*ในที่สุดตลาดหุ้นไทยก็เผยธาตุแท้ให้เห็นว่า ลำพังเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนสถาบันในประเทศ บวกกับแรงซื้อของนักลงทุนรายย่อยก็ไม่มีทางจะดันดัชนีขึ้นมายืนเหนือ 800 จุดได้อย่างที่เห็นกันอยู่ตอนนี้ เพราะเม็ดเงินดังกล่าวน้อยมากเมื่อเทียบกับบนหน้าตักของนักลงทุนต่างชาติที่มีเป็นหมื่นๆ ล้าน
*แถมวานนี้ได้ข่าวว่า กองทุนญี่ปุ่นเตรียมขนเงินมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีก 2 พันล้านบาท ดัชนีจะพุ่งขึ้นได้ขนาดไหน คุณท่านหลานเธอก็ลองนับนิ้วมือดูกันก็ได้ และหากยังไม่หน่ำใจจะเอานิ้วเท้าขึ้นมานับด้วยก้ได้ เพราะถือเป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลที่สามารถพึงกระทำได้เจ้าค่ะ
*ถึงกระนั้นเดี๊ยนก็ยังไม่วางใจอยู่ดี เพราะเมื่อคิดเบ็ดเสร็จ 3 วันที่ผ่านมาดัชนีขึ้นไปเกือบ 50 จุด หรือปรับตัวขึ้นไปแล้วราวๆ 6% ก็ควรจะได้เวลาพักฐานเสียที และมีความเป็นไปได้ว่าวันนี้ดัชนีจะอ่อนตัว หลังจากกูรูหลายสำนักเริ่มแนะนำให้ลูกค้าเทขายหุ้นเอากำไรมานอนกอดนะจ๊ะ
*งานนี้จึงขึ้นอยู่กับนักลงทุนต่างชาติจะเทขายหุ้นตาม หรือจะเดินหน้าเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมต่อไป ซึ่งจะเป็นตัวแปรที่บอกว่าแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 800 จุดแข็งแกร่งจริงหรือไม่ และหากดัชนียืนหยัดปิดได้อย่างมั่นคง การเคลื่อนตัวหลังจากนี้จะเป็นในลักษณะside way up นะจะบอกให้
*"โมนิก้า" ถึงอยากให้นักลงทุนคิดหาจังหวะเข้าซื้อหุ้นตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะอาทาหรณ์สอนใจเรื่อง เงินมาเที่ยว เดี๋ยวเดียวก็กลับ แต่ถ้าเงินไปลับไปแล้ว ก็คงไม่กลับมา ทำให้นักลงทุนบางรายจำขึ้นใจมาถึงทุกวันนี้นะจะบอกให้
*เร้าร้อนสุดของวานนี้กลับกลายเป็นหุ้นหลักทรัพย์ BLS ราคาหุ้นกระชากขึ้นม้วนเดียวมาปิดที่ 18.80 บาท บวกไป 3.20 บาท หรือขึ้นไปถึง 20% พร้อมกับทำ new highนับตั้งแต่เข้าเทรดครั้งแรกเมื่อ 2 ปีก่อนแบบนี้ไงเล่า..คุณพี่ญาณศักดิ์ ถึงได้หน้าบานเป็นกระด้งขึ้นทุกวันๆ
*แถมยังยึดหัวแถวโบรกเกอร์ที่มีวอลุ่มเทรดอนุพันธ์มากสุดติด 1 ใน 3 และบางวันก็ขึ้นแท่นอันดับ 1 อีกต่างหาก ผู้หลักผู้ใหญ่ของบริษัทถึงยิ้มแก้มปริไม่ยอมหุบ เพราะตัวเลขผลการดำเนินงานไตรมาส 2 คงไม่ขี้ริ้วขี้เหร่นัก
*ส่วนพี่เอื้อย KTB กระชากขึ้นพรวดๆ แบบไม่รั้งรอ พร้อมกับมีวอลุ่มซื้อเข้ามาอย่างหนาแน่น จนราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ บาท บวกไป หรือขึ้นไปถึง % น่าจะเป็นอนิสงส์จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติล้วนๆ ถึงทำให้ราคาหุ้นทำราคาสูงสุดในรอบ 7 เดือนอย่างง่ายดายเจ้าค่ะ
*ส่วนหุ้น PS ก่อร่างสร้างฐานด้วยวอลุ่มซื้อที่หนาแน่น ก่อนจะไต่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆจนในที่สุดขึ้นมาปิดถึงที่ระดับ 7.55 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไปถึง 11% พร้อมทำราคาสูงสุดในรอบ 1 ปี เป็นทิศทางที่สวยงามมากๆ และเป็นหุ้นดาวเด่นที่เดี๊ยนอยากให้คุณๆ จับตาดูเป็นพิเศษ หลังมีแก๊ปราคาให้หุ้นวิ่งต่ออีกเยอะ
*ข่าวดีของหุ้น AKR มาแล้ว หลังจากที่ลงมือติดตั้งเครื่องจักรผลิตแผ่นโซล่าร์เซลเรียบร้อยแล้ว ช่วงที่ผ่านมา และเริ่มทดลองการผลิตแล้ว ซึ่งก็ได้แผ่นเซลสำหรับใช้ในการเก็บแสงอาทิตย์เป็นแผ่นแรกของประเทศไทยเลยก็ว่าได้
*รอบนี้คงจะเป็นโอกาสที่หุ้นจะวิ่งได้อีก หลังจากที่ข่าวดีออกมา คาดว่าไม่เกินกลางเดือนหน้า เครื่องจักรคงจะพร้อมผลิตได้อย่างเต็มแล้วละคะ ซื้อรายได้ปีนี้คงจะออกมาสวยกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอนคะ และราคาหุ้นคงจะตอบรับในไม่ช้าจ้า ล่าสุดราคาหุ้นวิ่งขึ้นปิดที่ 2.22 บาท บวกไป 0.02 บาทเจ้าค่ะ
*SCNYL ถือเป็นหุ้นที่ "โมนิก้า" อยากแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อมากที่สุด แต่ก็ทำไม่ได้สักที เพราะหุ้นมีอยู่ในมือนักลงทุนรายย่อยแค่ 5% ส่งผลให้คนที่คิดจะซื้อหุ้นก็ไม่เคยซื้อได้สักที เงินปันผลทั้งหลายทั้งปวงถึงตกอยู่แต่ในกระเป๋าผู้ถือหุ้นใหญ่เพียงกลุ่มเดียวตรงกับตำราที่ว่า เรือล่มในหนองทองจะไปไหน เจ้าข้าเอ้ย...ยยยย
*ก่อนจากกัน "โมนิก้า" มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการลาออกของ เฮียบุญคลีแล้วให้ เฮียสมประสงค์ มานั่งบริหารแทนกระทันหันว่าเกิดจากอะไรกันแน่ แต่จู่ๆ พรายกระซิบแถวถนนวิทยุ ดันยกตัวอย่างการลาออกของ ดร.อุดมศักดิ์ ชาครียวณิชย์พร้อมกับเล่าถึงวีกรรมเก่าๆ ในอดีตให้ฟังอย่างละเอียดยิบ ก่อนจะปิดฉากเส้นทางนักการเงินของตัวเองอย่างอนาถใจ...เดี๊ยนจึงสงสัยว่า กรณีของเฮียบุญคลีจะซ้ำรอย อิอิอิ
*เช่นเดียวกับในรายของ POWER เผลอแป๊บเดียว จันทร์ที่จะถึงนี้ ดีเอสไอ ก็จะสรุปสำนวนว่าผู้บริหารของบริษัททำผิดในข้อหาอะไรบ้าง และคงจะได้รู้กันเสียทีว่าหวยงวดนี้จะไปออกที่ใครบ้าง เพราะมีข่าวลือกระเซ็นสายออกมาไม่ขาดตอนว่า มีคนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หลายคน
*โดยเฉพาะก๊วนนักการเมืองที่ได้หุ้นตัวนี้กันเต็มพอร์ต เขาว่ากันว่าจะโดนหมายหัวมากเป็นพิเศษ ซึ่งจะเป็นตัวโยงใหญ่ไปถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด จนอาจเจอมาสเตอร์มายด์ที่มีชื่อย่อว่า ส. ผัวพันอยู่จริงๆ ก็ได้นะค่ะ