมาลงทุนพัฒนาโครงการ โดยจ่ายอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าการกู้ธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่คิดนั้นค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับการกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ ดังนั้น การเพิ่มทุนของ EVER จึงน่าจะเป็นการเพิ่มทุนเพื่อนำเงินไปชำระหนี้ส่วนนี้ ส่วนกำไรของ EVER ในปีนี้ก็น่าจะเพิ่มขึ้นจากการได้เงินมาลงทุนพัฒนาโครงการ แต่ก็ไม่น่าจะมีอะไรโดดเด่น

ที่มา : ณัฐวัฒน์ อ้นรัตน์[/color:7910e42d73">

 กลับขึ้นบน
อาฟง
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
#1 วันที่: 24/04/2007 @ 22:08:07 :
เก็งกำไรด้วยความระมัดระวังนะครับ

:!:
 กลับขึ้นบน
อาฟง
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
#2 วันที่: 24/04/2007 @ 22:09:16 :
นักลงทุนควรจะติดตามในประเด็นของการเพิ่มทุนของ EVER ว่าจะประสบผลสำเร็จหรือเปล่า ซึ่งจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นในสัปดาห์นี้ เนื่องจากมีกระแสข่าวออกมาว่าผู้ถือหุ้นจะมีการรวมตัวกันเพื่อบล็อคการเพิ่มทุนของ EVER โดยกระแสข่าวระบุว่าEVER เพิ่มทุนครั้งนี้ยังไม่ได้ผ่านมติผู้ถือหุ้น แล้วมาขึ้นเครื่องหมาย XR เลย
EVER จะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 300 ล้านหุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 1 บาท โดยได้กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2550 เวลา 12.00 น. จนกว่าการประชุมผู้ถือหุ้นจะแล้วเสร็จ เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้นในการเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้น(XM)และกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้นในการได้รับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน(XR)และได้กำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2550 ในวันที่ 26 เมษายน 2550
 กลับขึ้นบน
brown
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 60
#3 วันที่: 24/04/2007 @ 23:04:48 :
[b:de77148882">ตอนนี้ราคาขึ้นมาเยอะแล้ว ไม่กล้าเข้าซื้อแล้วล่ะครับ

รอรอบหน้าดีกว่า[/b:de77148882">[/color:de77148882">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com