May 17, 2024   9:51:57 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระดานหุ้น : ลดความร้อนแรง
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 12/07/2007 @ 08:56:20
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

*ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก น่าเป็นคำพังเพยที่เข้ากับสถานการณ์ของตลาดหุ้นมากสุด เพราะก่อนหน้านี้มีพวกปากหอยปากปูออกมาวิจารณ์ว่า เงินที่เข้ามาในตลาดหุ้นเป็นเงินของนักการเมืองเข้ามาปั่นราคาหุ้นหาเงินก่อนเลือกตั้ง ทั้งที่เรื่องดังกล่าวเป็นการคิดเอาเองฝ่ายเดียว

*ล่าสุด คณะบดีนิตศาสาตร์จุฬาฯ ก็ออกมาเรียกร้องให้มีการเรียกเก็บภาษีคนเล่นหุ้นเท่านั้นแหล่ะ "โมนิก้า" ควันออกหูในทันที เพราะไม่นึกว่าคณะบดีท่านดังกล่าวจะคิดอะไรบ้องตื้นเช่นนี้ได้ เดี๊ยนถึงสงสัยว่าการพูดเช่นนี้มีนัยอะไรแอบแฝงหรือเปล่า

*เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงตลาดเงินและตลาดทุนต่างรณรงค์และส่งเสริมให้คนทั่วไปเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น จู่ๆ จะมาเรียกเก็บเงินภาษีทั้งที่โครงสร้างตลาดตลาดหุ้นยังไม่แข็งแกร่งเหมือนกับต่างประเทศ เดี๊ยนถึงเริ่มรำคาญคนโง่เสียงดังพวกนี้เสียเหลือเกินเจ้าค่ะ

*น่าอนาถใจสุดๆ ก็คือ ไม่มีประเทศด้อยพัฒนาที่ไหนเขาเรียกเก็บภาษีจากคนเล่นหุ้น"โมนิก้า" ถึงสงสารนักศึกษาจุฬาฯ เป็นอย่างยิ่งที่ได้ อาจารย์กฎหมายบ้องตื้นมาเป็นคณะบดี...เผลอๆ เรียนไปเรียนมาก็คงเบาปัญญามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะได้อาจารย์สอนหนังสือที่ไม่เคยลืมตาดูโลกภายนอกพะยะค่ะ

*แย่ไปกว่านั้นก็คือ คนประเภทนี่แหล่ะ! ทำให้ประเทศเทศถอยหลังเข้าคลองมาเยอะแยะแล้ว หากปล่อยให้คนกลุ่มดังกล่าวมีอำนาจบาตรใหญ่ต่อตลาดหุ้น ในไม่ช้าตลาดหุ้นคงบรรลัยกันพอดี และความฝันที่จะได้เห็นมาร์เก็ตแคป 7 ล้านๆ อาจกลายเป็นฝันค้างตอนกลางวันแสกๆ อีกด้วย

*"โมนิก้า" หวังว่าประเทศไทยคงไม่ให้ความสำคัญกับคนประเภทนี้ หรือทางที่ดีอาจไล่ส่งให้ไปเป็นอาจารย์ที่ย่างกุ้งท่าจะดีไม่น้อย...ก่อนจะเข้าสู่บรรยากาศการลงทุน เดี๊ยนขอย้ำว่า เราอยู่ในโลกของทุนนิยม ไม่ได้อยู่หลังเขาเหมือนคนบางคน จึงจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับกระแสโลกที่แปรเปลี่ยนไป

*กลายเป็นคู่หูดูโอของวงการตลาดหุ้นแบบไม่ได้ตั้งใจไปเสียแล้ว เพราะเมื่อใดที่ SCBปรับตัวขึ้นแรง KBANK ก็จะปรับตัวขึ้นแรงด้วยเช่นกัน...เผอิญน้ำหนักตัว และส่วนชกของรายหลังได้เปรียบมากกว่า ราคาหุ้นถึงยืนเหนือรายแรกได้เป็นประจำ แต่ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาแบงตราใบโพธิ์ก็เคยยืนเหนือรายแรกได้บางครั้งนะจ๊ะ

*งานนี้จึงขึ้นอยู่กับว่า นักลงทุนชอบรายไหนมากกว่า หรือหากเกิดอาการรักพี่เสียดายน้องจะเล่นแซนด์วิสเลยก็ได้ เพราะของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับอารมณ์และความชอบส่วนบุคคลนะจะบอกให้

*น่าจับตาสุดคงเป็นหุ้น ADVANC เพราะกำลังอยู่ในช่วงประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล(เทมาเซคฯ หวังถอนทุนคืนจากเงินปันผล)จะออกมามากน้อยเพียงใด และที่ผ่านมากองทุนใหญ่ๆ ที่เข้ามาถือหุ้น ก็ได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลไปเป็นจำนวนมาก "โมนิก้า"ถึงอยากให้มิตรรักแฟน "ข่าวหุ้น" จับตาดูหุ้นตัวนี้ให้ดีๆ

*พูดถึงเรื่องหุ้นปันผลระหว่างกาล "โมนิก้า" รู้สึกคันปากขึ้นมาในทันที และขอพูดถึงหุ้นปันผลสักอีก 1-2 ตัว โดยรายแรกที่จะพูดถึงคงหนีไม่พ้น หนุ่มน้อย...ยยย อย่างเฮียณรงค์ ณ SEAFCO ที่ปั้นบริษัทจนกลายเป็นหุ้นดาวเด่นขนาดเล็กของตลาดหุ้นอย่างเต็มตัว แถมล่าสุดจิ้งจกแถวรามอินทราซอย 109 ก็ออกมาทักว่า ปันผลระหว่างกาลปีนี้ไม่ต่ำกว่า 0.12 บาทชัวส์ป๊าบแบบนี้...คุณๆ ต้องจับตาดูเป็นพิเศษนะค่ะ

*ยิ่งเดี๊ยนได้เห็นชื่อ กบข. เป็นกองทุนใหญ่ที่เข้ามาซื้อๆ ขายๆ ตามประสานกรู้และฟาดกำไรจากหุ้นตัวนี้ครั้งละ 5 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาทด้วยแล้ว ยิ่งมั่นใจว่าจะมีการไล่ราคากันอีกรอบจนขึ้นไปยืนตัวเลข 2 หลักได้ในไม่ช้า...หลังกองทุนดังกล่าวเก็บหุ้นในกระดานเพิ่มขึ้นเป็น 1.20 ล้านหุ้น จากเดือนก่อนมีแค่ 6 แสนหุ้นเจ้าค่ะ

*อีกรายที่น่าจับตาก็คือ SITHAI ราคาหุ้นพุ่งกระฉูดไม่มีหยุด พร้อมด้วยวอลุ่มที่หนาแน่นน่าเกิดจากข่าวบริษัทเตรียมปันผลด้วยหุ้นปันผล เพราะเงินทุนที่มีอยู่ต้องนำไปใช้ในการขยายกิจการพลาสติก ยิ่งพรายกระซิบออกมากำชับว่า ของถูกๆ แบบนี้หาไม่ได้อีกแล้ว คุณๆก็ลองใช้วิจารณญาณส่วนตัวตัดสินกันเอาเองนะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ BEC ราคาหุ้นพุ่งขึ้นทำ new high ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย พร้อมกับมีข่าวดีสารพัดชิ้นเข้ามาช่วยเสริม ไม่ว่าจะเรื่องการปรับค่าโฆษณา ข่าวผลประกอบการไตรมาส 2 ที่คาดจะออกมาดี ล่าสุดมีพรายกระซิบแถวพระราม 4 ลือให้แซ่ดว่า เงินปันผลระหว่างกาลปีนี้ไม่น่าต่ำกว่า 0.35 บาทนะตัวเอง

*ปิดท้ายกันที่ดีลเพิ่มทุนระหว่าง ธ.ทหารไทย กับ ดีบีเอสฯ ในที่สุดก็ล้มครื้นไม่เป็นท่าเสียแล้ว เมื่อฝั่งไทยไม่ยอมรับเงื่อนไขการปลดบอร์ดทั้งยวงของฝั่งสิงค์โปร ก็เลยทำให้บริษัทประกันยักษ์ใหญ่ของโลกเตรียมเสียบแทน "โมนิก้า" ถึงประหลาดใจเป็นอย่างยิ่งว่าเหตุไฉนฝรั่งถึงกล้าขนเงินมาทิ้งที่ธนาคารเน่าๆ แถมจารีตประเพณีของการเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่มักจะส่งคนของตนเองเข้ามาครึ่งหนึ่งเป็นประจำ

*เดี๊ยนถึงกล้าฟันธงว่า ดีลใหม่มีสิทธิ์ล้มค่อนข้างสูง หากฝั่งไทยไม่ยอมหลีกทางให้ฝรั่งตาน้ำขาวเข้ามานั่งบริหารงานนะจ๊ะ


:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 12/07/2007 @ 08:58:20 :
**ตลาดหุ้นพักฐานแล้วเมื่อวานนี้หลังทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปี ติดต่อกัน 3 วัน และเป็น 3 วันที่หอบเงินเข้ามาท่วมตลาดหุ้นรวมกันแล้วกว่าแสนล้านบาท

**ภาวะเงินทะลักตลาดหุ้นไทยอย่างนี้ ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการฉวยโอกาสออกหุ้นกู้ระดมเงินเข้ามาทำธุรกิจ หลังอัตคัตฝืดเคืองแห้งเหี่ยวหัวโตมานานใครขายก่อนมีสิทธิก่อน

**ที่ได้จังหวะพอเหมาะพอเจาะกว่าใครเพื่อนก็คงจะเป็น BECLเพราะเตรียมแผนตั้งแต่ต้นปีที่จะรีไฟแนนซ์หนี้ด้วยการออกขายหุ้นกู้ ได้ข้อสรุปปุ๊บ ตลาดก็เป็นใจปั๊บ เข็นขาย 5 พันล้านบาท กรีนชู 2.5 พันล้านบาท ไซส์มาตรฐานอย่างนี้ หายใจไม่เกิน 5 ครั้ง กองทุนก็จ้วงเอาหมดแล้ว

**ตอนนี้ประกาศดอกเบี้ยชุด 3 ปีแล้ว เหลือ 5 ปีและ 7 ปี ที่บริษัทรอจังหวะ กนง. ประกาศนโยบายดอกเบี้ยอีกครั้ง 18 ก.ค. ก่อนเคาะดอกเบี้ยรอบสุดท้าย

**ไล่เอ็กซ์เรย์ดู บจ. เตรียมเข็นหุ้นกู้แล้ว ล้วนเป็นกลุ่ม Propertyกว่าครึ่ง ไล่มาตั้งแต่ MBK AP PF LH SF หุ้นกลุ่มนี้ได้ปัจจัยหนุนหลายอย่าง ทั้งช่วงครึ่งปีหลังจะเห็นตลาดดอกเบี้ยลงได้ชัดเจนแล้ว แรงซื้อที่อยู่อาศัยก็กลับเข้ามา

**และนี่เป็นจังหวะฟ้าสีทองผ่องอำไพ ที่จะหาเงินไปซื้อแลนด์แบงก์ หาเงินมาลงทุน ไม่ทำตอนนี้จะทำตอนไหน**เริ่มมีน้ำเลี้ยงดีบ้างแล้วสำหรับหุ้น Defensive อย่าง BMCL เพราะตั้งแต่เข้าตลาดก็ไม่เคยหวือหวาให้คนถือหุ้นชุ่มฉ่ำหัวใจบ้างเลย

**ล่าสุดออกข่าวดีว่ายอดใช้รถไฟฟ้าใต้ดินเฉลี่ยในเดือน มิ.ย. พุ่งแตะ 2 แสนเที่ยวต่อวันซะที วานนี้หุ้นเลยขานรับข่าวซะหน่อย พุ่งสูงสุดไปที่ 1.13 บาท สูงสุดในรอบ 5 เดือน

**ส่วนข่าวนี้อาจจะทำให้หุ้นรับเหมาก่อสร้างบางตัวเหี่ยวเฉาเป็นข้าวไร้ฝน ก็โครงการบ้านเอื้ออาทรที่แว่วๆ มาแล้วว่าแบกภาระขาดทุนถึง 1,500 ล้านบาท

**การเคหะฯ ต้องปรับตัวโดยด่วน ด้วยการลดขนาดโครงการหรืออาจถึงขั้นร้ายแรงสุดคือยกเลิกโครงการ ตอนนี้อยู่ระหว่างสำรวจความคิดเห็นเพื่อนำมาสู่การตัดสินใจ จะลดจะเลิกโครงการตรงไหน

**ที่หนาวๆ ร้อนๆ แน่คงไม่พ้น PLENWR ITD SYNTEC ว่าโซนที่ตัวเองได้งานจะแจ็คพ็อตโดนลดหรือเลิก

**กระทรวงไอซีที นี่ก็ไม่ดูตาม้าตาเรือ หน้าใหญ่ใจโตจะไปบริจาคเงินให้กองทัพ 800 ล้านบาท วันก่อนเปิดไส้เปิดพุงให้ดู แทบผงะ 4 เดือนแรก กำไรหายไปกว่า 60% เหลือหยุมหยิมเท่าหนวดกุ้ง 1.2 พันล้านบาท**งานนี้พับแผนไปเต๊อะ ไว้เอาตัวเองรอดแล้วจะบริจาคกี่พันกี่หมื่นก็ไม่มีใครเค้าค้อนให้

**เซียนวงในบอกมาล่าสุดทีโอทีต้องบากหน้าไปขอกู้ยืมเงินจากแซดทีอี บริษัทโทรคมนาคมขนาดใหญ่ในจีน เพื่อมาให้ไทย-โมบาย ลงทุนวางระบบ 3 จี ที่คาดว่าจะมีการออกใบอนุญาตให้ภายในปีนี้ จนกรอบแค่ไหน ไม่ต้องบรรยายแล้ว

**หุ้น Loxley เตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดี ไม่เกินกลางเดือนนี้ครบกำหนดที่ AOT จะประเมินผลงานของล็อกซเล่ย์ ไอซีทีเอส คอนซอร์เตียม บริษัทในเครือที่รับผิดชอบงานรักษาความปลอดภัยในสุวรรณภูมิแล้ว

**เซียนส่งข่าวอีกเช่นกันว่า AOTเค้าเตรียมทีม รปภ. สำรองไว้แทนที่ล็อกซเล่ย์ ไอซีทีเอส คอนซอร์เตียมแล้ว ไม่เกินกลางเดือนนี้รู้ผล บอร์ด "พี่พรั่ง" จะเก็บล็อกซเล่ย์ไว้ใช้ประโยชน์อีกหรือไม่ รอลุ้นกัน..**


:lol: [/color:8f5600cfe8">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com