*"โมนิก้า" บอกตามตรงว่า การลงทุนในตลาดหุ้นยามนี้ไม่มีอะไรน่าวิตกกังวล(ลงทุนหุ้นพื้นฐาน) เพราะหุ้นแต่ละตัวที่วิ่งขึ้นพรวดพราด ล้วนมีข่าวดีรองรับเต็มประตูหน้าต่าง...2 วันที่ผ่านมาดัชนีถึงกระชากขึ้นมายืนเหนือ 690 จุดอย่างรวดเร็ว และทำท่าจะวิ่งขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 700 จุดอีกด้วยเจ้าค่ะ

*น่าเสียดายที่พอร์ตการลงทุนช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาฟ้องว่า สาเหตุที่ทำให้ดัชนีแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ในกรอบ 680-700 จุดเป็นเวลานาน เกิดจากการชิงไหวชิงพริบระหว่างนักลงทุนสถาบันกับนักลงทุนต่างชาติ โดยต่างฝ่ายต่างชิงไหวชิงพริบกันน่าดู ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ดัชนียังไปไหนได้ไม่ไกล

*หากถามใจเดี๊ยนว่า ดัชนีมีโอกาสวิ่งทะลุแนวต้าน 700 จุดได้หรือไม่ กราบเรียตามตรงว่า ยังไม่ถึงเวลา เพราะลำพังแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน ผสมกับแรงซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์ และอสังหาริมทรัพย์อีกนิดๆ หน่อยๆ ไม่สามารถผลักดันให้ดัชนีพลิกแนวต้านที่แข็งแกร่งให้เป็นแนวรับที่มั่นคงได้ดอกนาย

*แถมมาเจอบรรยากาศในประเทศอึมครึมขึ้นทุกขณะ หลังกลุ่มคนต่างๆ ออกมาเรียกร้องเรื่องโน้น เรื่องนี้ไม่ได้หยุดหย่อน แล้วนักลงทุนต่างประเทศหน้าไหนจะกล้าทุ่มเงินลงทุนระยะยาวเหมือนเช่นที่ผ่านมาหล่ะค่ะ

*เนื่องจากที่เห็นในตอนนี้ก็มีแต่เข้ามาซื้อๆ ขายๆ แก้ขัดอารมณ์ไปงั้นๆ เพราะหากขายหุ้นทิ้งเกลี้ยงพอร์ต แล้วเอาเงินออกนอกประเทศ มันง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก แต่บทจะนำเงินเข้ามาลงทุนใหม่อีกครั้ง มันยากเย็นแสนเข็ญอย่างมาก...นักลงทุนต่างชาติถึงต้องสวมบทนักเก็งกำไรเต็มตัวนั่นปะไร

*"โมนิก้า" จึงขออนุญาติไม่พูดถึงหุ้นกลุ่มบลูชิพเป็นการชั่วคราว และต่อให้เชียร์กันแบบสุดลิ่มทิ่มกบาล ราคาหุ้นก็คงขยับขึ้นไปได้ไม่ไกลกว่าที่เป็นอยู่หรอกนะ เพราะทิศทางของตลาดหุ้นยังไม่ชัดเจน แถมขุดหาปัจจัยบวกใหม่ๆ มาเสริมสร้างความมั่นใจในการลงทุน ก็ยังหาไม่ได้สักชิ้นแบบนี้...หากไม่มีอาการอยากซื้อหุ้นจนคันคะเย่อ เดี๊ยนขอแนะนำให้อยู่เฉยๆ เป็นการชั่วคราว

*วันนี้จึงขอพูดถึงเฉพาะหุ้นเก็งกำไรล้วนๆ เพราะเมื่อเอ็กเรย์ถึงไส้ในของหุ้นแต่ละตัวที่ขึ้นแรงๆ มันไม่มีอะไรน่าพิศมัยเลยสักอย่าง แถมชาวบ้านชาวเมืองรู้ไส้รู้พุ่งเป็นอย่างดีแบบนี้...คงไม่มีความจำเป็นต้องอธิบายรายละเอียดปลีกย่อยให้เสียเวลา เผลอๆ เปลื้องน้ำลายเดี๊ยนโดยใช่เหตุอีกด้วย

*รายแรกที่ต้องกล่าวถึง และไม่สามารถบิดพลิ้วเป็นอื่นได้ เห็นทีจะเป็นในรายของอีเว่อร์ EVER เพราะการทะยานขึ้นมาปิดที่ 2.24 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไปถึง 6% มันเป็นการดันราคาเพื่อล่อนักลงทุนให้ใช้สิทธิ์เพิ่มทุน "โมนิก้า" ถึงรู้สึกเฉยๆที่เห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นแรงทุกครั้ง

*ที่ดุเด็ดเผ็ดมันไม่แพ้กันคือประชุมผู้ถือหุ้น ASL ที่งานนี้เสี่ยไมค์-เสี่ยผิน สองผู้ถือหุ้นใหญ่ ออกมาจับมือป้องกันบริษัทจากมือของเสี่ยสองไว้ได้ โดยปลดน้องสาว ที่มีนามกว่าสัณห์จุฑา ออกกลางอากาศ ทั้งๆ ที่ยังไม่หมดวาระการเป็นกรรมการ งานนี้เลยต้องพ่วงเอา อัฏฐ์ อัศวานันท์ ลูกน้องจเรรัฐ ต้องออกตามไปด้วย

*งานนี้จะเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดหรือเปล่าไม่ทราบ แต่เท่าที่รู้มีรายใหญ่ อย่างเจ๊พวงพันธ์ บลูภักดิ์ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และข้อสำคัญงานนี้มี LIVE เป็นผู้ถือหุ้นที่เข้ามาร่วมโหวตไม่เห็นด้วยกับการปลดบริหารครั้งนี้ คนถือหุ้นระวังให้ดีนะคะ เพราะยังไม่รู้ว่ากลุ่มเสี่ยสองจะทิ้งหุ้นที่มีอยู่ 100 กว่าล้านหุ้นหรือเปล่า ถ้าทิ้งก็ต้องระวังให้ดีนะคะ มีสิทธิหลุด0.60 บาทนะคะ ระวังตัวให้ดี คะ

*เช่นเดียวกับตัวของ LIVE ต่อให้เปลี่ยนชื่อแซ่กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง "โมนิก้า" ก็ยังจำได้แม่นว่าพื้นฐานกลวงโบ๋ขนาดไหน รวมทั้งเป็นแหล่งชุมนุมบรรดา เสือ สิงห์ กระทิง แรดมากมายขนาดไหนอีกด้วย...เดี๊ยนจึงขอสงวนความคิดเห็นเกี่ยวกับราคาเป้าหมายก็แล้วกันเพราะมันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดนะซี

*ล่าสุดราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.08 บาท บวกไป 0.10 บาท พร้อมกับทำราคาสูงสุดในรอบ 5 เดือนแบบนี้ เดี๊ยนสงสัยว่า การไล่ราคาครั้งนี้คงไม่เลิกกันง่ายๆเพราะบรรยากาศการลงทุนยามนี้ เหมาะที่จะเล่นสั้นเพียงสถานเดียวเจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของ RK ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.98 บาท บวกไป 0.64 บาทหรือขึ้นไปถึง 19% พร้อมกับทำราคาสูงสุดในรอบ 3 ปีกว่าๆ "โมนิก้า" เลยงงไม่หายว่าหุ้นตัวนี้มีอะไรดีนักหนา บรรดาแมงเม่าทั้งน้อยใหญ่ถึงวิ่งเข้าใส่ไม่ยั้ง...งานนี้ใครคิดว่าไม่มีอะไรจะต้องเสีย จะลองวัดดูสักตั้งก็ได้

*เนื่องจากกระแสแรงเก็งกำไร และกระแสข่าวปล่อยมันแรงเกินห้ามใจ ยิ่งมีรายใหญ่เข้ามาดันราคาแบบไม่เกรงกลัวใครหน้าไหนทั้งสิ้นแบบนี้...ต่อให้เอาช้างมาฉุด ก็คงหยุดความร้อนแรงของหุ้นตัวนี้ไม่ได้แล้วหล่ะ เพราะบัดนี้ได้ขึ้นทำเนียบหุ้นเก็งกำไรยอดนิยมแถวหน้าไปแล้วนะซี

*สำหรับรายของ CNS แม้จะไม่ร้อนแรงเท่ากับรายก่อนหน้านี้ที่พูดถึง แต่หากสังเกตทิศทางและวอลุ่มที่ค่อยๆ หนาแน่นขึ้น "โมนิก้า" ถึงกับต้องร้องซี๊ดเลยทีเดียวเพราะเป็นหุ้นที่เหมาะแก่การซื้อลงทุนทั้งสั้น ทั้งยาว...เนื่องจากราคาหุ้นเพิ่งขยับออกจากฐานเป็นวันแรกเจ้าค่ะ