May 17, 2024   9:52:31 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > คุณกระซิบ
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 21/05/2007 @ 11:05:54
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ที่มา : K.KRAZIP

SET Index วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม 2550 ปิดที่ดัชนี 728.76จุด +4.39จุด มูลค่าการซื้อขาย 19,796 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,863.28 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 415.67 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 2,447.61 ล้านบาท SET Index ทำ High ที่ดัชนี 733.10จุด +8.73 จุด และ Low ที่ดัชนี 727.81 จุด +3.44 จุด ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์สุดสัปดาห์ที่แล้วเปิดทำการที่ระดับ 729.13 จุด +4.76 จุด ด้วย Fund Flow ที่ยังไหลเข้าต่อเนื่อง ส่งผลให้มีแรงซื้อหนุนเข้ามามากโดยเฉพาะกลุ่มพลังงานที่ได้รับอานิสงค์จากราคาดิบล่วงหน้าในตลาดโลกที่ดีดตัวสูงขึ้นกว่า 2 เหรียญ บวกกับราคาน้ำมันขายปลีกในบ้านเราก็ปรับขึ้นด้วยเช่นกันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อีกทั้งหุ้นอสังหาริมทรัพย์ และแบงค์ต่างก็มีแรงซื้อเข้ามามากด้วยเช่นกัน ส่วนด้านหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลดลงเนื่องจากมีแรงขายออกมามากจาก TRUE, ADVANC หลังราคาได้ปรับตัวขึ้นมากมาก่อนหน้า ในขณะที่ SATTEL กลับมีวอลุ่มเทรดเข้ามาอย่างหนาแน่นส่งผลให้ราคาที่ปิดตลาดไปปรับตัวขึ้นถึง 20% SET Index วันนี้หากยืน 735 ไม่ได้อาจเกิดแรงเทขายออกมา หากหุ้นตัวใดพอมีกำไรจะขายบ้างก็ไม่ว่ากัน
TOP ราคาเปิด67.50 บาท ราคาปิด 69บาท มูลค่าการซื้อขาย1,346.69 ล้านบาท มุมมองที่เป็นบวกต่อเนื่องจากผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 2/50 ที่คาดว่าจะมีผลกำไรดีกว่าไตรมาสแรกที่มีกำไรปกติ 4,669 ล้านบาท
เนื่องมาจากค่าการกลั่นที่สูงขึ้นและ spread margin ของ TPX และ TLB ที่ยังคงยืนสูงอยู่ คาดว่าราคาหุ้นของบริษัทยังมีโอกาสที่จะปรับขึ้นได้อีกในจากปัจจัยบวกในเรื่องของค่าการกลั่นที่ยืนสูงและช่วงไตรมาส 3 อาจจะมีเฮอริเคนเกิดขึ้นประมาณ 5 ลูก ซึ่งหากเป็นจริงจะส่งผลให้ค่าการกลั่นสูงขึ้นอีก บวกกับบริษัทมีโอกาสสูงที่จะชนะการประมูลโรงไฟฟ้าใหม่อย่างน้อย 700 เมกะวัตต์ ที่ใกล้จะเปิดประมูลในกลางปีนี้ซึ่งหากมีเฮอริเคนเกิดขึ้นจริงเชื่อว่าค่าการกลั่นมีโอกาสขึ้นไปที่จุดสูงสุดเดิมที่ 14.7 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งประเมินว่าบริษัทจะทำกำไรปกติทั้งปีในปีนี้ได้ 15,296 ล้านบาทเติบโต 21% yoy ซึ่งเป็นผลมาจากค่าการกลั่นปกติเฉลี่ยที่ดีกว่าปีก่อนและผลกำไรที่ดีขึ้นของบริษัทลูกจากปัจจัยบวกต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นรวมถึงแนวโน้มที่ยังคงดีอยู่ ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ "ซื้อ"โดยมีแนวรับ67บาท แนวต้าน71บาท
SATTEL ราคาเปิด7.80 บาท ราคาปิด 9.30บาท มูลค่าการซื้อขาย905.24 ล้านบาท จากรายได้รวมในไตรมาสที่1/50 -8% YoY, -19% QoQ สาเหตุหลักจากรายได้ที่ลดลงของธุรกิจดาวเทียมแบ่งเป็นรายได้ของดาวเทียมไทยคมที่ 605 ล้านบาท จากการแข็งค่าขึ้นของเงินบาท และรายได้จากดาวเทียม IPSTAR ลดลงแต่ขณะที่รายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในลาวและกัมพูชายังเติบโตได้ดี โดยเพิ่มขึ้น 10.8% YoY และ 2.7% QoQ
ตามจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรายได้จากธุรกิจ Internet ในไตรมาที่1/50ยังคงทรงตัวคาดว่าผลประกอบการของ SATTEL จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสที่2/50เป็นต้นไป และพลิกเป็นกำไรในปี นี้ได้สำเร็จตามรายได้จากการให้บริการของ IPSTAR ที่จะเริ่มรับรู้รายได้จากจีนตั้งแต่ไตรมาสที่2/50 แต่คงเป็นลักษณะแบบค่อยเป็นค่อยไปหลังตลาดเริ่มตอบรับในทางบวกมากขึ้นรวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลAUS อีกทางหนึ่ง ซึ่งความสำเร็จในตลาด AUS และ NZ จะเปรียบเสมือนใบเบิกทางเพื่อเปิดตลาดญี่ปุ่น เกาหลี และอินโดนีเซีย
ในอนาคตให้สะดวกยิ่งขึ้น ดังนั้นK.KRAZIPแนะนำ ?ซื้อเมื่ออ่อนตัว? โดยมีแนวรับที่ 9.10 บาท แนวต้าน10 บาท
CP7-11 ราคาเปิด 10 บาท ราคาปิด 9.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 491.85ล้านบาท ราคาหุ้น CP7-11 มีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง น่าจะได้รับปัจจัยบวกจากกรณีที่จะขายสินทรัพย์ทั้งหมดของโลตัส เซี่ยงไฮ้
ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีจึงทำให้นักลงทุนมั่นใจและเข้ามาลงทุน แต่ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะสามารถบันทึกรายได้มูลค่า 3,918.0 ล้านบาท จากการขายสินทรัพย์ทั้งหมดใน โลตัส เซี่ยงไฮ้ ทันปีนี้หรือไม่ เพราะยังไม่ผ่านการอนุมัติของที่ประชุมผู้ถือหุ้น ในปี 2550 ประมาณการรายได้ขยายตัวที่ 15-20% จากปี 2549 ที่มีรายได้อยู่ที่ 104,873.44
ล้านบาท มาจากยอดขายของสาขาเดิมที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 3,784 แห่ง รวมทั้งรายได้ที่จากสาขาใหม่ๆ ที่เปิดในปีนี้ด้วย และในปีนี้เตรียมที่จะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 400-450 แห่ง ใช้เงินลงทุนอยู่ที่ 1,300 ล้านบาท และได้เตรียมเงินลงทุนไว้แล้วที่ 3,100 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการเปิดสาขาใหม่รวมทั้งปรับปรุงสาขาเดิมอีก 400 แห่ง ที่ใช้เงินลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท K.KRAZIP มองว่าCP7-11 จะมีรายได้ที่สวยงามเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จึงแนะนำ "ซื้อ" โดยมีแนวรับที่ 9.50 บาท แนวต้าน 10.40บาท
NCH ราคาเปิด 3.08 บาท ราคาปิด 3.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 432.80 ล้านบาท แม้ผลประกอบการไตรมาสแรกที่ผ่านมาจะไม่ค่อยดีนัก ซึ่งขาดทุนสุทธิ 16 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่กำไรสุทธิ 10 ล้านบาท
แต่ยังมั่นใจว่าผลประกอบการทั้งปีน่าจะขยายตัวได้อีก จะมีกำไรสุทธิมากกว่าปีก่อนที่ 53 ล้านบาท และราคาหุ้น NCH ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในการซื้อขายในช่วงนี้ บวกกับมีมูลค่าการซื้อขายเข้ามาสนับสนุนอย่างมากเมื่อวันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งหากดูจากสัญญาณทางเทคนิคแล้วอาจมีแรงซื้อขายต่อเนื่องซึ่งจะทำให้สามารถเก็งกำไรต่อไปได้อีก ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" โดยมีแนวรับที่ 3.34 บาท แนวต้านที่ 3.58 บาท
K.KRAZIP 19/05/50[/size:539b26aefb">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com