พบทัพขาใหญ่ลุยหุ้นเจ้าปัญหา ASL-EVER-NEP-EMC-LIVE-BLISS-IEC ส่งคนป่วนการประชุมผู้ถือหุ้น ASL-EVER-NEP ล้มมติบอร์ด-เพิ่มวาระพิเศษ-นั่งกรรมการ น่าสังเกตส่วนใหญ่ถือหุ้นตัวเดียวกัน จับตาการประชุมผู้ถือหุ้น EMC-LIVE-BLISS-IEC อาจเป็นรายต่อไป ด้านวงการมองรายใหญ่ถือหุ้นยาวอาจติดหุ้น ไม่เชื่อมือจะว่างมานั่งบริหารงานเอง แต่ยังแนะเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ร้อนแรงเกิดขึ้นในที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ 2 บริษัทคือ ASL และ EVER ท่ามการบรรยากาศการประชุมที่ดุเดือดจากการปรากฎตัวของนักลงทุนรายใหญ่หลายรายในที่ประชุมผู้ถือหุ้น EVER และ ASL ซึ่งยังไม่นับรวมนอมินีที่ส่งเข้าร่วมประชุม ทำให้คนในวงการตั้งคำถามว่า "คนพวกนี้มาทำไม" เพราะโดยปกติแล้วนักลงทุนรายใหญ่จะนั่งเทรดอยู่ในห้องวีไอพี และมักจะไม่ละจากหน้าจอหุ้นไม่ใช่หรือ แล้วทุกอย่างก็ถูกเฉลยเมื่อมีการยกมือโหวตแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่แทนกรรมการชุดเดิม ซ้ำที่ประชุมผู้ถือหุ้น EVER ยังล้มมติเพิ่มทุน 300 ล้านหุ้นอีกด้วย
และเมื่อปลายสัปดาห์มีบริษัท 2 แห่งที่จัดประชุมผู้ถือหุ้นได้แก่ EMC และ NEP ซึ่งรายแรกได้ขอเลื่อนการประชุมผู้ถือหุ้นออกไปโดยระบุว่า มีการเปลี่ยนแปลงบโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และยังไม่ทราบวัตถประสงค์ของกลุ่มผู้ถือหุ้นดังกล่าว ส่วนรายหลังนี่จัดการประชุมตามปกติ แต่กลับเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้น เมื่อมีนักลงทุน 15 ราย ถือหุ้นรวมจำนวน 67,852,586 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 51.23 ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วของบริษัท ยกมือเสนอวาระพิเศษเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัท และให้ NEP แตกพาร์จากหุ้นละ 10 บาท เหลือ 1 บาท และวาระดังกล่าวก็ผ่านฉลุยอย่างไม่น่าแปลกใจ เพราะสัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่มนักลงทุนดังกล่าวรวมกันแล้วเกินครึ่งของคะแนนเสียง
คำถามก็คือ "เกิดอะไรกับรายใหญ่" และ "บริษัทต่อไปจะเป็นบริษัทไหน" แต่ก็ไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริงที่แน่นอน คนวงในสันนิษฐานกันว่า "อาจเป็นการติดหุ้น เพราะปกติแล้วรายใหญ่เค้าไม่ถือหุ้นกันนานนาน" หรือ รายใหญ่อาจจะเปลี่ยนใจอยากทำธุรกิจขึ้นมาจึงทุ่มเทลมาบริหารงานเอง ???
แล้วบริษัทต่อไปจะเป็นบริษัทไหน ซึ่งทุกคนที่ไม่ใช่บุคคลในเครือข่ายของนักลงทุนรายใหญ่ก็คาดเดาไปต่างๆนานา แต่ eFinanceThai.com ได้สำรวจข้อมูลพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนรายใหญ่ กลุ่มที่เข้าร่วมการประชุมผู้ถือหุ้น EVER-ASL-NEP และอาจจะกำลังคิดคบเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น EMC ก็เป็นได้ และพบข้อมูลที่น่าแปลกใจว่า กลุ่มลี้อิสสระนุกูล-ลีนะบรรจง-นอมินีของเจ๊สีฟ้า และอื่นๆที่น่าจะเกี่ยวข้องกันถือหุ้นในหุ้นเก็งกำไรที่วงการนักค้าหุ้นรู้จักดีทั้ง ASL-EVER-NEP-EMC-IEC-LIVE-BLISS ซึ่ง 3 บริษัทแรกได้มีเหตุการณ์ป่วนการประชุมผู้ถือหุ้นไปเรียบร้อย จึงน่าจับตาบริษัทที่ทัพขาใหญ่ถือหุ้นอยู่จะเกิดเหตุการณ์อลม่านเช่นกันหรือไม่
เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง เปิดเผยว่าจากกรณีที่ผ่านมามีนักลงทุนขาใหญ่เข้ามาซื้อหุ้นของบริษัทต่างๆ เช่น บริษัท หลักทรัพย์แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) หรือ ASL,บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) หรือ EMC,บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ EVER และบริษัท เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ NEP เป็นต้น ซึ่งหลังจากนั้นจะเข้ามาร่วมประชุมผู้ถือหุ้นและมักมีการเสนอวาระพิเศษต่างๆ รวมทั้งเข้ามาเป็นกรรมการของบริษัทฯ ต่างๆ ทั้งนี้ประเมินว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการเข้ามาลงทุนในระยะสั้นๆ เท่านั้น คงไม่ช่วยพัฒนาบริษัทฯ ให้เจริญก้าวหน้าเท่าใดนัก ดังนั้นจึงเป็นเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับบริษัทฯ ดังกล่าวที่มีกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาถือหุ้นและร่วมเป็นกรรมการ
" คงจะส่งผลในแง่ลบมากกว่าแง่บวก เพราะที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าหุ้นที่มีขาใหญ่เข้ามาถือก็จะเข้ามาดันราคาหุ้นให้ปรับเพิ่มขึ้นก่อน หรือที่เรียกว่าเป็นการปั่นหุ้น เป็นการส่อให้เห็นว่ามีเจตนาไม่ดี นักลงทุนรายย่อยก็ไม่ควรเข้าไปลงทุนหรือไล่หุ้นตามเพราะอาจจะติดหุ้นได้ " แหล่งข่าวรายเดิมกล่าว
ส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำเก็งกำไรด้วยความระมัดระวัง โดย NEP ให้แนวรับไว้ที่ 7.15 บาท ให้แนวต้านไว้ที่ 7.70 บาท ให้แนวต้านถัดไปไว้ที่ 7.90 บาท สำหรับ EMC แนะนำให้ขายทำกำไรหากราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นทะลุแนวต้านที่ 4 บาท ในขณะที่ ASL แนวโน้มทางเทคนิคไม่ดีมากนัก จึงไม่แนะนำ แต่ให้แนวรับทางเทคนิคไว้ที่ 0.64 บาท และให้แนวต้านไว้ที่ 0.69 บาท
***"ฉัตร์สุดา เบ็ญจนิรัตน์"กอดหุ้น NEP-IEC-EMC-PLE-BLISS-LIVE-ASL
จากการสำรวจพอร์ตการลงทุนของ น.ส. ฉัตร์สุดา เบ็ญจนิรัตน์ นักลงทุนสาวรายใหญ่ พบว่า ถือหุ้น 7 บริษัท ได้แก่ บริษัท เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (NEP) สัดส่วน 2.57% , บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) (IEC) สัดส่วน 1.5%, บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) (EMC) สัดส่วน 4.8%, บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (PLE) สัดส่วน 4.19% ,บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน)(BLISS) สัดส่วน 4.54% ,บริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (LIVE) สัดส่วน 15.66% ,บริษัท หลักทรัพย์แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน)(ASL) สัดส่วน 2.38%