*ตะลึงกันไปตามๆ กัน เมื่อจู่ๆ ดัชนีกระชากขึ้นพรวดเดียวขึ้นมาปิดถึงที่ 792.71 จุดบวกไป 15.92 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.41 หมื่นล้านบาท พร้อมกับทำ new high ในรอบ 3 ปี ทั้งที่ไม่มีอะไรในก่อไผ่ ย่อมเป็นเรื่องเหลือเชื่อในสายตานักลงทุนธรรมดาๆอย่างเราๆ ท่านๆ
*"โมนิก้า" ถึงพอใจกับสถานการณ์ของตลาดหุ้นช่วงบ่ายวานนี้เป็นอย่างมาก เพราะแสดงให้เห็นความเข้มแข็งทางจิตใจของนักลงทุนได้ดี แม้จะเป็นความมั่นใจที่กระท่อนกระแท่นอยู่บ้าง(หลังเห็นดัชนีกระชากขึ้นแรงโดยไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง)...แต่อย่างน้อยก็ทำให้วันนี้มีลุ้นกันอีกวัน
* อย่างที่รู้กัน ผลประกอบการเป็นพื้นฐาน ข่าวสารเป็นตัวหลักในยามนี้ เรื่องของต่างชาติเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนงดงามเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นต่างประเทศ คงเป็นเรื่องที่ต้องถกเถียงกันอีกนานเลยทีเดียว เพียงแต่เวลานี้ไม่มีใครสนใจเรื่องดังกล่าวอีกแล้ว
*เนื่องจากนักลงทุนไม่มีเวลาสอบถามสาเหตุที่ทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงนักลงทุนถึงรีบกระโจนเข้าไล่หุ้นอย่างเอาเป็นเอาตาย จนหุ้นหลายตัวปรับตัวขึ้นแรงจนทะลุแนวต้านสำคัญอย่างง่ายดาย...ขนาด "โมนิก้า" ยังแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองและต้องนั่งขยี้ตาหลายรอบเพราะคิดว่าตาฝาด แต่สุดท้ายกลับเป็นเรื่องจริงไม่ได้อิงนิยาย...เซอร์ไพร้ซ์ขนาดไหนก็ลองคิดกันดูเถอะ
*PTT เป็นพระเอกของวันอย่างแท้จริง หลังจากทะยานขึ้นในแดนบวกม้วนเดียวจบโดยไม่ต้องนั่งลุ้น นอนลุ้น ให้เสียวสันหลังเหมือนหุ้นบางตัว ยิ่งเป็นหุ้นขวัญใจของนักลงทุนต่างชาติมาแต่ไหนแต่ไร เมื่อมาผนวกกับผลกำไรที่คาดจะออกมาดีด้วยแล้วหล่ะก้อ ราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาทำ new high ที่ระดับ 278 บาท บวกไป 8 บาท ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการกลับตัวเป็นขาขึ้นนะจะบอกให้
*ทางด้าน TTA ทะยานขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิมอย่างต่อเนื่องพร้อมกับมีวอลุ่มสนับสนุนเข้ามาเต็มเหยียดเป็สัปดาห์ที่ 2 ติดต่อหัน เสมือนสัญญาณที่บ่งบอกให้รู้ว่า หากคิดจะซื้อที่ราคาต่ำกว่านี้ต้องรอถึงชาติหน้านะจ๊ะ เพราะของดีๆ ราคาถูกๆ ไม่มีในโลกนะซี ปิดตลาดหุ้นอยู่ที่ 42.50 บาท บวกไป 2.50 บาท ถือว่ายังไม่แพงเกินไปเมื่อเทียบกับแนวโน้มที่สดใส
* หุ้นปูนใหญ่ SCC กระชากขึ้นแรงเป็นพิเศษ พร้อมกับพยายามกลับไปยึดฐานที่มั่น 260บาทให้ได้ โดยพยายามพลิกกลับแนวต้านให้เป็นแนวรับ เพื่อไม่ให้ราคาซวนเซเหมือนสนต้องลม และเรื่องดังกล่าวก็ไม่ใช่เรื่องเกินกำลังความสามารถแต่อย่างใด เพราะมีแรงซื้ออัดแน่นเข้ามาตลอดทั้งวัน "โมนิก้า" ถึงอยากให้นักลงทุนจำไว้ว่า หากมีแรงซื้อเข้ามามากสถานการณ์จะดีขึ้นเป็นลำดับ และในที่สุดจะทำให้งฐานแนวรับบริเวณ 260 จุดแข็งแกร่งขึ้นเป็นกอง
* เช่นเดียวกันกับ หุ้นกลุ่มแบงก์ ยืนยันไปเรียบร้อยโรงเรียนนายแบงก์ว่า ราคาต่ำกว่าราคาปิดวานนี้คงไม่ได้เห็นอีกนาน และใครที่เคยใจหายใจคว่ำกับหุ้นกลุ่มนี้มาหลายรอบกรุณาเปลี่ยนความคิดเสียใหม่เป็นการด่วน เพราะจังหวะนี้เป็นช่วงของการซื้อเพิ่มอย่างเดียว
*ทางด้าน ATC ถือว่ามีแบ็กหลังดี แถมมีนักลงทุนขาใหญ่ แถวอัมพาวคอยเป็นกุนซือในการดำเนินธุรกิจ ก็เลยทำให้ผลประกอบการไตรมาส 2 ที่จะประกาศออกมาในเร็วๆ นี้พีคพอๆ กับช่วงปิโตรเคมีรุ่งสุดขีด ยิ่งวานนี้มีการไล่ราคากันเอิกเกริก จนราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 67 บาท บวกไป 2 บาท ยิ่งมั่นใจสุดๆ ว่า รอบนี้อย่างไรก็ต้องถึง 70 บาทแน่นอนเจ้าค่ะ
*หุ้นนายหน้าค้าหลักทรัพย์ เป็นนักฉวยโอกาสชั้นยอด อาศัยแรงซื้อที่ไหลกลับมาเป็นแรงผลักดันสำคัญ ราคาหุ้นถึงได้กระโจนปรู๊ดปร๊าด แนวต้านครั้งก่อนที่ว่าแน่ๆถูกทำลายลงในชั่วพริบตาเดียว และมีโอกาสทะยานขึ้นต่อ(ตามสูตรเดิมๆ) หากสามารถพลิกกลับแนวต้านถัดไปให้ลงมาเป็นแนวรับในเร็ววัน เป้าหมายการทะยานในรอบนี้จึงไม่ต้องถามถึง หากไม่ใช่รายการออกของครั้งใหญ่...จะทุ่มสุดตัวก็ไม่เห็นเสียหายอะไรเลย
*S2Y คือแบบอย่างหุ้นต้องห้ามที่ "โมนิก้า" ได้เกริ่มไว้ตั้งแต่เริ่มแรก เพราะผลประกอบการที่มีแนวโน้มย่ำแย่เป็นตัวค้ำคอที่สำคัญ จนทำให้โบรกเกอร์หลายสำนักแนะให้ทิ้งลูกเดียว การกระชากขึ้นมาปิดที่ 2.98 บาท บวกไป 0.52 บาท หรือขึ้นไปถึง 21%เดี๊ยนคิดว่าเป็นของปลอมทั้งดุน หากวันนี้หุ้นยังเดินหน้าบวกต่อ ก็ขอให้หาจังหวะปล่อยของออกไปก่อนนะจ๊ะ...เพราะฝรั่งขี้นกก๊วนนี้ไม่น่าไว้ใจเลยสักคน
*สำหรับคนที่นิยมเห็นหุ้นเก็งกำไรสั้นๆ จนเป็นอาจิน "โมนิก้า" คงไม่ขอขัดขวางความอุตสาหะของนักลงทุนเรานั้น เพราะเดี๊ยนเชื่อว่าคนเราชอบอะไรไม่เหมือนกัน จึงขอเลยตามเลยก็แล้วกัน...เนื่องจากเปลื้องน้ำลายตัวเองเปล่าๆ เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าคงไม่มีใครเชื่อ รวมทั้งไม่อยากขัดขวางช่องทางรวยของคนเรานั้นเหล่า...อิอิอิ