May 17, 2024   11:58:48 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระดานหุ้น : ลู่ทางสดใส
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 16/07/2007 @ 08:03:20
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

เมื่อวันศุกร์ "โมนิก้า" เห็นดัชนีปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่แน่นขนัด ดูจากมุมไหนด้านไหนดัชนีก็ยังสามารถไต่ระดับขึ้นไปทำ new high ได้อยู่วันยันค่ำ เพราะหุ้นบลูชิพชั้นนำของตลาดหุ้นไทยมีมูลค่าถูกกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคเดียวกันหลายเท่านะจะบอกให้

*เดี๊ยนถึงมั่นใจเต็มร้อยเปอร์ว่า ลู่ทางการลงทุนสัปดาห์นี้ยังคงสดใสซาบซ่า เพราะเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศยังไหลเข้ามาในตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ดัชนีเดินหน้าขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 862-870 จุดพะยะค่ะ

*นักลงทุนจึงควรหาซื้อหุ้นพื้นฐานดี มีอนาคตสดใสเก็บไว้ในพอร์ตมากสุดเท่าที่กำลังทรัพย์จะมี หลังเห็นกันแจ่มแจงแดงแจ๋ว่า ราคาหุ้นพร้อมจะทะยานขึ้นทุกเมื่อ นักลงทุนจึงไม่ควรทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมเมื่อเห็นดัชนีอ่อนตัวลงแรงในบางวันนะจ๊ะ

*ส่วนประเด็นที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กังวลว่า บริษัทจดทะเบียนขนาดกลางและขนาดเล็กจะได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนจนถึงขั้นปิดกิจการเหมือนกับโรงงานไทยศิลป์ "โมนิก้า" กล้าฟันธงว่าไม่ได้รับผลกระทบร้ายแรงถึงขนาดนั้น เพราะแต่ละบริษัทสามารถปรับตัวให้เข้าสภาวะตลาดในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

*"โมนิก้า" จึงขอเสนอหน้า และออกความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ควรชี้ช่องทางให้บริษัทที่มีหนี้ระยะยาวเป็นดอลลาร์มากๆ ออกหุ้นกู้เป็นเงินบาทเพื่อนำมารีไฟแนนซ์หนีดังกล่าว เพราะเป็นหนทางที่จะทำให้บริษัทจดทะเบียนปลดเปลื้องภาระหนีนอกได้มากเจ้าค่ะ

*ขณะเดียวกันก็เป็นการผลักดันดอลลาร์ออกไปนอกประเทศพร้อมๆ กัน ถือเป็นการยิงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว ที่ต้องรีบทำโดยด่วน...ถึงแม้แนวทางดังกล่าวจะช่วยให้ค่าเงินบาทหยุดแข็งค่าได้ไม่มาก แต่อย่างก็ทำให้อะไรหลายอย่างดีขึ้นบ้างแหล่ะ

*วันนี้เดี๊ยนกะจะไม่พูดถึง PTT และ PTTEP แต่เมื่อชำเลืองตามองราคาหุ้นในประดานที่วิ่งหูดับตับไหม้ พร้อมกับวอลุ่มเทรดที่แน่นเอี๊ยด ก็จำเป็นต้องรื้อฟื้นความจำของนักลงทุนรายย่อยกันเสียเล็กน้อย เพราะที่ผ่านมาปล่อยโอกาสทองให้หลุดมือมานักต่อนัก แถมเจอบางกลุ่ม ขายหมูแล้วหันไปซื้อหมาแทน ยิ่งเจ็บกระดองใจเป็นเท่าตัว...ถึงต้องการบอกคุณๆ ท่านๆ อย่าได้กลัวอะไรไม่เข้าท่าอีกต่อไป

*ทางด้าน ATC และ RRC บวกกระฉูดด้วยกันทั้งคู่ คงมาจากข่าวผลประกอบการและดีลควบรวมที่รู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองว่า ต้องออกมาในรูปตั้งบริษัทใหม่ ราคาหุ้นถึงโกยอ่าวกันฝุ่นตลบ จนนักลงทุนเกิดอาการรักพี่เสียดายน้อง "โมนิก้า" ขอแนะนำให้เล่นแซนด์วิสเลยเจ้าค่ะ

*เนื่องจากราคาปิดที่ 66.50 บาท บวกไป 1.50 บาท และปิดที่ 21.90 บาทบวกไป 1.40 บาท ถือว่ายังน้อยเกินไปเมื่อแมงเม้าท์ลือกันว่า หากตัวไหนมีมาร์เก็ตแคปใหญ่กว่าก็จะได้เป็นแกนบริหารงาน ส่งผลให้ invisible hand ดันราคากันอุตลุดนะจะบอกให้

*น่าเศร้าใจสุดคงมีเพียง MCOT อ่อนตัวลง 2 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 34.25 บาทสวนกระแสหุ้นตัวอื่นๆ ที่ทะยานขึ้นปิดเขียวอื้อกันถ้วนหน้า พร้อมกับมีข่าวเม้าท์ว่าผลประกอบการไตรมาส 2 อาจออกมาไม่ดี "โมนิก้า" ขอแนะนำให้คุณๆ โยกเงินไปเล่นหุ้นตัวอื่นเป็นการชั่วคราวจะคุ้มกว่านะค่ะ

*ด้าน N-PARK ปรับตัวขึ้นแรงมาช่วงปลายสัปดาห์ก่อน คงมาจากความสำเร็จในการหาคนมาซื้อหุ้น SIRI เพื่อนำเงินไปใช้หนี้ แบงก์นครหลวงไทย กับ กรุงไทย เพราะการขายรอบนี้ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยได้อีกโขเลยนะเนี้ยะ...น่าสนใจตรงที่เอ็นปาร์คดันเก็บหุ้นแสนสิริห้อยติงไว้อีกเล็กน้อยทำยาอะไรมิทราบ จนแมงลือเม้าท์กันว่าต้องการเก็บไว้สร้างสตอรี่ปั่นราคาหุ้นอีกรอบแล้วนะจ๊ะ

*อย่างที่ "โมนิก้า" เคยบอกไว้ว่า ถ้าหุ้น N-PARK ราคาต่ำเมื่อไหร่ ก็ให้เข้าไปรอซื้อได้ เพราะสินทรัพย์ ที่ยังมีมูลค่าอยู่นั้น ยังมีอีกบานเลย (ต่อให้ขายเพื่อใช้หนี้ก็ตาม)สตอรี่ดังกล่าว จะทำให้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นได้ตามภาวะจังหวะ ใครที่จับรอบของหุ้นตัวนี้ได้ น่าจะได้กำไรบานตะโก ราคาหุ้นปิดที่ 0.29 บาท บวกไป 0.07 บาท ส่วนรายหลังปิดที่ 3.74บาท บวกไป 0.16 บาท นั้น คงเป็นการบวกรับข่าวภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น หลังเดินแยกทางกับN-PARK เป็นที่แน่นอน

*ด้านหุ้น ASL ที่ปรับตัวขึ้นมารอบนี้น่าจะเป็นเรื่องของการขานรับผลประกอบการที่จะออกมาช่วงไตรมาส 2 ที่มีการเก็งกำไรว่ามีแนวโน้มที่จะมีกำไรสูงกว่าช่วงไตรมาสแรกอย่างไม่ยากที่จะเดาเลย ของแบบนี้เห็นอยู่แล้ว ไม่ต้องให้ใคร หรือเซียนที่ไหนมาวิเคราะห์ให้เมื่อยเลย เพราะในเมื่อของมันดีอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องห่วงหรอกคะ ราคาหุ้นปิดที่ 1.11 บาทบวกไป 0.12 บาท

*สำหรับหุ้นเล็กที่ "โมนิก้า" เคยแนะไปแล้วอย่าง UEC ก็คงทำให้มิตรรักแฟน "ข่าวหุ้น" รวยอื้อซ่าไปตามๆ กัน ยิ่งช่วงนี้โหนกระแสหุ้นขึ้นทั้งตลาดเป็นสตอรี่สำคัญ ยิ่งทำให้การดันราคารอบนี้ง่ายขึ้นเป็นกอง เพราะไม่ต้องกังวลว่าใครจะมากล่าวหาว่าปั่นหุ้นเนื่องจากเจ้าของเค้าทำราคาเป็น หุ้นถึงวิ่งมาปิดที่ 23.90 บาท บวกไป 0.90 บาทอย่างง่ายดาย

*ตบท้ายกันที่วันศุกร์ดัชนีทำ new high ในรอบ 10 ปี ที่ระดับ 859.14 จุด ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี เพราะทำให้ดัชนีมีโอกาสไต่ระดับขึ้นต่อค่อนข้างสูง


:lol:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com