May 17, 2024   11:05:54 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สัญญาณหุ้น
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 24/05/2007 @ 10:27:43
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บล.โกลเบล็กแนะนำซื้อEGCOราคาเป้าหมาย 119.00 บาท
ผลประกอบการ Q1/50 ดีกว่าคาด โดยมีกำไรสุทธิ 2,538 ลบ.เพิ่มขึ้น 22%YoY และ 152%QoQ สาเหตุหลักจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรโรงไฟฟ้า BLCP มากกว่าที่ประเมินไว้ โดย Q1/50 มีส่วนแบ่งกำไรจาก BLCP สูงถึง1,247 ลบ.เทียบกับที่เราประเมินไว้ทั้งปี 50 ประมาณ 2,000 ลบ. ขณะที่แนวโน้มช่วงที่เหลือของปี แม้คาดกำไรจะชะลอตัวเมื่อเทียบกับ Q1เนื่องจากเป็นปกติที่บริษัทจะมีโปรแกรมการปิดซ่อมบำรุงในช่วงครึ่งปีหลัง แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากส่วนแบ่งกำไรจาก BLCP ที่ดีกว่าที่ประเมินไว้มาก บวกกับตั้งแต่ Q2/50 ไปจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 หน่วยที่ 1(กำลังผลิตติดตั้ง 734 MW ซึ่งEGCO รับรู้ 50%)ที่ปัจจุบันเริ่มดำเนินการแล้ว ดังนั้น เราจำต้องปรับประมาณการปี 50ขึ้น เพื่อสะท้อนแนวโน้มดังกล่าว โดยประเมินกำไรสุทธิปี 50 ใหม่ได้ 7,330 ลบ.เพิ่มขึ้น 21%YoY ผลประกอบการของโรงไฟฟ้าหลักทั้งระยองและขนอมผ่านจุดสูงสุดแล้วในปี 49 และแนวโน้มจะปรับลดลงเป็นลำดับ แต่อย่างไรก็ตาม EGCO มีโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆที่จะทยอยรับรู้ในช่วงปี 50-53 อีก4 โครงการ(แก่งคอย 2,น้ำเทิน 2 ,ยะลากรีน และอมตะพาวเวอร์ บางปะกง)) กำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,616 MW เป็นส่วนของ EGCO ประมาณ1,020 MW บวกกับโรงไฟฟ้า BLCP 50%(กำลังการผลิตติดตั้ง 1,434 MW) ซึ่งเริ่มรับรู้รายได้แล้วตั้งแต่ต้นปี 50 ซึ่งจากโครงการในมือดังกล่าวคาดจะหนุนให้ผลประกอบการขยายตัวได้ต่อเนื่องในช่วง 3 ปีข้างหน้า
บล.เคจีไอแนะนำถือUMSราคาเป้าหมาย 15.80 บาท
จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนลูกค้าขนาดกลางและเล็กอย่างต่อเนื่อง (ปัจจุบันมีมากกว่า 200ราย) รวมถึงลูกค้าขนาดใหญ่ 3-4 ราย ทำให้ยอดขายในไตรมาส 1/50 ทำสถิติสูงสุดที่ 515 ล้านบาท โดยเราคาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาระดับยอดขายดังกล่าวไว้ได้อีกในไตรมาสที่เหลือของปีนี้ เนื่องจากการขยายฐานลูกค้าที่ประสบความสำเร็จบริษัทมีโครงการต่างๆอีกมากที่จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในอนาคตบริษัทจะเริ่มดำเนินการโครงการถ่านอัดก้อน(Coal Briquette) ในไตรมาส 4/50 ซึ่งคาดว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 25-30% ขณะที่คลังสินค้าและท่าเรือแห่งใหม่ที่ ต.สวนส้ม จ. สมุทรสาคร จะเปิดใช้ได้ในไตรมาส 4/50เช่นกัน โดยคลังสินค้าแห่งใหม่นี้จะเก็บถ่านหินได้มากกว่า 3 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากคลังสินค้าเก่าที่ ต. ชัยมงคล จ.สมุทรสาคร ซึ่งเก็บได้เพียง 1 แสนตัน การเปิดคลังสินค้าและท่าเรือที่มีพื้นที่ติดกันนี้ช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งได้ 50 บาท/ตัน หรือประมาณ 40-45 ล้านบาท/ปีปรับประมาณการกำไรปี 50 ขึ้น 5.7% และปี 51 ขึ้น 14.1%จากการขยายฐานลูกค้าต่อเนื่องและโครงการในอนาคตที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้บริษัท ทำให้เราปรับประมาณการกำไรปี50 ขึ้น 5.7% และปี 51 ขึ้น 14.1% บริษัทมี upside จากโครงการเปลี่ยนเชื้อเพลิงจากถ่านหินเป็นก๊าซ (Coal gasification)ขณะนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างขั้นตอนศึกษาและออกแบบโครงการ(ร่วมมือกับกระทรวงพลังงาน) โดยโครงการนี้จะนำถ่านหินมาแปลงสภาพให้เป็นก๊าซเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทน LPG และ NGV (ต้นทุนเชื้อเพลิงแพงกว่าถ่านหิน 60%และ 30% ตามลำดับ) ในอุตสาหกรรมเซรามิก กระเบื้อง และแก้ว เป็นต้น ซึ่งมูลค่าตลาดของกลุ่มอุตสาหกรรมนี้มีอยู่ประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท บริษัทมีแผนจะสั่งซื้อเครื่องจักรจากจีนมูลค่า 2-3 ล้านบาทในช่วงกลางปี 50 และจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 51 โดยเรายังไม่ได้รวมโครงการนี้ไว้ในประมาณการของเรามีแผนจะออกวอร์แรนท์เพื่อเป็นทุนสำหรับโครงการมูลค่าเพิ่มต่างๆ ในอนาคต
บล.เกียรตินาคินแนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว HANAราคาเป้าหมาย 27.00 บาท
ผลประกอบการ 1Q/50 ของ HANA รายงานยอดขายสกุลเงินบาทจำนวน 3,567 ล้านบาทลดลง 11% Q-O-Q ตามการลดลงของยอดขาย IC แต่เพิ่มขึ้น 9% Y-O-Y เนื่องจากยังได้ประโยชน์จาก Product mix ทั้งนี้ยอดขายใน 1Q/50 คิดเป็น 23% ของประมาณการยอดขายปี 50 ของเราที่ 15,819 ล้านบาท แต่ผลกระทบการแข็งค่าของเงินบาทต่อสินค้าคงคลัง ทำให้ HANA มีการตั้งสำรองด้อยค่าสินค้าผ่านต้นทุนขาย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักทำให้Gross margin ใน 1Q/50 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่แนวโน้ม 2Q/50 เงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง ทำให้ HANA อาจจะต้องมีการตั้งสำรองรายการดังกล่าวอีกครั้ง ส่งผลให้Gross margin ยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร จากปัจจัยลบดังกล่าว ทำให้เราปรับประมาณการปี50 ลง 10% จากประมาณการเดิม เพื่อสะท้อนต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้น โดยเราคงประมาณการยอดขายสกุลเงินบาทไว้ที่ 15,819 ล้านบาท แต่ปรับสมมติฐาน Gross margin ลงเหลือ 17.7% จากเดิม 19.3% ส่งผลให้ในปี 50 HANA จะมีต้นทุนขาย 13,024 ล้านบาทจากเดิม 12,766 ล้านบาท และจะมีกำไรจากการดำเนินงาน 2,019 ล้านบาท จากเดิม 2,244 ล้านบาท หรือลดลง 9% Y-O-Y อย่างไรก็ดีเราเห็นว่าผลประกอบการที่เริ่มฟื้นตัวและจุดแข็งด้านฐานะการเงินที่เป็น Net cash ทำให้ HANA ยังมีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลปี50 ในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท ณ ราคาปัจจุบันคิดเป็น Dividend yield ประมาณ 6%[/size:a21c56f6e3">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com