*แม้วานนี้ดัชนีจะไม่สามารถไต่ระดับขึ้นไปยืนเหนือ 860 จุดเหมือนกับที่ "โมนิก้า"วาดฝันไว้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่า ยังมีนักลงทุนบางกลุ่มต้องการเข้าซื้อหุ้นช่วงอ่อนตัวเก็บไว้ในพอร์ตด้วยเช่นกัน ส่งผลให้การอ่อนตัวครั้งนี้เป็นเพียงการปรับฐานธรรมดาๆ หลังจากดัชนีปรับตัวขึ้นแรงเท่านั้นเองเจ้าค่ะ

*เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติยังเดินหน้าสะสมหุ้นเพิ่มเติมไว้ในพอร์ต เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นในไม่ช้า เพราะแรงขับเคลื่อนหลักที่ทำให้ดัชนีวิ่งขึ้นมาได้ไกลขนาดนี้ เกิดจากนักลงทุนต่างชาติล้วนๆ...เดี๊ยนถึงเชื่อว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นต่อค่อนข้างสูง

*พูดถึงเรื่องดัชนีมากพอแล้ว "โมนิก้า" ขอวกกลับไปพูดถึงเรื่องมาตรการสกัดการแข็งค่าเงินบาทที่เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากกูรูส่วนใหญ่เริ่มยอมรับแนวทางการให้ประชาชนทั่วไปนำเงินไปฝากแบงก์เป็นสกุลต่างๆ มากขึ้น และในไม่ช้าจะทำให้ค่าเงินบาทหยุดแข็งค่า ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ นะค่ะ

*ไฮไลท์บรรยากาศการลงทุนช่วงนี้ ถึงพุ่งเป้าไปยังเรื่องมาตรการสกัดการแข็งค่าเงินบาทมากกว่าเรื่องอื่นๆ และหากมาตรการดังกล่าวสัมฤทธิ์ผลดั่งที่ผู้หลักผู้ใหญ่ต้องการ"โมนิก้า" เชื่อว่าสภาพเศรษฐกิจของประเทศจะดีขึ้นเป็นกองเลยทีเดียวนะค่ะ

*ก่อนจะไปไกลถึงขนาดนั้น "โมนิก้า" ขอวกกลับมาพูดถึงหุ้นบลูชิพตัวหลักของตลาดหุ้นที่โดนเทขายทิ้งอย่างหนักตลอดทั้งวัน ยิ่งกว่างานกระจาดศาลเจ้าแม่ประจำปี เพื่อเรียกน้ำย่อยก่อนจะเจาะเป็นรายตัวว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างจะดีกว่า

*โดยเฉพาะในรายของ MCOT ราคาหุ้นรูดลงกว่า 6% หรือลบไปถึง 2.25 บาทก่อนจะมาปิดที่ระดับ 32 บาท มองจากมุมไหนด้านไหน การอ่อนตัวครั้งนี้ต้องเกี่ยวข้องกับผลประกอบการไตรมาส 2 และเรื่อง พรบ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์อย่างแน่นอน

*มิเช่นนั้นวิกพระราม 4 อย่าง BEC จะร่วงลงถึง 0.90 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 24.60 บาทได้อย่างไรกัน เพราะชาวบ้านร้านช่องต่างรู้ดีว่าตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 2จะออกมาดี แถมช่วงนี้เป็นเวลาทองของหุ้นบันเทิงเริงรำซึ่งวิ่งรับการปรับค่าโฆษณาเนื้อๆด้วยแล้ว...ลำพังแค่บรรยากาศการลงทุนไม่น่าจะทำให้ราคาหุ้นในกระดานร่วงละเนระนาดขนาดนี้หรอกค่ะ

*ส่วนหุ้นกลุ่มแบงก์ร่วงหล่นกันถ้วนหน้า "โมนิก้า" คิดว่าเกิดจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมามากเกินไป และราคาหุ้นหลายตัวถึงราคาเป้าหมายที่กำหนดไว้ นักลงทุนกลุ่มสถาบันถึงกระหน่ำเทขายหุ้นทำกำไรกันอย่างเอาเป็นเอาตายไงหล่ะ

*โดยเฉพาะในรายของ KBANK ราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 83.50 บาท ลบไป1.50 บาท พร้อมด้วยแรงเทขายที่แน่นขนัด "โมนิก้า" มองจากมุมไหนก็เป็นการอ่อนตัวธรรมดาๆ เดี๊ยนถึงไม่เคยแนะนำให้นักลงทุนต้องเทขายหุ้นทิ้งตามกระแส เพราะเป็นการเสียค่าโง่ชัดๆ

*เช่นเดียวกับในรายของ KTB SCB และ BBL "โมนิก้า" ไม่เคยรู้สึกหวาดกลัวที่เห็นราคาหุ้นอ่อนตัวลงแม้แต่น้อย เพราะรู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองว่า ไม่มีอะไรในก่อไผ่ ยกเว้นหน่อไม้ เนื่องจากฐานเงินทุนและเงินก้นถุงของธนาคารเหล่านี้แน่นเปรี๊ยะ จนไม่อาจตัดใจให้นักลงทุนขายหุ้นทิ้งได้นะซี

*ทางด้านหุ้นหลักทรัพย์ยอดนิยมอย่าง GBX และ ASL อ่อนตัวคนละเล็กละน้อยถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา สำหรับหุ้นที่ขึ้นจากความเชื่อเดิมๆ ว่า คราใดที่ตลาดหุ้นคึกคักครานั้นหุ้นหลักทรัพย์จะดีตามไปด้วย "โมนิก้า" จึงไม่ขอคอมเม้นว่าควรจะถือหรือขายเพราะเดี๊ยนไม่เคยแนะนำหุ้นทั้งสองตัวนะซี

*ขืนดิฉันแนะนำหุ้นทั้งสองตัว เดี๋ยวแฟนพันธ์แท้หุ้นเก็งกำไรสั้นๆ จะด่าตามหลังได้เลยไม่อยากขัดคอใครทั้งสิ้น เพราะช่วงนี้พวกเสือปืนไวจับต้องอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมดเสียทุกอย่าง

*เห็นได้จาก MME ของเสี่ยกมล เอี้ยวศิวิกุล พื้นเพตัวบริษัทไม่มีอะไรโดนใจนักลงทุนสถาบันแม้แต่น้อย แต่ราคาหุ้นก็ยังปรับตัวขึ้นได้ทุกวี่ทุกวัน แถมบางวันก็แอบปรับตัวขึ้นแรงเอาดื้อๆ "โมนิก้า" ถึงไม่อยากเอาตัวเข้าไปขวางทางปืน เพราะหุ้นกำลังวิ่งขึ้นแรง ขืนเอาตัวเข้าไปขวางก็มีแต่เจ็บกระดองใจ เนื่องจากไม่มีใครเชื่อคำกล่าวตักเตือนนะซี

*ผิดกับหุ้นปิโตรเคมีอย่าง ATC "โมนิก้า" ไม่เคยกลับลำให้นักลงทุนเทขายหุ้นทิ้งแม้แต่ครั้งเดียว เพราะรู้กัว่าในไม่ช้าดีลนี้จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ(ต้องรอให้ปตท. ตัดสินเรียบร้อยก่อน) การที่ราคาหุ้นแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ จึงเป็นเพียงการแกว่งตัวรอการแถลงข่าวนะจ๊ะ

*ฉะนั้นราคาปิดแถว 68 บาท บวกไป 1.50 บาท ถึงไม่แพงเกินไปเมื่อเทียบกับอนาคตอันสดใส ยิ่งได้นักวิเคราะห์สัญชาติอเมริกันคอนเฟิร์มระดับราคาแถว 70 บาทเป็นราคาพื้นฐานที่ใช้ในการควบรวม มันหมายความว่า ยังพอมีแก๊ปให้นักลงทุนหากำไรจากหุ้นตัวนี้นะจ๊ะ

*เหมือนกับในรายของ RRC ทะยานขึ้นทำ new high อย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นการดันราคารับข่าวควบรวม และข่าวผลประกอบการ "โมนิก้า"ถึงไม่ต้องแสดงความคิดเห็นอะไรมากมาย เพราะชี้โพรงให้มากขนาดนี้แล้ว กระรอกยังไม่เข้าโพรงอีกก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้วนะค่ะ


:lol: