ดัชนีหุ้นวันที่ 11 ก.ค. 50 ปิดที่ 846.28 จุด ลดลง 12.17 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 34,402 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิกว่า 450 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดนำโดย PTT ปิด 302 บาท ลดลง 6 บาท, IRPC ปิด 7.05 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง, RRC ปิด 20.70 บาท บวก 0.10 บาท, TOP ปิด 80 บาท ลบ 2 บาท และ SCB ปิด 82.50 บาท ลบ 2 บาท

หุ้น IRPC ระหว่างวันแตะนิวไฮในรอบเกือบ 9 เดือน มาที่ 7.25 บาท บวก 0.20 บาท สวนทางตลาดโดยรวมที่ปรับลง ขณะที่มีมูลค่าการซื้อขายคึกคัก ตลอดทั้งวัน หลังโบรกเกอร์หลายรายแนะซื้อโดยยกให้เป็นหุ้นดีที่ราคายัง ขยับตัวขึ้นไม่มาก หลังหุ้นบิ๊กแคปอื่นๆทะยานนำหน้าไปไกล

ล่าสุด บล.เกียรตินาคิน ออกบทวิเคราะห์ระบุให้ ?ซื้อลงทุน? โดยให้ ราคาที่เหมาะสมสำหรับปี 51 ที่ 7.80 บาท โดยคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 50 จะอยู่ที่ 4.26 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และ เพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มธุรกิจที่ดีขึ้นอย่าง ต่อเนื่องทั้งธุรกิจปิโตรเคมีและปิโตรเลียม

นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า IRPC จะจ่ายเงินปันผลปี 50 ได้ในอัตรา 0.22 บาทต่อหุ้น

ส่วนหุ้น EGCO เก๋ไก๋ทำนิวไฮสูงสุดนับตั้งแต่เข้าตลาด เมื่อปี 38 โดย ขึ้นไปแตะที่ 119 บาท บวก 4 บาท โดย บล.กิมเอ็ง แนะ ?ซื้อเก็บ? หุ้น EGCO โดยปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 130 บาท จากเดิมอยู่ที่ 108 บาท โดยระบุว่า EGCO ปรับตัวขึ้นเพียง 8% ถือว่ายังน้อยเมื่อเทียบกับตลาดที่ปรับตัวขึ้น 17% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา แต่พื้นฐานของบริษัทพัฒนาไปมาก เช่น กำลังผลิตไฟฟ้าเข้า มาใหม่จะผลักดันคาดการณ์กำไรปี 50 ขึ้นได้ถึง 19% และของปีหน้าอีก 26%

นอกจากนี้ EGCO ยังมีศักยภาพกำไรที่โดดเด่น รวมถึงมูลค่าธุรกิจในระยะกลางก็ดีขึ้น เพราะบริษัทมีโอกาสชนะประมูลโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) อย่างน้อยประมาณ 800 เมกะวัตต์

ปิดท้าย SPALI ทำนิวไฮในรอบกว่า 3 ปี ระหว่างวันมาแตะที่ 4.26 บาท โดย บล.เกียรตินาคินเลือก SPALI เป็นหุ้นที่แนะให้ลงทุนระยะกลางและยาว เนื่องจากแนวโน้มพื้นฐานดี มีโอกาสจ่ายปันผลระหว่างกาล เช่นเดียวกับ บล.พัฒนสินที่แนะให้ถือหรือรอซื้อเพิ่มเมื่อราคาอ่อนตัว เพื่อการลงทุนระยะยาว ขณะที่ บล.ยูไนเต็ด แนะให้ลงทุนหุ้นอสังหาฯที่จะได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง โดยเน้นบริษัทที่มีโครงการคอนโดมิเนียม เช่น SPALI, AP และ LPN.

อินเด็กซ์ 51


:lol: