May 17, 2024   11:59:23 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นเด่น......เล่นสั้น .....
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 27/04/2007 @ 09:50:41
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

SET
หลังจากที่ปรับลงทดสอบ gap บริเวณ 686 จุด ช่วงหลายวันที่ผ่านมา ดัชนีสามารถดีดกลับได้อีกครั้งหนึ่ง ขณะนี้กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้เส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 692 จุด แม้ภาพระยะสั้นจะเป็นไปในเชิงบวก แต่สัญญาณขายที่เกิดจาก RSI นั้นยังทรงอิทธิพล และอาจทำให้ดัชนีเกิดการปรับฐานครั้งสำคัญได้

มุมมองระยะกลาง - BAFS
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
ภายหลังจากที่เสร็จสิ้นการพักฐาน BAFS ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ตามแนวเคลื่อนตัวของเส้นค่าเฉลี่ย 10, 25 และเส้น 75 สัปดาห์ บ่งบอกถึงการเริ่มต้นขาขึ้นของแนวโน้มระยะกลาง ขณะนี้ราคาได้เคลื่อนตัวเข้าใกล้จุดสูงสุด ซึ่งเป็นแนว Tweezers Top ที่ 10.00 บาท คาดว่าจะสามารถฝ่าแนวต้านนี้ขึ้นไปได้ในที่สุด

หุ้นเด่น เล่นสั้น - PREB
กลยุทธ์การลงทุน: เก็งกำไร
จากกราฟรายวัน ราคามีการสะสมกำลังมา ระยะหนึ่ง และแท่งเทียนยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน อย่างไรก็ดี PREB ยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบการเก็งกำไรจาก 1.65-2.00 บาท ซึ่งกำลังสร้างฐานรูปสามเหลี่ยม โดยมีเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันเป็นแนวต้านที่บริเวณ 1.95-2.00 บาท จึงแนะนำเล่นเก็งกำไรในกรอบนี้ โดยให้แนวรับที่ 1.65-1.70 บาท สำหรับจุด Stop loss อยู่ที่ 1.63 บาท เมื่อหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน

หุ้นเด่น เล่นสั้น - LIVE
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
พิจารณาจากกราฟรายวัน มี Golden Cross เกิดขึ้น พร้อมกับรูปแบบ Continuation pattern กลับตัวขึ้นอย่างชัดเจน และยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วัน นอกจากนั้น ยังมีสัญญาณซื้อจาก RSI & Stochastic ดังนั้น ระยะสั้นจะทดสอบจุดสูงสุดใกล้ที่ 2.16 บาท ในระยะกลาง มีโอกาสที่จะทดสอบจุดสูงสุดรอบที่แล้ว บริเวณ 2.80-2.86 บาท จึงแนะนำซื้อ โดยให้แนวรับที่ 1.95-2.00 บาท สำหรับจุด Stop loss อยู่ที่ 1.90 บาท เมื่อหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน




 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 27/04/2007 @ 14:05:50 :
MCOT: คาดรายได้เริ่มฟื้นตัว.. MD ใหม่เสริมจุดแข็งงานข่าว - ซื้อ

คาดความนิยมรายการดีขึ้น.. ดันรายได้โฆษณาฟื้นตัว
เราคงคำแนะนำ ซื้อ MCOT ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 28.05 บาท (DCF, wacc 13.4%) กรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่น่าจะช่วยเสริมจุดแข็งในการเป็นสถานีข่าวให้ MCOT ขณะที่ปริมาณขายเวลาโฆษณาเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่เดือน มี.ค. 50 และรายการใหม่ก็มีแนวโน้มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น จะทำให้กำไรในช่วงที่เหลือของปีฟื้นตัวได้ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์

วสันต์ ภัยหลีกลี้" เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่
เราคาดว่านายวสันต์ ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์การทำงานด้านสื่อ และงานข่าว จะสามารถเสริมจุดแข็ง ในการเป็นสถานีข่าวให้ MCOT ในระยะยาว
คาดไตรมาส 1/50 กำไรสุทธิ ลดลง 18% จากปีก่อน
รายได้จากธุรกิจโทรทัศน์ที่ชะลอตัวรุนแรง และค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่สูงขึ้น ทำให้กำไรสุทธิ 268 ล้านบาท ในไตรมาส 1/50 ลดลง 18% จากไตรมาส 1/49
คาดกำไรฟื้นตัวดีขึ้นใน 3 ไตรมาสที่เหลือของปี
การขายเวลาโฆษณาในเดือน เม.ย. มีแนวโน้มฟื้นตัวจากเดือน มี.ค. และความนิยมต่อรายการใหม่ที่ดีขึ้นต่อเนื่อง กอปรกับผลของฤดูกาล AF4 และการได้ประโยชน์จากงบโฆษณาจาก TITV ทำให้กำไรในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือฟื้นตัว ทำให้เราคงประมาณการกำไรสุทธิ 1,361 ล้านบาท ลดลง 10% จากปี 49


 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#2 วันที่: 27/04/2007 @ 14:08:06 :
[b:0e110f0e4a">BT: หลังเพิ่มทุน.... Dilution 66% - ขาย[/b:0e110f0e4a">

คงคำแนะนำ "ขาย
เราประเมินว่าผู้ถือหุ้นใหม่ TPG เป็น Financial partner เท่านั้น ผลประโยชน์ที่ได้รับมีเพียงฐานะการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น ขณะที่เราเชื่อว่าศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของธนาคารยังคงอ่อนแอ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นๆ และ Dilution ที่เกิดขึ้นในปีนี้สูงถึง 66% ดังนั้นยังไม่มีความน่าสนใจใดๆที่จะเข้าลงทุน
เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม 1: 1 @ 3.46 บาท
ธนาคารจะขายหุ้นเพิ่มทุนอีก 2.2 พันล้านหุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 1: 1 ในราคา 3.46 บาท สูงกว่าที่เราคาดไว้ที่ระดับ 3.40 บาทเล็กน้อย โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XR ในวันที่ 3 พ.ค. 50

สรุปทุนเพิ่ม 190% เกิด Dilution 66%
หากนับรวมหุ้นใหม่ที่เสนอขายให้แก่กลุ่ม TPG ก่อนหน้านี้ 731.49 ล้านหุ้น กับที่จะเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมครั้งนี้อีก 2.22 พันล้านหุ้น ธนาคารเพิ่มทุนใหม่สูงถึง 190% ซึ่งจะทำให้เกิด Dilution ต่อกำไรในปี 50 สูงถึง 66%
ปรับลดพาร์เหลือ 3.75 บาท เพื่อล้างขาดทุนสะสม
ธนาคารเตรียมปรับลดพาร์จาก 10 บาท เหลือ 3.75 บาท เพื่อนำส่วนเกินมูลค่าหุ้นไปล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 8.1 พันล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 1/50 โดยเราประมาณการว่าธนาคารจะกลับมามีกำไรสะสม 358 ล้านบาท เมื่อสิ้นสุดปี

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#3 วันที่: 27/04/2007 @ 22:46:47 :
ตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. มานั้นดัชนีดีดตัวทดสอบบริเวณ 696 จุด หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่อาจฝ่าขึ้นไปได้ ยังผลให้สัญญาณแท่งเทียนเกิดรูปแบบ Tweezers Top ขณะเดียวกันแม้จะปรากฏสัญญาณเปลี่ยนแนวโน้ม ทว่าดัชนีก็มิได้ปรับลงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้สามารถยืนเหนือ gap ช่วง 686-689 จุด ได้ตลอดมา เมื่อสัปดาห์ก่อนก็เช่นเดียวกันที่ดัชนีดีดกลับ ภายหลังปรับลงทดสอบ gap ครั้งนี้ ได้ทำให้สัญญาณ Stochastic เกิดสัญญาณซื้อ และเกิด Morning Star ในแท่งเทียนรายวัน จึงสันนิษฐานได้ว่าการดีดตัวรอบปัจจุบันจะฝ่า Tweezers Top ที่ 696 จุดขึ้นไปได้ อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นเพียงภาวะบวกช่วงสั้นเนื่องด้วยเส้นค่าเฉลี่ย 200 สัปดาห์ที่เคลื่อนตัวผ่าน 705 จุดยังมีอิทธิพลอยู่สูง การเข้าซื้อจึงน่าจะเป็นการเก็งกำไรช่วงสั้นเป็นหลัก

อนึ่งการปรับฐานใดอันอาจเกิดขึ้นในระยะ 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า ดัชนีไม่น่าจะปรับลงต่ำกว่าบริเวณ 680 จุด ณ ที่ซึ่งพบทั้ง Tower Bottom และ Golden Cross ในกราฟรายสัปดาห์ ดังนั้นกรอบการแกว่งตัวในระยะต่อๆไปนั้นจะอยู่ในช่วง 680-705 จุด ซึ่งนักลงทุนอาจใช้ประโยชน์จากกรอบนี้ได้ สำหรับทิศทางการเคลื่อนตัวของดัชนีในสี่วันทำการของสัปดาห์นี้ ดัชนีน่าจะดีดตัวขึ้นถึง 705 จุด ได้ดังการประเมินข้างต้น หุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็ก มีความน่าสนใจมากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ นักลงทุนอาจให้น้ำหนักกับหุ้นดังต่อไปนี้ APURE, LIVE, LPN, PREB, EVER, AMATA, EMC, PSL, TTA, RCL, BEC, TASCO, TMB, TT&T และ TRUE


แนวรับ: 685-690 จุด
แนวต้าน: 700-705 จุด
นายภูวดล วงศ์วิริยะชัย no.17620
puwadolw@seamico.co.th

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#4 วันที่: 27/04/2007 @ 22:50:19 :
[b:896fd27891">ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดบวก 4.32 จุด เก็งหุ้นรายตัวมีข่าว/PTTEP รับผลดีราคาน้ำมันฟื้น [/b:896fd27891">

SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 695.11 จุด เพิ่มขึ้น 4.32 จุด(+0.63%) มูลค่าการซื้อขาย 8,973 ล้านบาท หุ้นไทยแกว่งแคบไม่ค่อยมีปัจจัย นักลงทุนชะลอการลงทุน หุ้นนำตลาด PTTEP มีแรงซื้อเข้ามาดันวอลุ่มแน่น นอกนั้นเป็นหุ้นที่มีข่าว เช่น EVER EMC MCOT สัปดาห์หน้าทยอยผลประกอบการมากขึ้น ช่วงสั้นยังติดแนวต้าน 696 จุด ถ้าผ่านได้ 710 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 695.11 จุด เพิ่มขึ้น 4.32 จุด(+0.63%) มูลค่าการซื้อขาย 8,973 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ตลอดวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 695.11 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 691.63 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 182 หลักทรัพย์ ลดลง 125 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 125 หลักทรัพย์

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้แกว่งแคบไม่ค่อยมีปัจจัย นักลงทุนชะลอการลงทุนทำให้มูลค่าการซื้อขายลดลงอีกครั้ง หุ้นนำตลาดที่ทำให้ดัชนีขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา วันนี้พักตัว เช่น TOP RRC ไม่ขยับมาก แต่กลายเป็นเก็งกำไรหุ้น EVER EMC LIVE

"ตลาดขาดปัจจัยกระตุ้นใหม่ๆ แต่ที่ยังเห็นบวกได้ตอนนี้มี PTTEP ที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ฟื้นตัวขึ้นมาค่อนข้างไกล วันนี้ที่มีแรงซื้อเข้ามาดันวอลุ่มขึ้นมาอันดับ 3 และ MCOT ที่เด่น จะเห็นว่าหุ้นที่ขยับขึ้นทั้ง PTTEP MCOT ATC ล้วนเป็นหุ้นที่มีข่าวเฉพาะตัวมากกว่า นักลงทุนค่อนข้าง selective buy" นายพิชัย กล่าว

แนวโน้มสัปดาห์หน้าเริ่มทยอยประกาศผลประกอบการมากขึ้น แต่คงไม่ได้เป็นปัจจัยที่ช่วยอะไรมาก กรอบการเคลื่อนไหวช่วงสั้นติดแนวต้าน 696 จุด ถ้าผ่านไปได้ 710 จุด แนวรับ 690 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 931.33 ล้านบาท ปิดที่ 216.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
EVER มูลค่าการซื้อขาย 613.91 ล้านบาท ปิดที่ 2.56 บาท เพิ่มขึ้น 0.32 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 465.78 ล้านบาท ปิดที่ 93.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 303.16 ล้านบาท ปิดที่ 110.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ATC มูลค่าการซื้อขาย 260.34 ล้านบาท ปิดที่ 51.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา

:P
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com