Puu
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476 |  วันที่: 11/05/2007 @ 12:10:06 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ซื้อ PTT เป้าหมาย 244 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด(มหาชน) : แนะนำ "ซื้อ"PTT ราคาเป้าหมาย 228 บาท คาดว่า PTT จะประกาศกำไรที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจนที่ 44% จากไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ 22,473 ล้านบาท (EPS: 8.01 บาท) สำหรับไตรมาส 1/50 (แต่ลดลง 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน) โดยปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตคือกำไรที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจน้ำมันและกำไรจากธุรกิจโรงกลั่นที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ส่วนไตรมาส 2/50 คาดว่ากำไรรวมจะปรับตัวสูงขึ้นอีก โดย ธุรกิจหลักก๊าซธรรมชาติจะเข้มแข็งขึ้นจากราคาก๊าซธรรมชาติและปริมาณยอดขายที่สูงขึ้น การเริ่มเปิดดำเนินงานของท่อส่งก๊าซแห่งที่สามและความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงฤดูร้อนจะผลักดันให้ยอดขายก๊าซธรรมชาติของ PTT ปรับตัวสูงขึ้น ปริมาณยอดขายของโรงแยกก๊าซมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นจากการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากโรงผลิตของ PTTCH ผลประกอบการของธุรกิจโรงกลั่นมีแนวโน้มจะเข้มแข็งขึ้นอีกจากช่วงฤดูที่ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับสูง คงแนะนำซื้อด้วยราคาเป้าหมาย 244 บาท
ซื้อ TASCO เป้าหมาย 30 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด : แนะนำ ?ซื้อลงทุนระยะยาว" TASCO ราคาเป้าหมาย 30 บาท/หุ้น คาดว่ายอดขายไตรมาส1/50 จะอยู่ที่ 2,540 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.66% YoY แต่ลดลง 3.46%QoQ เนื่องจากยอดขายที่มีสัดส่วน PMA น้อยลงและผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงช้ากว่าราคาขาย ทำให้คาดว่า GPM
ไตรมาส1/50 จะอยู่ที่ 11.00% ลดลงทั้ง QoQ และ YoY และประเมินกำไรสุทธิไตรมาส1/50 ไว้ที่ 75 ล้านบาท ลดลง 44.52%QoQ แต่เพิ่มขึ้น 39.78%YoY ในขณะที่แนวโน้มไตรมาส2และ3 จะได้รับอานิสงส์จากความต้องการในจีนที่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากผลของฤดูกาล อีกทั้งโรงกลั่นยางมะตอยที่คาดว่าจะเริ่มเดินสายการผลิตอย่างเป็นทางการได้ในช่วงครึ่งปีหลังก็จะเป็น upside ที่ช่วยให้ผลประกอบการปี 50 เติบโตต่อเนื่อง ปรับเพิ่ม Prospective PER ของ TASCO ขึ้นจาก 10 เท่าเป็น 12 เท่า เพื่อสะท้อนแนวโน้มผลประกอบการ 50-51 ที่คาดว่าจะเติบโตโดดเด่น ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 50 ที่ 30 บาท
ซื้อTHAI เป้าหมาย 57 บาท
บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ(ประเทศไทยจำกัด(มหาชน):แนะนำ?ซื้อ?THAI ราคาเป้าหมาย 57 บาท จากการที่ THAI เพิ่มเส้นทางการบินใหม่ไปอาฟริกาใต้และอินเดียในไตรมาส 1/50 และเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินในเส้นทางการบินในภูมิภาคและระหว่างทวีปทำให้ความสามารถในการรับผู้โดยสาร (Passenger Capacity - ASK) เพิ่ม 8% จากไตรมาส 2/49 นอกจากนี้จำนวนผู้โดยสาร (Passenger Traffic - RPK) ยังเพิ่ม 13.1% ทำให้อัตราผู้โดยสาร (Cabin Factor) สูงถึง 80.4% เพิ่มจาก 76.7% ในไตรมาส 2/49 ในขณะเดียวกัน Load Factor เพิ่มเป็น 70.3% จาก 68.3% ในปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี ค่าเงินบาทที่แข็งตัวขึ้นทำให้ Passenger Yield ลดลง 3.6% YoY เป็น 2.64 บาทต่อผู้โดยสารต่อกม. โดยสรุปรายรับรวมของการบินไทยเพิ่ม 8% YoY เป็น 49.6 พันล้านบาทในไตรมาส 2/50 แม้ว่ากำไรสุทธิจะลดลง YoY แต่เชื่อว่าสภาวะราคาน้ำมันในปัจจุบันและปริมาณผู้โดยสารที่สูงต่อเนื่องในเส้นทางการบินหลัก จะช่วยสนับสนุนกำไรของการบินไทยในไตรมาส 3
ซื้อBAFS เป้าหมาย 11.40 บาท
บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา จำกัด:แนะนำ?ซื้อ?BAFS เป้าหมาย 11.40 บาท โดยมองประเด็นการลงทุนของหุ?น BAFS คือ 1) การได?รับประโยชน?โดยตรงจากการเป?ดให?สนามบินสุวรรณภูมิเชิงพาณิชย? จากศักยภาพสนามบินที่สามารถรองรับผู?โดยสารและเที่ยวบินได?เพิ่มขึ้น ซึ่งจะผลักดันให?ปริมาณน้ำมันให?บริการเพิ่มขึ้นเช?น
เดียวกัน โดยคาดจะเติบโตในอัตราเฉลี่ย 5% ต?อป? ในช?วงป? 50-52 เปรียบเทียบกับสนามบินดอนเมืองที่เต็มความจุแล?ว และ 2) เป?นผู?ให?บริการธุรกิจคลังและท่อน้ำมันเพียงรายเดียว และมีส?วนแบ?งตลาดธุรกิจเติมน้ำมันมากที่สุด ทำให?ได?รับประโยชน์สูงสุดจากปริมาณน้ำมันให?บริการที่เพิ่มขึ้น ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 50 ที่ 505 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% YoY ภายใต้สมมุติฐานการเติบโตของปริมาณน้ำมันให้บริการที่ 5% YoY
ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside 19% จาก Fair Price ปี 50 ที่ 11.40 บาท (วิธี DCF) และผลตอบแทนเงินปันผลที่ 6.2%
ที่มา ทันหุ้น[/color:bdf11ea713">
|
