Toon
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973 |  วันที่: 19/07/2007 @ 09:07:20 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ผลจากความดื้อดึงของแบงก์ชาติ ทำให้ตลาดเสียอารมณ์ไม่น้อยทีเดียว เห็นได้จากช่วงบ่าย กนง.ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงแค่ 0.25% แรงเทขายจึงเกิดขึ้นทันทีหลังจากอารมณ์การลงทุนช่วงเช้า"เกิดการเกร็งตัว"อยู่พอสมควร
:PSAPกำลังถูกเทคโอเวอร์.?
หุ้น PSAP ชักดูร้อนแรงเกินไปหน่อย เพราะดูจากปัจจัยพื้นฐานแล้ว ไม่น่าทำให้หุ้นวิ่งถึงขนาดนี้เห็นชัดจากไตรมาสแรกขาดทุนกว่า 127 ล้านบาท แม้ว่าผู้บริหารออกมาตอกย้ำว่ามีการบริหารจัดการต้นทุนแล้วก็ตาม
ปัญหาหลักของ PSAP อยู่ที่เรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ ทำให้รายได้หดลงอย่างมีนัยสำคัญนอกจากนี้ลิขสิทธิ์ภาพยนตร์เกรดเอ แทบไม่มีอยู่ในมือเลย และที่เป็นอยู่ตอนนี้เป็นเพียงหนังเกรดบี-ซี ที่แม้ต้นทุนต่ำแต่รายได้ก็พลอยตกต่ำไปด้วย
ยิ่งกว่านั้นการปรับตัวของ PSAP มีเพียงแค่การเปลี่ยนชื่อบริษัทเพื่อแก้เคล็ดเท่านั้นแต่ยังแทบไม่เห็นการปรับโครงสร้างธุรกิจที่มีนัยสำคัญเลย
อย่างไรก็ดีผลประกอบการปีนี้จะขึ้นอยู่กับการกระตุ้นยอดขายว่าจะทำสำเร็จหรือไม่หากยอดขายใกล้เคียงปีก่อน น่าจะทำให้ผลขาดทุนลดลง แต่หากมองถึงกำไรคงเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้
...น่าสนใจว่า PSAP กำลังจะถูกเทคโอเวอร์อีกรายหรือไม่...
:EMCราคาเป้าหมาย3.58บาท
หุ้น EMC ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้งหลังจากเงียบหายไปนานแต่คราวนี้มาพร้อมกับสตอรี่ใหม่ เดือนหน้านี้จะเซ็นรับงานใหม่มูลค่า 1,000 ล้านบาท และสัญญาณเทคนิคที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว
มีหลายคนประเมินว่าปีนี้ EMC รายได้มีแนวโน้มขยายตัว 40-50%จากปีก่อนเคยทำได้ 2,260 ล้านบาท เรื่องดังกล่าวส่งผลดีต่อปัจจัยพื้นฐาน EMC ในอนาคต แต่ปัจจุบันยังไม่มีนัยสำคัญมากนัก เพราะต้องใช้เวลานานกว่าจะรับรู้รายได้
ส่วนสัญญาณทางเทคนิคราคาหุ้น EMC มีโอกาสเคลื่อนไหวลักษณะแกว่งตัว หลังจากขึ้นเยอะ อาจมีการขายออกมาบ้างแล้วลักษณะการเล่นรอบ ภายใต้กรอบแนวรับไว้ 3.34บาท หากหลุดแนวรับดังกล่าวมีแนวรับถัดไปที่ 3.20 บาท
....สำหรับราคาเป้าหมายหุ้น EMC อยู่ที่ระดับ 3.58 บาท.....
:KHรอดักซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
หุ้น KH เป็นหุ้นโรงพยาบาลอีกตัว ที่นักลงทุนให้ความสนใจ นอกเหนือจากหุ้น BGHแม้แนวโน้มกำไรสุทธิ Q2 ปรับลดลง แต่หลายฝ่ายปรับมุมมองสู่เชิงบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มผลประกอบการระยะยาว เนื่องจากโรงพยาบาลใหม่ที่จับลูกค้ากลุ่มเงินสด 100% จะช่วยให้อัตราการทำกำไรจากสัดส่วนลูกค้าเงินสดเพิ่มขึ้น
ขณะที่การเติบโตของกำไรสุทธิช่วงปี 2553-2555 ประมาณ 15%ดีขึ้นต่อเนื่องจากอัตราการเติบโตปี 2550-2552 เฉลี่ย 12% ทำให้มูลค่าเหมาะสมปี 2551 อยู่ที่ 10.30บาท
นอกจากนี้แนวโน้มครึ่งปีหลังจะดีขึ้น เนื่องจากผลบวกด้านฤดูกาลที่ถือว่าเป็นไฮซีซั่นนั่นหมายถึงผลประกอบการจะเติบโตขึ้น ประกอบกับ รพ.เกษมราษฏร์ รัตนาธิเบศร์ และรพ.เกษมราษฏร์ บางแค เริ่มได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บริการ หลังปรับปรุงพื้นที่ให้บริการใหม่
ส่วนอนาคต KH มีแผนต่อยอดธุรกิจ ด้วยการลงทุนสร้างโรงพยาบาลใหม่ ซึ่งส่งผลบวกต่อ KH ตั้งแต่ปี 2553 และช่วยเพิ่มมูลค่าให้หุ้น KH ประมาณ 1.20 บาท
...จากปัจจัยดังกล่าว KH จึงเหมาะสมที่จะซื้อลงทุน...
:PROเหมาะสมเล่นเก็งกำไร
หุ้น PRO ถูกจับขึ้นมาปั่นเป็นพักๆ ครั้งก่อนเคยหวือมาแล้วจากข่าวลือเรื่อง"กลุ่มสามารถ"จะเข้ามาเทคโอเวอร์กิจการ เพื่อต่อยอดธุรกิจกำจัดขยะแต่มาคราวนี้ยังไม่พบประเด็นใหม่ นอกเหนือจากข่าวปัญหาความขัดแย้งกับชุมชนเป็นที่คลี่คลาย..
ดังนั้นพฤติกรรมการเล่นหุ้น PRO น่าจะเป็นการเก็งกำไรหุ้นตัวเล็ก ภายใต้บรรยากาศหุ้นบิ๊กแคปเริ่มเต็มมูลค่า และกำลังปรับฐานใหม่ทำให้สีสัน PRO ที่ราคาไม่ค่อยลื่นไหลจึงเป็นที่หมายปองของนักเก็งกำไร
ที่สำคัญสัญญาณทางเทคนิคหุ้น PRO ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเกิดสัญญาณซื้อ(Buy Signal)หากสามารถทะลุแนวต้าน 1.41 บาทได้ ก็มีแนวโน้มทดสอบแนวต้านใหม่ 1.45 บาท
....ดังนั้นหุ้น PRO จึงเหมาะสมกับการเก็งกำไรอย่างยิ่ง....
ข่าวหุ้น[/size:b897d35501">
|
