May 2, 2024   7:43:32 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจากระดานหุ้น : Fund Flow ชะลอ
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 20/07/2007 @ 09:11:39
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

*ความหวาดวิกตกเกี่ยวกับสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นตัวบั่นทอนความมั่นใจของนักลงทุนก็จริง และเป็นฉนวนเหตุสำคัญที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันในประเทศชลอลงทุน แต่ก็เป็นเรื่องที่มีการรับรู้กันมานานพอสมควร "โมนิก้า" จึงไม่แปลกใจที่เห็นดัชนีแกว่งตัวไปมาทั้งในแดนบวกและแดนลบตลอดทั้งสัปดาห์

*ยิ่งหลายๆฝ่ายกังวลว่า Fund Flow ต่างประเทศจะชลอเข้ามาลงทุนนตลาดหุ้นกับเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ดัชนีมีแนวโน้มซึลงต่อค่อนข้างสูง เพราะสูตรสำเร็จของนักลงทุนต่างประเทศเน้นเทขายหุ้นที่ราคาสูงๆ เป็นประจำ และช่วงที่ผ่านมาก็ปรากฎว่านักลงทุนต่างประเทศเริ่มหันมาเทขายหุ้นแล้วนะค่ะ

*ยิ่งผู้หลักผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องจะออกมาสำทับว่า ตลาดหุ้นไทยขึ้นมาเท่ากับต่างประเทศแล้ว ก็น่าจะถึงเวลาเทขายหุ้นทำกำไรแล้วหล่ะ วอลุ่มการซื้อขายช่วงหลังๆ ถึงเริ่มเบาบางอีกครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงมีอาการกลัวขึ้นสมอง ดัชนีจึงมีโอกาสลงมากกว่าขึ้น

*แม้ปัจจัยลบที่แพร่กระจายทั่วตลาดหุ้นหลายวันมานี้ จะเป็นข่าวเก่าๆ ที่มีการรับรู้กันมาบ้างแล้ว แต่ตลาดหุ้นก็ซึมซับรับข่าวร้ายดังกล่าวไปหมดแล้วในเชิงคุณภาพ ดังนั้น ไม่น่าจะมีเรื่องร้ายแรงอะไรที่ทำให้ดัชนีรูดลงไปกองที่ 800 จุดนะจ๊ะ

*หากมองในเชิงทฤษฎี "โมนิก้า" คงต้องมองย้อนหลังเทียบกลับไปว่า ทุกอย่างเข้าสูตรหมด ว่าเวลาแห่งการพลิกกลับของดัชนีตลาดหุ้นได้เกิดขึ้นแล้ว ไม่ใช่แค่ "แสงสว่างปลายอุโมงค์"เท่านั้น หาก เป็น"รุ่งอรุณครั้งใหม่หลังราตรีอันมืดมิด"...ฟังแล้วโรแมนติกดีมั้ยคะ

*มีช่องโหว่มาอีกแล้วสำหรับระบบการสั่งซื้อขายราคาเปิดปิดATO-ATC ที่ตลท.นำมาใช้ช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีเสียงแว่วๆ มาจากฝั่งโบรกเกอร์ว่าระบบนี้มีช่องว่างที่ทำให้นักลงทุนรายใหญ่เข้ามาสร้างราคาหุ้นในลักษณะที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ล่าสุดมีทั้งหุ้นและวอร์แรนต์ที่โดนเข้าไปหลายตัว อาทิ หุ้นSHIN ,GBX-W1, TSTH-W1 แค่ 3 ตัวนี้ก็ทำให้นักลงทุนเสียหายไปหลายล้านบาทแล้วนะเจ้าคะ

*สำหรับวิธีการที่ทำนั้นคือการจับคู่คำสั่งซื้อขายในลักษณะของการสุ่มเลือกเอาราคาที่ดีที่สุดมาเจอกัน เพียงแต่ระบบนี้จะให้ความสำคัญกับจำนวนหุ้นที่ส่งเข้ามาก่อน ถ้าเป็นจำนวนที่มากระบบก็จะจับคู่ในราคานั้นก่อน ซึ่งหลายครั้งพบว่าผู้ลงทุนที่ต้องการหวังผลให้ราคาหุ้นเปิดหรือปิดกระโดดจากราคาล่าสุด หรือหวังผลให้ราคาหุ้นเปิดหรือปิดต่ำจากราคาล่าสุด ก็มักนิยมใช้ระบบATO และATC มาช่วย

*อันนี้ไม่รู้ว่าเจ๊หนุ่ย ภัทรียา จะเห็นด้วยประการใดคะเนี้ยะ ถ้าระบบดังกล่าวไม่มีช่องโหว่จริงๆ ก็น่าจะออกมาชี้แจงเลยนะคะ ว่าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะถ้าไม่อย่างนั้น อาจจะทำให้รายใหญ่รายอื่นหัวใส นำวิธีการดังกล่าวไปใช้เพื่อดันหรือทุบหุ้นได้นะคะ

*ไหนๆ ก็พูดถึงหุ้นที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นหุ้นที่มีการกระทำที่ไม่สมควร(กลายเป็นจำเลย)ไปแล้วอย่าง SHIN ,GBX-W1, TSTH-W1 ก็ขอพูดต่อเลยละกัน เพราะราคาของคุณเธอก็เฉิดฉายให้เห็นแบบเต็มๆตา โดยเฉพาะถ้าดูที่กระดาน Most Gainer จะเห็นการเรียงลำดับไล่จากตัวหลังไปจนตัวแรกเลย ซึ่งถือว่าเป็นที่น่าสังเกตเหมือนกันนะคะ

*ไล่จาก TSTH-W1 ที่มีราคาเปิดที่ 0.47 บาท กระโดดจากเมื่อวันก่อน(18ก.ค.)ที่ระดับ 0.30 บาท โดยมีราคาสูงสุดที่ 0.48 บาท ปิดที่ 0.46 บวกไป 0.16 บาทเพิ่มขึ้น 53.33 % ซึ่งเห็นได้ชัดว่าทำไมถึงได้มีการเปิดลอยซะอย่างนั้น ด้าน GBX-W1 ก็เช่นเดียวกันคะ ราคาเปิดที่0.79 บาท เท่ากับวันก่อน(18ก.ค.) โดยมีราคาเปิดที่ 1.25บาท สูงสุดที่ 1.26 บาท และปิด1.20 บาท บวกไป 0.41 บาท หรือเพิ่มขึ้น 51.90 %ส่วนอีกตัวคือหุ้นSHIN ก็มาก๊วนเดียวกันคะราคาเปิดที่ 31.75 บาท กระโดดจากเมื่อวันก่อน(18ก.ค.)ที่ระดับ 29 บาท สูงสุดที่ 33 บาท ปิดที่ 33 บาท บวกไป 4 บาท หรือเพิ่มขึ้น 13.79 %

*หุ้นสามเกลอที่ขึ้นมาแบบมีนัยยะแบบนี้ ไม่รู้ว่าตลาดหลักทรัพย์ฯจะจัดการอย่างไรหรือว่าเป็นเพราะระบบมันไม่รัดกุมพอเลยทำให้มีช่องว่างแบบนี้ ใครที่ชอบของร้อนก็ให้ระมัดระวังนะคะ เราไม่รู้ว่าเจ้ามือเค้ากำลังทำอะไรอยู่ การเข้าไปลุยสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้ ต้องถ้าให้ดีก่อนนะคะ อย่าเพิ่งทะเล่อทะล่าเข้าไปเดี๋ยวจะหาว่าเดี๊ยนไม่เตือนคะ โอกาสที่ตลาดฯจะเข้ามายุ่งมีความเป็นไปได้สูงคะ

*ด้านหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ปิดแดงกันถ้วนหน้าแบบนี้ ไม่รู้ว่าเป็นขายทิ้งเมื่อผลประกอบการออกหรือเปล่าคะ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงเลยคะ เพราะผลประกอบการใกล้ออกหรือเปล่าถ้าใครถืออยู่และมีกำไรก็ให้เทขายไปก่อนก็ได้นะคะ แล้วค่อยช้อนใหม่คะ โดยเฉพาะTMBให้รีบเทขายก่อนคนแรกเลยคะ เพราะขาดทุน 6.13 พันล้านบาท บานตะไทแบบนี้ตัวใครตัวเผือกละคะ

*ส่วนหุ้นแบงก์อย่าง BBL KBANK SCB ที่มีโหวงเฮ้งดีกว่า เพราะกำไรไตรมาส 2โตกว่าไตรมาสแรกทั้งหมดเลย ซึ่งโอกาสที่จะลงก็มีคะ แต่อาจไม่มากเท่ากับTMB ซึ่งสรุปแล้วก็ลงทั้งคู่ละคะ ลงมากลงน้อย ขึ้นอยู่กับกำไรคะ

*อย่างไรก็ดี ช่วงนี้ใครที่ถือหุ้นอะไรก็ให้ติดตามดูผลประกอบการให้ดีนะคะ เพราะถ้าเผลอลืมดูอาจจะทำให้แย่ได้นะคะ ส่วนหุ้นทีเด็ดที่ "โมนิก้า"ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังอย่างUMS-UEC งานนี้ต้องบอกเลยว่าของเค้าดีจริงๆ ราคาหุ้นวิ่งไม่หยุด ซึ่งตัวแรกมีข่าวดีว่าวอร์แรนต์กำลังใกล้คลอด ส่วนตัวหลังอันนี้คงมีข่าวแตกพาร์คะ เห็นแล้วอิจฉาใช่ไหมคะที่ราคาวิ่งแบบนี้ งานนี้ต้องยกนิ้วให้เสี่ยไพบูลย์คะ เยี่ยมจริงๆคะ

*ถึงดัชนีจะอ่อนตัวลงไปบ้าง แต่เมื่อดูรวมๆ ต้องยอมรับว่า เป็นเรื่องปกติธรรมดาเพราะดัชนีใช้เวลาแค่ 6 สัปดาห์ปรับตัวขึ้นมากถึง 30% ก็เลยทำให้เงินทุนจากต่างประเทศเริ่มชลอลงทุนในตลาดหุ้นไทยนะซี


:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 20/07/2007 @ 09:14:47 :
ความไม่ชัดเจนกับแนวทางแก้ปัญหาบาทแข็งยังเป็นตัวกดดันดัชนีหุ้นไทยไม่เลิก แต่วันนี้หุ้นกลุ่มแบงก์น่าจะปลุกตลาดหุ้นได้พอสมควร

*หลังตัวเลขกำไรแบงก์ใหญ่ Q2 ออกมาดีไม่น้อย ยกเว้นแต่ TMB ที่ยังเน่าสนิทขาดทุนกว่า 6,000 ล้านบาท ทำให้ราคาหุ้นเพิ่มทุนคงถูกลงอีกไม่น้อยทีเดียว แต่ปัญหาTMB มันไม่ใช่แค่เรื่องเพิ่มทุน แต่มาถึงตอนนี้ไม่รู้ว่าใครกุมบังเหียนกันแน่ระหว่าง"สมใจนึก-สมหมายหรือว่าสนธิ"เพราะพูดกันไปคนละทางเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้เลย ถ้าทางแผนเพิ่มทุนคงไม่จบช่วงไตรมาส 3 นี้แน่

*ช่วงนี้คนทำประกันชักเริ่มร้อนๆ หนาวๆ ไม่รู้ว่าบริษัทประกันของตนเองจะล้มครืนเมื่อไหร่ หลังการปิดตัวของ"ธนสินประกันภัย"ตามด้วย"สัมพันธ์ประกันภัย"จนปิดฉากแคมเปญ"ให้รถขับระหว่างซ่อม"และล่าสุด"ฟินันซ่าประชีวิต"ชักเริ่มส่งกลิ่นเมื่อเงินกองทุนติดลบ หากไม่สามารถหาเงินมาโปะได้ชะตากรรมคงไม่ต่างกับ 2 รายแรกเป็นแน่

*เช่นเดียวกับวิบากกรรม"ธาริษา วัฒนเกศ"ผู้ว่าแบงก์ชาติ ที่ถูกกดันรอบด้านให้พิจารณาตัวเอง หลังไม่สามารถแก้ปัญหา"ค่าเงินบาท"ได้ ที่สำคัญมาตรการต่างๆ ที่ออกมาไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาได้เลยจนเป็นที่พูดคุยในที่ประชุมครม.ว่า"จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวผู้ว่าแบงก์ชาติหรือไม่"

*หุ้น TRC ดีดดิ้นขึ้นมาทันทีหลังมีข่าวว่าครึ่งปีหลังลุ้นได้งานเพิ่มอีกกว่า 2,000-3,000 ล้านบาท แถมเตรียมตัวโกอินเตอร์ปีหน้าอีกด้วย เท่ากับว่ามูลค่าหุ้น TRC เพิ่มขึ้นอีกไม่น้อย ทำเอาชั่วโมงนี้ไม่มีไว้ไม่ได้แล้ว

*หุ้น UMS แก่นแก้วจริงๆ ล่าสุดวิ่งพล่านอีกรอบพร้อมกับข่าวดี"ชัยวัฒน์ เครือชะเอม"ใจดีแจกวอร์แรนต์ให้ผู้ถือหุ้นเดิมแบบฟรีๆประมาณ 70ล้านหน่วยอัตรา 2 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ และเชื่อว่า UMS-W1 จะโดดเด่น ไม่แพ้หุ้นแม่เลยทีเดียวต้องถือว่า"เสี่ยชัยวัฒน์"หาจังหวะได้เหมาะทีเดียว

*คำชี้แจงของ"ชูศักดิ์ ยงวงค์ไพบูลย์"กรณีผ่องถ่ายหุ้น AMC ออกไปให้เพื่อนซี้ 2 รายกว่า 10% แม้ชัดเจนว่าทั้งสองรายจะเข้ามาช่วยเรื่องการตลาด AMC แต่เสี่ยหุ้นเหล็กปลายคนนี้ก็ยังเตรียมขายออกมาอีกเลยไม่รู้ว่าแบบนี้หมายความว่าไง

*มุดมุ้งไปดูหุ้น SECC ของ"เสี่ยสมพงษ์"น่าสนใจไม่น้อย หลังเงินบาทแข็งปั๋ง น่าจะทำให้ต้นทุนนำเข้า"รถยนต์หรู"ถูกลงไม่น้อย ทำให้เชื่อว่างบไตรมาส3 คงสวยขึ้นเยอะทีเดียว และหากได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้นำเข้ารถเมล์เอ็นจีวี จากขสมก.แล้วละก้อกำไรบานฉ่ำแน่..

*หุ้น ROJANA ส้มหล่นไปโดยปริยาย หลังค่ายรถยนต์ฮอนด้าลงหลักปักฐานโรงงานใหม่มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท งานนี้นอกเหนือจากยอดขายที่ดินที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้รายได้จากบริการสาธรณูปโภคเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อย ทำให้ชั่วโมงนี้ยืนเด่นเป็นสง่าสุดกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมเลยทีเดียว

*ปิดท้ายด้วย 3 หุ้นเด็ดในกลุ่มชิ้นส่วนอิเลกทรอนิคส์CCET-HANA-KCE หลังตบเท้าเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น และที่สำคัญราคาต่ำกว่าเป้าหมายอยู่เยอะทีเดียว.....


:lol: [/color:e4df5588dd">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com