May 2, 2024   1:13:35 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > SAMART
 

???????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 288
วันที่: 10/05/2007 @ 22:20:31
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

:cry:

[b:6d30603c82">SAMART แจงกำไร Q1/50 ทรุดฮวบเพราะปีก่อนมีกำไรจากการขายเงินลงทุนถึง 1,452 ลบ.[/color:6d30603c82">[/b:6d30603c82">

[b:6d30603c82">นายศิริชัย รัศมีจันทร์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท สามารถ
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART นำส่งผลการดำเนินงานรวมสำหรับไตรมาสที่1/2550 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2550 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย โดยในไตรมาสนี้บริษัทฯ มีรายได้รวม 6,287 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 8,430 ล้านบาท และบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 144 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 1,438 ล้านบาท บริษัทฯขอชี้แจงผลการดำเนินงานที่มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้

1. ผลประกอบการในไตรมาสที่ 1/2549 ที่สูงกว่าไตรมาสนี้ สาเหตุหลักเกิดจากปี 2549 บริษัทฯ มีกำไรจากการขายเงินลงทุนเป็นจำนวนเงินถึง 1,452 ล้านบาท
2. รายได้จากการขายสินค้าและบริการของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 1/2550 มีจำนวน 6,202
ล้านบาทเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 6,909 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผล มาจากการลดลงของรายได้ในธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งบริษัทฯ มุ่งเน้นการขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อของบริษัทฯ เองในจำนวนที่มากขึ้นกว่าปีก่อน คือ i-mobile ที่มีราคาขายต่อหน่วยไม่สูงแต่ให้กำไรในอัตราที่สูงกว่ายี่ห้ออื่นๆ ประกอบกับการส่งออกโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปจำหน่ายยังต่างประเทศมีปริมาณลดลง อย่างไรก็ตามธุรกิจการควบคุม จราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชา และธุรกิจบริการลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) ก็ยังคงมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น
3. ต้นทุนขายและบริการลดลง 662 ล้านบาท
4. กำไรขั้นต้นสำหรับไตรมาสที่ 1/2550 มีจำนวน 778 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนเมื่อเทียบกับ รายได้ของไตรมาส เดียวกันเท่ากับร้อยละ 13 ในขณะที่ไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีอัตรา
ร้อยละ 12 หรืออัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของ ปีก่อนตามเหตุผลในข้อ 2. ข้างต้น
5. รายได้อื่นลดลง 1,436 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีกำไร
จากการขายเงินลงทุน จำนวน 1,452 ล้านบาท
6. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 5 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของ
ปีก่อน
7. ภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลง 186 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากกำไรจากการขายเงินลงทุน
ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ดังนั้นหากพิจารณาผลการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยไม่นำกำไรจากการขายเงินลงทุนหลังหักภาษีและกำไรจากการดำเนินงานของบริษัท แคมโบเดียสามารถ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ได้ขายให้กับ TM International Sdn. Bhd . ในไตรมาสที่ 1/2549 มารวมด้วยแล้ว จะเห็นได้ว่าในไตรมาสนี้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ในระหว่างงวดปัจจุบัน บริษัทฯ ได้เปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมในงบการเงินเฉพาะกิจการจากวิธีส่วนได้เสียเป็นวิธีราคาทุน ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ฉบับที่ 26/2549 เรื่อง มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 44 เรื่องงบการเงินรวมและการบัญชีสำหรับเงินลงทุนในบริษัทย่อย (แก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 1) ซึ่งกำหนดให้แก้ไขการบันทึกบัญชีเงินลงทุนในบริษัทย่อยกิจการที่มีอำนาจควบคุมร่วม และบริษัทร่วมในงบการเงินเฉพาะ
กิจการจากวิธีส่วนได้เสียเป็นวิธีราคาทุน
ในการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีดังกล่าว บริษัทฯ ได้ปรับย้อนหลังงบการเงินเฉพาะกิจการงวดก่อนที่นำมาแสดงเปรียบเทียบเสมือนว่าบริษัทฯ ได้ถือปฏิบัติเกี่ยวกับการบันทึกบัญชีเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมตามวิธีราคาทุนมาโดยตลอด การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิในงบกำไรขาดทุนเฉพาะกิจการสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2550 ลดลงเป็นจำนวน 123 ล้านบาท(0.13 บาทต่อหุ้น) และกำไรสุทธิในงบกำไรขาดทุนเฉพาะกิจการสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31มีนาคม 2549 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 182 ล้านบาท (0.19 บาทต่อหุ้น) ผลสะสมของการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีดังกล่าวได้แสดงไว้ในหัวข้อ ผลสะสมจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม ในงบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้นเฉพาะกิจการแล้ว
ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีดังกล่าวมีผลกระทบเฉพาะต่อรายการบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมในงบการเงินเฉพาะกิจการเท่านั้น โดยไม่ได้มีผลกระทบต่องบการเงินรวมแต่อย่างใด[/color:6d30603c82">[/b:6d30603c82">

:?:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com