May 17, 2024   11:05:15 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กูรูเตือน THL ระวังข่าวดีแค่ภาพลวง
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 21/05/2007 @ 12:42:18
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

แฉ ADR ไม่ฮ็อต นลท.ไทยยังซื้อขายไม่ได้แถมเสี่ยงจากการถูก ตลท.ตรวจสอบ

เซียนหุ้นเชียร์ขาย THL หลังพบความเสี่ยงเพียบ ทั้งจากการประกาศเข้าตรวจสอบงบปี 49 ย้อนหลังของ ตลท. หลังพบงบ Q1/50 ขาดทุนอ่วม แต่งงวดก่อนหน้ายังโชว์ผลงานเป็นกำไร หวั่นหมกเม็ดเพื่อหวังกลับเข้าเทรดใหม่ให้ได้ตามกำหนด แถมยังพบว่าข่าวดีเรื่อง นำหุ้นเข้าเทรดใน ADR ของอเมริกา ยังเป็นแค่ราคาคุย นลท.ไทยยังซื้อขายไม่ได้ แถมวิมานที่วาดไว้อาจไม่สวยเท่าที่คิด ล่าสุด ตลท.เลื่อนการประกาศผลสอบออกไปเป็นสัปดาห์หน้า เพื่อรอข้อมูลเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจราคาหุ้นบนกระดานพบว่า ราคาหุ้น บมจ.ทุ่งคาฮาเบอร์ (THL) พบว่าราคาหุ้นได้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ตลาดฯเปิดการซื้อขายภาคเช้าของวันที่ 18 พ.ค. โดยเปิดตลาดฯที่ระดับ 2.58 บาท ลดลง 0.34 บาท จากนั้นได้ปรับลดลงไปทำระดับต่ำสุดของวันที่ 2.26 บาท และจากนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวดีขึ้นอีกครั้ง จนราคามาปิดที่ราคาเปิดได้สำเร็จ คือ ระดับราคา 2.34 บาท ลดลง 0.34 บาท หรือ 12.69% หลังจากที่ในวันดังกล่าวมีข่าวผ่านสื่อออกมาหลายกระแสในเรื่องปัจจัยเสี่ยงและความไม่ชัดเจนในข่าวดีของ THL ที่ออกมาจนทำให้ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้า

- ตลท.ผิดสังเกตุหลัง Q1/50 โชว์ผลงานห่วยแตก หน้ามือเป็นหลังมือ
อย่างไรก็ตาม ความไม่ชอบมาพากลของ THLจนนำไปสู่การเทขายหุ้น ได้เกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทได้แจ้งผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1/2550 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยพบว่า มีผลประกอบการขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 29.52 ล้านบาท จากขาดทุน 23.35 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ THL ได้รับการอนุมัติการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.ให้กลับเข้ามาซื้อขายได้อีกครั้งในวันที่ 4 พฤษภาคม หลังจากที่สามารถแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปี 2549 เท่ากับ 6 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 เท่ากับ 1,122 ล้านบาท รวมทั้งสามารถแสดงได้ว่าบริษัทมีฐานะการเงินและผลการดำเนินงานที่มั่นคงตามสภาพธุรกิจของบริษัทไปอย่างต่อเนื่อง

โดยผลประกอบการงวดล่าสุดที่ออกมาขาดทุนค่อนข้างมากดังกล่าว หลายฝ่ายมีข้อสังเกตุว่าอาจจะผลักภาระที่นำไปสู่การขาดทุนในปี 2549 มาไว้ในไตรมาสที่ 1/2550 เพื่อให้ผลประกอบการในปี 2549 เข้าเกณฑ์ให้สามารถกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้อีกครั้ง

โดยนายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยผู้จัดการ ฝ่ายกำกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.อยู่ระหว่างการพิจารณาคำชี้แจงงบการเงินไตรมาส 1/50 ของบมจ.ทุ่งคาฮาเบอร์(THL) ว่าเปิดเผยข้อมูลครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ โดยเบื้องต้นพบว่ารายการที่ทำให้ THL มีผลขาดทุนในไตรมาส 1/50 เป็นรายการที่เกิดขึ้นในไตรมาส 1 จริง โดยรายการใหญ่ คือ เรื่องของค่าตอบแทนในการจัดหาหุ้นกู้ ขณะที่ผลประกอบการลดลงเพียงเล็กน้อย
นอกจากนี้ ตลท.จะเข้าไปตรวจสอบข้อมูลที่บริษัทเคยแจ้งไว้กับตลาดหลักทรัพย์เพื่อพิจารณาในการกลับมาเปิดการซื้อขายอีกครั้ง ซึ่งเป็นข้อมูลสิ้นสุดไตรมาส 4/49 ว่าถูกต้องหรือไม่

- THL ร่วงแรง หลังตลท.สั่งสอบบัญชีปี49- Q1/50 หวั่นมีการหมกเม็ด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บมจ.ทุ่งคาฮาเบอร์ (THL) ได้ปรับตัวลงแรงทันทีตั้งแต่เปิดการซื้อขาย หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ ระบุว่าได้มีการตรวจสอบบัญชีปี 2549 และไตรมาส 1/50 ของ THL ที่พลิกเป็นขาดทุนกว่า 29 ล้านบาท ว่าค่าใช้จ่ายที่บันทึกในไตรมาส 1/50 เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงหรือเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปีก่อน แล้วนำมาบันทึกในปีนี้ เพื่อให้กลับมาเทรดในหมวด
ปกติได้ โดยจะสรุปการตรวจสอบในวันนี้

ล่าสุดเวลาประมาณ 10.01 น.(18 พ.ค.) ราคาหุ้น THL อยู่ที่ 2.54 บาท ลดลง 0.14 บาท หรือ 5.22% มูลค่าการซื้อขาย 33.37 ล้านบาท



 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 21/05/2007 @ 12:43:03 :
-DBSV ลากไส้ซ้ำ แนะนำ ขาย หวั่นข่าวดี ไม่ดีจริง
ในวันเดียวกัน (18 พ.ค.) บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ได้ออกบทวิเคราะห์ออกมาว่าจากการสอบถามบริษัท มีสาระสำคัญเกี่ยวกับ American Depository Receipt (ADR) ซึ่งก่อนหน้านี้ THL ผู้บริหารของ THL โดยนายอุดม จิรพนาธร กรรมการ บริษัทฯได้ออกมาเปิดเผยว่า หลังจากที่ที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการนำหลักทรัพย์ของบริษัทฯ (THL) เข้าซื้อขายผ่านADR ในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (U.S.SEC) เพื่อเป็นการแนะนำบริษัทฯให้กับนักลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักลงทุนประเภทสถาบันและช่วยเพิ่มสภาพคล่องของหลักทรัพย์ของบริษัทฯ นั้น
บัดนี้การดำเนินการเข้าจดทะเบียนหลักทรัพย์ ADR ของบริษัทฯ ได้รับการอนุมัติเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2550 และธนาคารดอยซ์แบงก์สาขากรุงเทพได้ยืนยันและจัดส่งรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลและขั้นตอนการดำเนินการและรายชื่อผู้ประสานงานในวันที่ 14 พฤษภาคม 2550ซึ่งนักลงทุนสามารถเข้าทำการซื้อขายได้แล้ว
ในการดำเนินการบริษัทฯ ได้แต่งตั้งให้ Deutsche Bank AG เป็นศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ ADR ของบริษัทฯ นักลงทุนหรือผู้ถือหุ้นที่สนใจสามารถติดต่อกับตัวแทน (Brokers) เพื่อทำการขายหลักทรัพย์ผ่านธนาคาร Deutsche Bank สาขากรุงเทพ
โดยบทวิเคราะห์ของ ดีบีเอส ระบุว่า จากการสอบถามบริษัทฯ พบว่า ความจริง ADR เปิดซื้อขายมาตั้งแต่ 9 พ.ค.50 แล้ว แต่ยังไม่มีการซื้อขาย(Transaction) เกิดขึ้นเลยมาจนถึงวันนี้ อีกทั้ง บริษัทกำลังทำแผนการตลาดที่จะขาย ADR ในตลาด OTC ที่อเมริกา และออกแบบกระบวนการต่างๆ
- แต่ Deutsche Bank สาขากรุงเทพ จะทำหน้าที่เป็นผู้เก็บใบหุ้นหรือ เป็น Custodian เท่านั้น ยังไม่ได้ทำหน้าที่เปลี่ยนจากหุ้น THL ไปเป็น ADR เพราะทาง THL ยังไม่ได้มอบหมายให้ใครทำหน้าที่นี้ ต้องรอบริษัทประกาศอีกครั้ง
- ทางผู้ถือหุ้นจะขายได้ในขาเดียว คือ นำหุ้นไปแปลงเป็น ADR แล้วขายให้กับนักลงทุนที่สหรัฐที่มีความต้องการซื้อ ก็เพราะ ADR เปิดซื้อขายที่อเมริกา ไม่ใช่ที่ไทย นักลงทุนไทยจึงซื้อ ADR ไม่ได้
- เราเห็นว่าการ Trading เรื่อง THL ในประเด็นเรื่องราคาที่ต่างกัน 2 ตลาดคือ THL กับ ADR อาจจะเป็นคาดการณ์ที่ดีเกินไปเพราะมีแนวโน้มว่าราคาของ 2 ตลาดอาจจะไม่ต่างกันนัก แต่ปัจจัยที่ต่างกันน่าจะเป็นเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน และนักลงทุนที่จะแปลงหุ้นเป็น
ADR จะมีความเสี่ยงเหมือนกัน คือ ระหว่างรอแปลงเป็น ADR ซึ่งต้องใช้เวลา ราคาก็อาจจะเปลี่ยนไปแล้วอีกทั้งยังมีภาระภาษีรัษฎากรที่ผู้ขายต้องเสียอีกด้วย
- บริษัทเกิดความเสี่ยงจากการตรวจสอบของตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิใน 1Q50 จึงทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เกิดความสงสัยว่าย้อนไปปี 49 ที่มีกำไรจะเป็นจริงหรือไม่ เพราะจะมีผลต่อการออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งจะทราบผลได้น่าจะเป็นวันที่ 18 พ.ค.นี้ แต่หากการขาดทุนใน 1Q50 เกิดจากการบริหารจัดการจริงก็จะไม่มีผลกระทบต่อ THL
- คงคำแนะนำ ขาย THL ที่ราคาพื้นฐาน 2.26 บาท ซึ่งคำนวณจาก P/BV ปี 50 ที่ 1.5 เท่า เราเห็นว่าบริษัทยังมีความเสี่ยงจากเรื่องปัญหาการผลิต ในเรื่อง การลดลงของความสามารถในการสกัดทองคำออกจากสินแร่ (Gold Recovery) ว่าจะผ่านพ้นไปได้เมื่อใด
ทั้งนี้ การออกบทวิเคราะห์ดังกล่าวของ ดีบีเอส ชี้ให้เห็นปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างใน THL โดยเฉพาะข่าวดีที่เคยออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ ยังมีหลายส่วนที่ยังไม่มีความชัดเจน โดยเฉพาะเรื่อง ADR นอกจากนั้น ยังมีความเสี่ยงหลายประการยังรออยู่เบื้องหน้า โดยเฉพาะเรื่องการสอบบัญชีย้อนหลังของ ตลท. ดังนั้นข่าวดีที่ออกมาก่อนหน้านี้อาจเป็นเพียงการวาดวิมานในอากาศที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ดีบีเอส จึงแนะนำให้ขายหุ้น THL ดังกล่าว

- ตลท.เลื่อนสรุปผลพิจารณาคำชี้แจงงบ Q1/50 ออกไปเป็นสัปดาห์หน้าเพื่อรอข้อมูลเพิ่ม
นายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลท. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวกับสำนักข่าวออนไลน์แห่งหนึ่งว่า ตลท.ได้เลื่อนสรุปผลการพิจารณาคำชี้แจงงบไตรมาส 1/50 THL ที่พบว่ามีผลขาดทุนสุทธิ ออกไปเป็นภายในสัปดาห์หน้า หลังอยู่ระหว่างการขอข้อมูลเพิ่มเติม
"เราคงสรุปไม่ได้ในวันนี้เพราะยังมีข้อมูลที่เราประสานงานขอเพิ่มเติมไปอีกเพราะเขาได้ส่งมาแล้ว แต่ยังไม่ครบตามที่เราต้องการ
คิดว่าคงจะสรุปได้ภายในสัปดาห์หน้า" นายศักรินทร์กล่าวและว่า หากมีข้อมูลว่า สิ่งที่ฉุดให้ THL ขาดทุนในไตรมาส 1/50
เกิดขึ้นภายในปี 49 แต่บริษัทไม่บันทึก แล้วนำมาบันทึกในไตรมาส 1/50 ซึ่งมีผลให้บริษัทย้ายกลับมาซื้อขายในหมวดปกตินั้น อาจทำให้ตลท.ต้องพิจารณาเรื่องนี้ใหม่

- เปิดปูมวิมานในอากาศของ THL
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า THL ได้รับการอนุมัติการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.ให้กลับเข้ามาซื้อขายได้อีกครั้งในวันที่ 4 พฤษภาคม หลังจากที่สามารถแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปี 2549 เท่ากับ 6 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 เท่ากับ 1,122 ล้านบาท รวมทั้งสามารถแสดงได้ว่าบริษัทมีฐานะการเงินและผลการดำเนินงานที่มั่นคงตามสภาพ
ธุรกิจของบริษัทไปอย่างต่อเนื่อง

- กูมองอนาคตสวยหรูกำไรปีนี้-ปีหน้าโตกระโดด ให้ราคาเหมาะสมตั้งแต่ 2.20-6.26 บ.
กูรูถือมีดชำแหละ THL มองตรงกันอนาคตสวยหรู กำไรปีนี้-ปีหน้ายังโตก้าวกระโดด งานนี้ บล.ฟิลลิป ให้ราคาเหมาะสมสูงลิ่ว 6.26 บาท ขณะที่ บล.นครหลวงไทย ประเมินต่ำสุด 2.20 บาท ด้าน ฟาร์อีสท์ชี้ยังมีความเสี่ยงทั้งจากราคาทอง การขอประทาน
บัตร ความสามารถการผลิต และปัญหาสิ่งแวดล้อม
บทวิเคราะห์บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า ปัจจุบัน THL ดำเนินงานภายใต้บริษัทและบริษัทย่อย 5 แห่ง โดยมีโครงการที่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์เพียง 2 โครงการ คือ เหมืองทองคำและเหมืองหินแอนดิไซด์ ในขณะที่โครงการเหมืองดีบุก และอสังหาริมทรัพย์ที่รัชดาภิเษกอยู่ระหว่างศึกษาและหาผู้ร่วมทุน นอกจากนี้ยังมีที่ดินที่ภูเก็ตอีกราว 33 ไร่ที่อยู่ระหว่างการประเมินศักยภาพของพื้นที่และแนวทางในการพัฒนา
ในปี 2549 โครงการเหมืองทองคำได้เริ่มเชิงพาณิชย์ในเดือนก.ย.2549 ทำให้ผู้ผลิตและจำหน่ายทองคำได้ 1.24 หมื่นออนซ์ จึงมีรายได้รวมและกำไรสุทธิที่ 290.56 ล้านบาทและ 6.10 ล้านบาท ทำให้กลับมาซื้อขายในหมวดปกติได้ตั้งแต่วันนี้ (4 พ.ค. 2550)
ปี 2550 โครงการเหมืองทองคำประสบปัญหาทางด้านการผลิตและการ Recovery ที่ต่ำกว่าเป้าในช่วง 1Q50 ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาแก้ไขจึงทำให้ต้นทุนต่อออนซ์ในปีนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น จึงยังไม่เห็นศักยภาพของโครงการที่แท้จริง และยังต้องจ่ายค่าปรับจากการรีไฟแนนซ์หนี้ บนการผลิตที่ 2.5 หมื่นออนซ์ ทองคำที่ 650 ดอลลาร์/ออนซ์ และเงินบาทที่ 35 บาท/ดอลลาร์ จะมีรายได้จากทองคำ 568.75 ล้านบาทและกำไรสุทธิที่ 75.96 ล้านบาท
ปี 2551 กำไรจะกระโดดอีกครั้งหลังแก้ไขขั้นตอนการผลิตทำให้ต้นทุนลดลงและจำนวนการผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 หมื่นออนซ์ตามข้อตกลงเงินกู้ ซึ่งคาดว่ากำไรจะเพิ่มเป็น 152.04 ล้านบาท
ทั้งนี้ประเมินราคาหุ้นด้วยวิธี DCF บนเหมืองทองคำและเหมืองหินแอนดิไซน์ ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 6.26 บาท เนื่องจากโครงการอื่นๆยังไม่มีความชัดเจนสูง หากมีความชัดเจนทางฝ่ายฯ จะมีการประเมินมูลค่าเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง
ด้าน บล.ฟาร์อีสท์ ระบุว่า THL มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องแต่ความเสี่ยงยังสูงตามธุรกิจเหมืองทอง จากแผนการเพิ่มเครื่องบดอีก 1 เครื่องในปี 51 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตทองคำเพิ่มขึ้น และการได้รับประทานบัตร (Mining License) เพิ่มเติมจากที่อยู่ระหว่างการขออีก 114 แปลง นอกจากนั้น THL ยังอยู่ระหว่างการขอประทานบัตรเหมืองดีบุกในทะเล ทั้งนี้เรามองว่าการสำรวจและการทำเหมืองทองคำและดีบุกเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีปัจจัยที่จะกระทบกับกำลังการผลิตทองคำได้แก่ ราคาขายทองคำ, การได้รับประทานบัตรจากภาครัฐ, การเปลี่ยนแปลงอัตราค่าภาคหลวง, ความสมบูรณ์ของสินแร่, ความสามารถในการผลิตทอง (Recovery Rate), ปัญหาสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
ประเมินมูลค่าเหมาะสมโดยอ้างอิงกับเหมืองทองคำที่ใหญ่ที่สุดของไทยและกลุ่มเหมืองทองคำในออสเตรเลีย เนื่องจากปัจจุบันไม่มีเหมืองทองคำจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ขณะที่ทองคำเป็นสินค้าที่มีราคาเคลื่อนไหวตามราคาตลาดโลก ดังนั้นเราจึงประเมินมูลค่าเหมาะสมโดยเปรียบเทียบกับเหมืองทองคำอัคราไมน์นิ่ง ซึ่งเป็นเหมืองทองคำที่ใหญ่ที่สุดในไทย ตั้งอยู่ในแหล่งชาตรีในจังหวัดพิจิตร (จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย ภายใต้ บมจ. Kingsgate : KCN) ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E 28.80 เท่า และกลุ่มเหมืองทองคำในออสเตรเลียปัจจุบันซื้อขายที่ P/E เฉลี่ย 24.54 เท่า โดยเราประเมินราคาเหมาะสม THL ปี 50 ที่ 3.10-3.72 บาท (อิง Perspective P/E 50 ที่ 15-18 เท่า) ซึ่งเป็น Perspective P/E ที่มี discount เนื่องจากประสิทธิภาพในการผลิตของ THL ต่ำกว่าเหมืองอัคราไมน์นิ่ง และซื้อขายใน SET ซึ่งมี P/E เฉลี่ยที่ต่ำกว่าตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลียแนะนำ ?ซื้อเก็งกำไร?
ขณะที่ บล.นครหลวงไทย ระบุว่า การอยู่ในหมวด Non performance ตั้งแต่ ก.ค. 2549 ไม่ได้ทำให้ก้าวสำคัญของ THL หยุดลง THL ได้ก่อสร้างเหมืองทองคำ ?ภูทับฟ้า? เสร็จสิ้นและดำเนินการผลิตทองคำบริสุทธิ์ 90% ตั้งแต่ ก.ย. 2549 ด้วยการดำเนินงานเพียง 4 เดือน ก็เพียงพอที่ทำให้ THLพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 6 ล้านบาท ในปี 2549 และนำ THL กลับสู่กระดานซื้อขายปกติอีกครั้ง
SCIBS คาดว่าด้วยปริมาณสินแร่สำรองที่มีอยู่ THL จะคงอยู่ในกระดานปกติไปอีกอย่างน้อย 10 ปี ทั้งนี้ การมีผลผลิตเป็นทองคำที่มีความต้องการอยู่ตลอดเวลา ทำให้ THL มีรายได้เป็นเงินสด ซึ่งจากกำลังการผลิตปัจจุบันคาดจะทำให้กระแสเงินสดดีขึ้น โดยระยะเวลาเงินสดสุทธิ (Net Cash Cycle) ลดลงจาก 161 วันในปี 2548 เหลือเพียง 94 วันในปี 2549 และการมีEBITDA สูงถึง 300-400 ล้านบาทต่อปี ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้สินและดอกเบี้ยดีขึ้นจาก0.3 ณ สิ้นปี 2549 เท่าเป็น 1.0 เท่า ณ สิ้นปี 2550 และช่วยลด D/E จาก 0.7 เท่า ณ สิ้นปี 2550 ให้เหลือ 0.1 เท่าได้ในเวลา 4 ปี
SCIBS ประเมินมูลค่าเหมาะสมด้วยวิธี DCF (WACC 12.0%) โดยอิงเฉพาะปริมาณสินแร่ที่ได้มีการสำรวจแล้ว ได้ราคาเหมาะสมปี 2550 ที่ 2.20 บาท/หุ้น และปี 2551 ที่ 2.54บาท/หุ้น

- โกลเบล็กมาแรงสุดให้ราคาเหมาะสม 5.20 บาท - 8.50 บาท
บล.โกลเบล็ก ออกบทวิเคราะห์แนะนำ ?ซื้อ? THL ราคาเหมาะสมปี50 ที่ 5.20 บาท - 8.50 บาท
โดยบทวิเคราะห์ระบุว่า THL ประกอบธุรกิจพัฒนาเหมืองแร่ และโลหะต่างๆ อาทิ ทองคำ ดีบุก และหินแอนดีไซด์โดยมีเหมืองแร่ทองคำเป็นธุรกิจหลัก ขณะที่เหมืองดีบุกต้องหยุดดำเนินการชั่วคราวเนื่องจากต้องจ่ายค่าภาคหลวงที่สูง ทั้งนี้บริษัทเริ่มทำการผลิตและจำหน่ายทองคำในเชิงพาณิชย์ได้แล้วใน 3Q49 ทำให้ผลประกอบการพลิกมีกำไร 16 ล้านบาทและยังมีกำไรต่อเนื่องอีกใน 4Q49 ทำให้ผลประกอบการปี 49 พลิกมีกำไร 6.1 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 109%yoyส่วนปีนี้เราคาดว่าการปรับเพิ่มขึ้นของราคาทองคำและทำการผลิตเต็มปีจะผลักดันให้บริษัทมีกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่องโดยคาดกำไรสุทธิประมาณ 139 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 2,171%yoy เราแนะนำ ?ซื้อ? โดยมีราคาเป้าหมายปี 50 ระหว่าง 5.20 บาท ? 8.50 บาท

- หุ้นติดเทอร์โบหุ้นวิ่งกระฉูดเกือบ 200% หลังได้กลับมาเทรดอีกครั้ง
ในวันแรกที่ THL ได้กลับเข้ามาซื้อขายใหม่ เป็นครั้ง (4 พ.ค.50))ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น THL เปิดตลาดที่ระดับ 4.80 บาท ณ เวลา 09.57 น.อยู่ที่ระดับ 4.64 บาท เพิ่มขึ้น 2.98 บาท หรือ 177.11% มีมูลค่าการซื้อขายรวม 108.98 ล้านบาท และปรับขึ้นไปสูงวุดที่ราคา 4.88 บาท และปิดตลาดที่ระดับ 3.80 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,174.43 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น ราคาหุ้น THL ได้ปรับลดลงมาเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง

-บวกรอบใหม่ด้วยข่าวดี เข็นหุ้นเทรดผ่าน ADR ในตลาดอเมริกา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ราคาหุ้น THL ได้ปรับลดลงต่อเนื่องจากวันที่ 4 พ.ค. แต่ราคาหุ้นก็ได้เริ่มกลับมาบวกใหม่อีกครั้ง เมื่อมีข่าวว่าได้นำหุ้นเข้าซื้อขายผ่าน American Depository Receipt (ADR) ในตลาดหลักทรัพย์อเมริกา ได้แล้ว เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพ
คล่อง และแนะนำหุ้นให้กับนักลงทุนต่างประเทศได้รู้จัก อีกทั้งยังเป็นการปูทางสำหรับการนำบริษัททุ่งคำ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นลอนดอนด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเพียงไม่นานราคาหุ้นของ THL ก็ปรับลงมาอีกครั้ง หลังจากที่ ตลท.ออกมาประกาศจะตรวจสอบงบปี 2549 และ Q1/50 และ บล.ดีบีเอส ออกบทวิเคราะห์ มาเปิดเผยความเสี่ยงบนข่าวดีของ THL ดังกล่าว

อย่างไรก็ดี ภายในเวลาไม่นานนี้เราคงจะได้ทราบกันว่า THL จะยังคงได้รับโอกาสให้ทำการซื้อขายอยู่ในกระดานหุ้นไทยต่อไป หรือ ว่าต้องกลับไปที่เดิมเพราะหมกเม็ดเรื่องงบปี 2549 อย่างที่ ตลท.ได้ตั้งข้อสังเกตุไว้ในช่วงที่ผ่านมาจนนำไปสู่การตรวจสอบในครั้งนี้


[/color:f5d880c654">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com