KBANK-BBL-SCB กำไร 4-5พันล. TMB ขาดทุนอื้อ-เพิ่มทุนสรุป ก.ย.

แบงก์ใหญ่โชว์ผลงานไตรมาส 2 กำไรตามคาด KBANK โกย 4 พันล. ส่วน BBL มีกำไรกว่า 5 พันล. และ SCB Wไม่น้อยหน้ากำไร 4 พันล. ขณะที่ TMB แบกขาดทุนกว่า 6.1 พันล. ด้าน ?ฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์? ยันแผนเพิ่มทุน TMB ไม่เกินก.ย.นี้ได้ข้อสรุป

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานก่อนสอบทาน ไตรมาสที่ 2 มีกำไรสุทธิ 4,088 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.71 บาท มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.32 และมีกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.77 ส่วนงวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 7,964 ล้านบาทกำไรต่อหุ้น 3.34 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.23 และมีกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.96

ด้านธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปี 2550 มีกำไรสุทธิจำนวน 5,324 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,033 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.1 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สวนกำไรก่อนหักสำรองและภาษีมีจำนวน 9,364 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.6 ล้านบาท
คุณกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) SCB เปิดเผยว่า ผลประกอบการเบื้องต้น (งบการเงินรวม) ไตรมาสที่ 2/2550 มีกำไรสุทธิ 4,311 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 เป็นจำนวน 611 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.5% สำหรับงวด 6 เดือนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 8,010 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ 4.6% หรือ 384 ล้านบาท เป็นผลมาจากการที่ธนาคารจ่ายภาษีเงินได้ที่มากขึ้น และการตั้งสำรองเพิ่มเพื่อรองรับสภาวะทางธุรกิจที่ยังไม่มีความแน่นอน
นายสมใจนึก เองตระกูล ประธานกรรมการ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยว่า งวดครึ่งปีแรก 2550 ธนาคารมีรายได้รวม 22,500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.50 แต่ผลประกอบการไตรมาส 2 ปีนี้ สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2550 ธนาคารขาดทุนสุทธิ 6,129.40 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.37 บาท พลิกจากที่เคยกำไรในไตรมาส 2 ปี 2549 ที่มีกำไรสุทธิ 1,196.65 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.09 บาท.

นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเพิ่มทุนของธนาคารทหารไทย ในฐานะที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนร้อยละ 31 ว่าทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนการเจรจา ไม่สามารถเปิดเผยอะไรได้ โดยทางการยังพร้อมที่จะเปิดรับฟังข้อเสนอจากผู้ที่สนใจเข้าร่วมทุนกับธนาคารทหารไทย นอกเหนือจาก มอร์แกน สแตนเลย์ หรือ ไอเอ็นจี กรุ๊ป และ ดีบีเอส สิงคโปร์ และขอยืนยันว่ากระทรวงการคลังยังใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นไว้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 เพื่อคงสิทธิออกเสียง

ทั้งนี้การเพิ่มทุนดังกล่าวคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ได้เงินเข้ามาเสริมฐานะของธนาคารได้ภายในสิ้นปีนี้ และยืนยันว่ากระทรวงการคลังต้องตัดสินใจเพิ่มทุนให้แน่นอน ส่วนเงื่อนไขของทางดีบีเอส สิงคโปร์ ที่ขอมีสิทธิในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้บริหารของธนาคารทหารไทยนั้น เป็นรายละเอียดของการเจรจา ที่ต้องพยายามหาจุดลงตัวให้ได้มากที่สุด โดยปัจจุบันกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ในธนาคารทหารไทยประมาณร้อยละ 31 ขณะที่ดีบีเอส สิงคโปร์ ถือหุ้นประมาณร้อยละ 16 เท่านั้น

Source - กระแสหุ้น