*ก่อนหน้านี้ "โมนิก้า" ถามตัวเองบ่อยครั้งว่า การทะยานขึ้นของดัชนีในรอบนี้เป็นการเด้งกลับอย่างถาวร หรือเป็นเพียงแค่การรีบาวนด์ และคำตอบที่ได้ คือ ขาขึ้นอย่างชัดเจน
เพราะตลาดหุ้นไทยไม่เปราะบางเหมือนก่อนหน้านี้แต่อย่างใด...แม้จะมีปัจจัยลบรอวันที่จะประทุขึ้นมาตลอดเวลา แต่แรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่หลังไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นยาชูกำลังชั้นยอดที่ทำให้ดัชนียังยืนหยัดเหนือระดับ 800 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง

*เดี๊ยนถึงต้องถามตัวนักลงทุนว่า พร้อมที่จะเผชิญความเสี่ยงแล้วหรือยัง หากพร้อม ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะหุ้นบลูชิพหลายตัวยังต่ำกว่าราคาเหมาะสมค่อนข้างมาก จึงพอมีแก๊ปไว้เล่นหากำไรได้อีกหลายวัน ส่วนนักลงทุนที่คิดว่าตัวเองไม่พร้อมสำหรับการลงทุนก็นั่งอยู่เฉยแล้วกัน

*เนื่องจากเวทีนี้เป็นพวกมองการณ์ไกล พวกใจปลาซิวกรุณาถอยไปไกลๆเพราะเดี๊ยนขี้เกียจมานั่งปลอบใจหลังตกขบวนรถด่วนเที่ยวสำคัญ เพราะทิศทางของตลาดหุ้นในปัจจุบันออกไปทางด้านบวกเสียส่วนใหญ่นะจะบอกให้

*ประกอบกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม ล้วนมีปัจจัยเสริมในด้านดีทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นภาวะตลาดหุ้นรอบบ้านเรา หรือแม้ตลาดหุ้นต่างประเทศ ก็อยู่ในทิศทางที่ดีด้วยกันทั้งนั้น "โมนิก้า" ถึงอยากให้คุณๆ อดใจรออีกนิด แล้วจะได้เห็นดัชนีไต่ระดับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 870 จุดอีกรอบพะยะค่ะ

*เนื่องจากองทุนต่างชาติยังให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มพลังงานอย่าง PTT และ PTTEP ค่อนข้างมากเหลือเกิน "โมนิก้า" ถึงเชื่อว่า การอ่อนตัวรอบนี้เป็นเพียงการทดสอบแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุนสถาบันในประเทศสะเด็ดน้ำหรือยังเท่านั้นเอง

*ประกอบกับเดี๊ยนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อำนวยการที่ดูแลการลงทุนย่านเอเชียถึงสถานการณ์ของหุ้นกลุ่มพลังงาน จนได้ข้อสรุปว่า หุ้นพลังงานของประเทศไทยีราคาถูกกว่าประเทศเพื่อนบ้านมาก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กองทุนต่างๆ ไล่ซื้อหุ้น 2 ตัวข้างต้นอุตลุด และมีความเป็นไปได้ที่ ปตท.จะขึ้นไปถึงระดับ 400-500 บาทนะจ๊ะ

*ส่วน EGCOเป็นหุ้นอีกตัวหนึ่งที่ดิฉันเชียร์สุดใจขาดดิ้น เพราะธรรมชาติของธุรกิจพลังงานมีแต่คำว่า กำไร ยิ่งราคาหุ้นอ่อนตัวลงมามากเท่าไหร่ โอกาสในเข้าซื้อของถูกก็มีมากเท่านั้น ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทิ้งหุ้นเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องเหมือนก่อนหน้านี้ ยิ่งหุ้นเพิ่งทะยานออกจาฐานสดๆ ร้อนๆ ท่ามกลางภาวะการลงทุนที่มีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆเดี๊ยนขอแนะนำให้ทยอยเข้าเก็บหุ้นนะคะ

*หลายคนอาจมองว่า SCC ออกอาการเสียรางวัดจากธุรกิจปิโตรเคมีไม่ทำกำไรตามเป้าที่ตั้งไว้ แต่อยางน้อย "โมนิก้า" ก็แน่ใจ 100% ว่าตัวบริษัทยังสามารถเดินหน้าทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ตัวเลขผลกำไรในอนาคตอาจไม่โดดเด่นเหมือนเช่นที่ผ่านมาก็เท่านั้นเอง

* ส่วนราคาหุ้นในกระดานอาจดูว่าถูกแสนถูก แต่เมื่อมาเจอภาวะการลงทุนในช่วงทดสอบแรงเทขายทำกำไร ต่อให้พื้นฐานของบริษัทแน่นเปรี๊ยะเพียงใด ก็คงไม่สามารถไต่ระดับสวนภาวะตลาดหุ้นขึ้นไปได้ จึงควรดักซื้อช่วงอ่อนตัวนะค่ะ

*ทางด้านหุ้นกลุ่มขนส่ง TTA และ PSL กลายเป็นคู่หูขาขึ้นแบบบูรณาการคู่ใหม่ของวงการอย่างเต็มตัว ราคาหุ้นทะยานทะลุแนวต้านสำคัญหมดทุกแนว จน "โมนิก้า" ดูไม่ออกว่าหุ้นจะหยุดขึ้นตรงระดับราคาใดกันแน่ แม้ใจจริงเดี๊ยนอยากจะเชียร์ให้ซื้อแบบสุดลิ่ม โดยไม่สนใจว่าราคาหุ้นจะขึ้นต่อไปถึงไหน แต่เกรงว่าจะพาคนไปติดดอย จึงต้องปรับเปลี่ยนคำแนะนำเป็นหาจังหวะเขายทำกำไรแทนนะซี

*TRUE อาจไม่มีอะไรโดดเด่นจนโดนใจกรรมการ แม้จะวางตำแหน่งเป็นบรอดแบนด์รายใหญ่ของประเทศ แต่พอเอาเข้าจริงระบบกลับล่มปากอ่าวซะเฉยๆ ยิ่งข่าวงในลือกันให้แซ่ดดดด... ว่า การปรับโฉมครั้งใหญ่ที่ผ่านมาไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น แถมต้องหมดเงินหมดทองทั้งที่ยังไม่ได้อะไรกลับมา ยิ่งน่ากังวลเป็นอย่างมาก... จริงหรือไม่คงต้องถามเจ้าสัวน้อยเองะ

*เพียงแต่โบรกเกอร์ฝรั่งรายหนึงดันให้ราคาเป้าหมายสูงถึง 13บาท เพราะเชื่อว่าในอนาคตธุรกิจบรอดแบนด์จะสร้างรายได้มหาศาลให้กับเจ้าสัวน้อยก็ว่ากันไป หลังเห็นตวอย่างจากต่างประเทศประความสำเร็จจากธุรกิจดังกล่าวกันถ้วนหน้า...มังกรน้อยจะไม่ประสบความสำเร็จได้อย่างไรกัน

*เช่นเดียวกับหุ้น DTAC นักลงทุนในประเทศอาจเทขายหุ้นทำกำไรกันอุตลุดไปแล้วหนึ่งรอบ แต่เชื่อหรือไม่ว่านักลงุนต่างชาติกลับอาศัยจังหวะที่นักลงทุนในประเทศเทขายหุ้นทิ้ง แอบทยอยสะสมหุ้นไว้ในพอร์ตหน้ตาเฉย หลังพิเคราะห์กันละเอียดยิบว่า อนาคตของบริษัทจะดีขึ้นเป็นลำดับ หลังเห็นฐานะทางการเงิน และหนี้สินลดลงอย่างฮวบฮาบนะจะบอกให้

* "โมนิก้า" ถึงอยากให้นักลงทุนใช้จังหวะที่ราคาหุ้นอ่อนตัว ทยอยเข้าซื้อหุ้นเก็บไว้ในพอร์ตให้ได้มากที่สุด เพราะราคาพื้นฐานขั้นต่ำของหุ้นตัวนี้อยู่ที่ระดับ 45 บาท แถมที่ปรึกษาทางการเงินต่างประเทศการันตรีว่า กองทุนต่างประเทศมีความต้องการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมยิ่งทำให้เดี๊ยนมันใจว่า ราคาถูกกว่านี้คงไม่ได้เห็นอย่างแน่นอน

* ก่อนจากกันขอฝากทิ้งท้ายว่า ยังมีเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติจ่อเข้ามาในประเทศอีกมาก จึงไม่ต้องกังวลว่า ดัชนีจะหมดแรงก่อนเวลาอันควร




:lol: