ชาวหุ้นรุมสับ ตลท. หลังประกาศต่อวีซ่าห้ามเน็ตฯ - มาร์จิ้น รอบ 2 สิ้นสุดวันสุดท้าย 6 ก.ย.50 ระบุดับเบิ้ลสแตนดาร์ดหรือไม่ แนะออกเป็นกฎดีกว่าว่าจะห้ามต่อเมื่อหุ้นวิ่งกี่วัน กี่เปอร์เซ็นต์ ชี้ล่าสุด TOP ร้อนแรงแต่ทำไมลอยนวล ขณะที่บอร์ด ตลท.เชือดซ้ำ ยกเลิกการผ่อนผันวางหลักประกัน 10% มีผล 1 ต.ค.นี้

นักลงทุนรุมวิพากษ์วิจารณ์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ผ่านเวบไซต์ pantip.com และในห้องค้าหลักทรัพย์ หลังค่ำวันที่ 24 ก.ค. มีคำสั่งห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) ของหลักทรัพย์ บริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (LIVE) ชั่วคราวต่อไปอีก 30 วันทำการ ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2550 ถึง 6 กันยายน 2550

โดยคำสั่งดังกล่าว เป็นคำสั่งที่ต่อเนื่องมาจากครั้งก่อนที่ ตลท.ได้สั่งห้ามเน็ตฯ - มาร์จิ้น LIVE ตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.-24 ก.ค.50 ซึ่งกลายเป็นประเด็นร้อนที่นักลงทุนในห้องค้าหลักทรัพย์ต่างๆ และในเวบไซต์นำมาพูดถึงกันอย่างเผ็ดร้อน

ประเด็นสำคัญประการหนึ่ง คือ ไม่เข้าใจว่าทำไม LIVE จึงถูกห้ามเน็ตฯ - มาร์จิ้น รอบที่ 2 ทั้งๆ ที่ราคาหุ้นในระยะที่ผ่านมานี้ไม่ได้ร้อนแรงเหมือนในอดีต ขณะเดียวกัน มีการตั้งคำถามต่อมาว่า หุ้นร้อนตัวอื่นๆ ที่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วทำไมไม่ถูกแขวนป้ายอาญาสิทธิ์เหมือน LIVE โดยเฉพาะล่าสุดวานนี้ (25 ก.ค.) หุ้น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ที่ปรับขึ้นอย่างร้อนแรง น่าจะถูกจับตามองด้วยเหมือนกัน

โดยราคาหุ้น LIVE วันที่ 24 ก.ค. มีราคาสูงสุดของวันที่ 5.30 บาท ต่ำสุด 4.98 บาท คิดเป็นการเปลี่ยนแปลง 6.42% ก่อนจะปิดที่ระดับ 5 บาท ขณะที่ราคา TOP วันที่ 25 ก.ค. สูงสุดของวันที่ 95.50 บาท ต่ำสุด 86.50 บาท เปลี่ยนแปลง 10.40% ก่อนจะปิดที่ระดับ 91.50 บาท
หรือหากจะคิดเฉพาะ 3 วันทำการในสัปดาห์นี้ จะพบว่า LIVE ตั้งแต่ 20-24 ก.ค. ก่อนถูกห้ามเน็ตฯ - มาร์จิ้น รอบ 2 มีราคาสูงสุดที่ 5.30 บาท ต่ำสุด 4.86 บาท เปลี่ยนแปลง 9.05% ส่วน TOP ตั้งแต่ 23-25 ก.ค. มีราคาสูงสุดที่ 95.50 บาท ต่ำสุด 78.50 บาท เปลี่ยนแปลง 21.65%

ขณะเดียวกัน ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ด้วยว่า ราคาหุ้นที่ร้อนแรงอื่นๆ ดูเหมือนจะเข้าข่ายหุ้นที่ถูกห้ามเน็ตฯ - มาร์จิ้น มากที่สุดยังไม่มีคำสั่งจาก ตลท. ออกมา และ ตลท. ดับเบิ้ลสแตนดาร์ด มีการเลือก ปฏิบัติหรือไม่ ทั้งยังมีข้อเสนอว่า ตลท.น่าจะมีการออกกฎมาเลยว่าจะห้ามเน็ตฯ - มาร์จิ้น หุ้นตัวไหนจากปัจจัยอะไร เช่น วิ่งมากี่วัน และวิ่งขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน

สำหรับปีนี้ นอกจาก LIVE แล้ว ตลท. ได้ขึ้นป้ายห้ามเน็ตฯ - มาร์จิ้น ในหลายหลักทรัพย์ด้วยกัน ได้แก่ บริษัท พรีเมียร์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (PT), บริษัท สยามทูยู จำกัด (มหาชน) (S2Y), บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) (IEC), บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (APURE) และ บริษัท ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (TUCC)

ล่าสุดค่ำวานนี้ (25 ก.ค.) คณะกรรมการ ตลท. ยังได้มีมติอนุมัติยกเลิกการผ่อนผันวางหลักประกันร้อยละ 10 ตามข้อ เสนอของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์
โดยนายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยถึงมติคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการประชุมวันนี้ (25 ก.ค.50) ว่า คณะกรรมการได้มีมติยกเลิกการผ่อนผันการวางหลักประกันร้อยละ 10 ของวงเงินที่จะซื้อหลักทรัพย์ สำหรับบัญชีเงินสดของผู้ลงทุนบุคคลทั้งในและต่างประเทศ จากเดิมที่ได้มีการผ่อนผันให้ผู้ที่มีวงเงินต่ำกว่า 500,000 บาท ไม่ต้องวางหลักประกันร้อยละ 10 ของวงเงินที่จะซื้อหลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2550 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการได้พิจารณาข้อมูลของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้แจ้งว่าบริษัทสมาชิกมีความพร้อมในระบบการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการวางหลักประกันดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งเห็นว่าการกำหนดให้มีการวางหลักประกันร้อยละ 10 ของวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการช่วยลดความเสี่ยงของบริษัท และส่งเสริมให้ผู้ลงทุนมีวินัยในการลงทุนเพิ่มขึ้น

?การยกเลิกการผ่อนผันดังกล่าว จะทำให้ผู้ลงทุนที่ซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีเงินสด ต้องมีการวางหลักประกันในอัตราอย่างน้อยร้อยละ 10 ของวงเงินที่จะซื้อหลักทรัพย์ ก่อนที่จะเริ่มซื้อขายหลักทรัพย์ได้ ซึ่งจะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงทั้งของผู้ลงทุนและบริษัทสมาชิกในภาวะที่ตลาดมีความผันผวนและเป็นการเสริมสร้างเสถียรภาพของตลาดทุนโดยรวม รวมทั้งจะมีส่วนส่งเสริมให้ผู้ลงทุนมีการวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ? นายสุทธิชัย กล่าว

คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นว่าการผ่อนผันการวางหลักประกันร้อยละ 10 ของวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ มีระยะเวลารวมประมาณ 3 ปีแล้ว นับตั้งแต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ออกข้อบังคับให้บริษัทสมาชิกเรียกให้ลูกค้าวางทรัพย์สินเป็นหลักประกันก่อนการซื้อขายหลักทรัพย์ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ เพื่อให้มีผลให้ตั้งแต่ 1 กรกฏาคม 2547 แต่ได้มีการผ่อนผันให้ผู้ลงทุนที่มีวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ต่ำกว่า 1,000,000 บาทไม่ต้องวางหลักประกัน ในช่วง 6 เดือนแรกระหว่าง 1 ก.ค. ? 31 ธ.ค. 2547 และผ่อนผันให้ผู้ที่มี วงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ต่ำกว่า 500,000 บาทไม่ต้องวางหลักประกัน ตั้งแต่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะจัดให้มีการประชุมร่วมกับสมาชิก เพื่อให้มีการสร้างความเข้าใจกับลูกค้าอย่างทั่วถึง ก่อนที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2550 เป็นต้นไป

ด้าน นายกัมปนาท โลหเจริญวนิช กรรมการ บมจ.ทรีนีตี้วัฒนา (TNITY) ในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. นักลงทุนทุกรายต้องวางเงินประกัน 10% ของการซื้อขาย หรือเท่ากับว่าสามารถซื้อขายได้ 10 เท่าของหลักทรัพย์ค้ำประกัน หลังจากที่ได้ผ่อนผันสำหรับนักลงทุนที่มีวงเงินต่ำกว่า 5 แสนบาท มาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว และถึงเวลาที่จะ ต้องปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน
ทั้งนี้ คาดว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อภาวะตลาดโดยรวม เนื่องจากในส่วนของนักลงทุนรายใหญ่หรือนักลงทุนที่มีวงเงินเกินกว่า 5 แสนบาทขึ้นไปต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน 10% มานานแล้ว จึงมีความเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี ซึ่งในส่วนของสมาคมฯ ต้องการคุ้มครองนักลงทุนรายย่อย ที่มีเงินออมและต้องการนำมาลงทุนเพื่อหาผลประโยชน์ ซึ่งหากมีการวางหลักทรัพย์ค้ำประกันจะทำให้เกิดความรอบคอบในการซื้อขายหุ้น และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

"คนเล่นหุ้นต้องมีเงินอยู่แล้ว การวางหลักทรัพย์ค้ำประกันก็เหมือนกับเอาเงินฝากหรือเงินออม ออกมาลงทุนอีกรูปแบบหนึ่ง และการวางหลักประกันจะทำให้เกิดความรอบคอบในการลงทุน และมีสติมากขึ้น ส่วนคนที่ต้องการจับเสือมือเปล่า เราไม่ต้องการสนับสนุนนักลงทุนประเภทนี้อยู่แล้ว" นายกัมปนาท กล่าว

นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.บีฟิท หรือ BSEC เปิดเผยว่า การที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติยกเลิกการผ่อนผันฯ นั้น จะไม่กระทบภาพรวมธุรกิจค้าหลักทรัพย์ และกับ BSEC ด้วย เพราะโดยปกติผู้ที่ซื้อขายในวงเงินต่ำกว่า 500,000บาท จะมีไม่มากอยู่แล้วและการวางหลักประกันก็เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความมั่นใจช่วยลดความเสี่ยงได้

ของเราไม่กระทบเลยเพราะมีผู้ที่ซื้อขายต่ำกว่า 500,000บาท น้อยมากๆไม่ถึง 3% ด้วยซ้ำ ในส่วนของโบรกฯอื่นๆไม่รูว่าจะกระทบแค่ไหนแต่ก็คิดว่าบริษัทฯ
อื่นก็มีฐานลูกค้าประเภทนี้ไม่มากเช่นกันนายประสิทธิ์ กล่าว

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ SYRUS เปิดเผยว่า การยกเลิกการผ่อนผันวางหลักประกัน 10% เป็นเรื่องดี ซึ่งผลที่จะตามมาจะเป็นในเชิงบวกมากกว่าเชิงลบ เพราะช่วยลดโอกาสในการที่ผู้ซื้อหุ้นจะไม่มีเงินจ่ายเมื่อถึงวันกำหนดชำระได้ อีกทั้งในแง่ผู้ลงทุนก็รับทราบเรื่องนี้มานานแล้วมีการค่อยๆ เลิกผ่อนเกณฑ์จากผู้มีวงเงินมากๆก่อนแล้วจึงมายกเลิกผู้ซื้อขายวงเงินน้อยๆก็ถือเป็นขั้นตอนที่เหมาะสมผู้ลงทุนโดยทั่วไป และลูกค้าของบริษัทฯน่าจะรับได้เนื่องจากจะเกิดความเท่าเทียมกันในการซื้อขาย

*************************************
ตัวอย่างกระทู้ใน pantip.com
-ห้ามnet LIVE ต่ออีก 30 วัน
ความคิดเห็นที่ 1 กำ
ความคิดเห็นที่ 2 เลือกปฏิบัติเกินไปรึป่าว บัก กลต.
ความคิดเห็นที่ 3 กลต มาน บ้า
ความคิดเห็นที่ 4 กลต ทุบหุ้นอีกแล้ว
ความคิดเห็นที่ 5 มิน่าดูอาการมันแปลกๆ วันนี้น่าจะไปต่อได้แต่กลับลง
ความคิดเห็นที่ 6 จ้าว ว ว ลากโชว์ให้ขึ้นไปอยู่บนชั้นดาดฟ้า อาคารสินธรเลย

-ตลก.สั่งห้ามเล่น NET TOP โดยด่วน!!
เพราะ 1.ทั้งตลาดหยุดดูเค้าเล่นอยู่ตัวเดียว
2.ตัวเบอเร่อ ดันเข้าไปด้ายยย ตั้งสิบเปอเซน
3.ก่อนที่รายย่อยยับจะเสียหาย เพราะตัวอื่นไม่วิ่งด้วยเลย
4.ก่อนที่พี่จะถูกหาว่า ดับเบอนสแตนดาด
ความคิดเห็นที่ 1 เห็นด้วย ใช้ข่าวอินไซด์มาเล่น โปรดอย่าดับเบิ้ลมาตรฐาน 5 5 5
ความคิดเห็นที่ 2 แบบนี้ออกกฏห้ามเลยดีกว่า ว่าหุ้นตัวไหนวิ่งกี่วัน กี่เปอร์เซ็นต์ไม่ได้ โดยไม่ต้องวิเคราะห์พื้นฐานให้เมื่อยตุ้ม สบายใจไทยแลนด์
ความคิดเห็นที่ 3 รู้แล้ววววว..... ก็แค่ขำขำน่ะพี่......... แห..ม..แ...ห้.....
ความคิดเห็นที่ 4 นานๆๆๆๆๆ..วิ่งที ปล่อยเถอะ
ความคิดเห็นที่ 5 นานๆๆๆๆๆ..วิ่งที ปล่อยเถอะครับ ผมเลยปล่อยไปตั้งแต่ 88 _ _"
ความคิดเห็นที่ 6 ฝรั่งปั่น ไม่ผิด โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง ฝรั่งปั่น ไม่ผิด ปืนหรั่ง มันหย่ายกว่า ปืนบังนะ
ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าหุ้นรัฐฯ โดนป้ายฯ SET Index จะลงกระฉูดตูดแหก ที่ผ่านมาสมัย ต.โต้ง ก็ยังเคยบ่นว่า หุ้นรัฐฯ ทำซะเอง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ หนักใจเหมือนกัน
ความคิดเห็นที่ 8 ขำ ขำ ... ผ่านนนนนนนนนนน...

-TOP Super Market
จ่ายตลาดกันเข้าไป เมื่อวาน PTT วันนี้ TOP เอาให้ถึง 100 เลยนะ เอ้อ .... อย่าให้ถึงทีหุ้นเราบ้างละกัน
ความคิดเห็นที่ 1 หุ้นเราน่ะหุ้นไรอ่ะ......live หรอ (ล้อเล่ง)
ความคิดเห็นที่ 2 เฮ้อ... ซื้อ ขายหุ้นทุกวันนี้ไม่ต้องดูพื้นฐานกันแล้วสินะครับ
ความคิดเห็นที่ 3 ความโลบยอมอยู่กับคนโง่ ความฉิบหายจึงเกิด
ความคิดเห็นที่ 4 ATC อีกตัว 3 วัน 12 บาทแหน่ะ
ความคิดเห็นที่ 5 รู้นะว่าหุ้นเราหนะตัวไหน ทำวัยรุ่นเซ็งเหมียนกันครับพี่
ความคิดเห็นที่ 6 นี่ฝรั่งมันยังเกรงใจนะ ไม่งั้นคงเล่น + 30% ติดเพดานไปเลย ตัวไหนหุ้นปั่น หุ้นพื้นฐาน แยกไม่ออกแล้วตอนนี้
ความคิดเห็นที่ 7 หุ้นพื้นปั่นตัวนี้ ไม่เคยทำให้ผมผิดหวังเลยสักครั้งเดียว อิอิ จุ๊บ จุ๊บ น้องซุปเปอร์มาร์เก็ต




:lol:

เมืองไทยตอนนี้หลงกันเยอะ ไม่รู้ว่าแก่ลงหรือป่าว หลงอำนาจจริงจริง หลง ลาภ หลงไปหมด
ผู้คุมกฏก็ อคติ กับหุ้นกล่มนี้จริงจริง กล้าไปสาบานกลับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ละ

กฎกูหรือจะสู้กฎตลาด น่าเป็นห่วงประเทศไทยและคนไทยทุกคน นะ
RICH จาก 2.5 บาท ไป 9 บาท no problem มีเหตุผลอ้างได้นะ (กฏกู)
TOP จาก 55 ไป 95 เพราะ ต่างชาติ ทำราคา และกองทุน ร่วมด้วย แต่ คนเดียว สั่ง
SC จาก 10 บาท ไป 24 บาท ทำเป็น ปิดตา มี story
CCET ใครเป็นเจ้ามือ ในสังคม หุ้นรู้หมด แต่ มีเส้นสายดี ไม่มีแผล

ดังนั้น ดูเหมือนมี เจ้าพ่อ มาเฟีย อยู่เบื้องหลัง ไม่รู้ เป็นการ Coorupt เชิงกฏระเบียบหรือไม่
ต้องมีเส้นสาย จริงจริง มัน ต่างกันชัดชัด

ยุติธรรมแปลว่า ให้ เลิกลาไม่จองเวร โดยใช้ธรรมะเป็นเครื่องช่วย ผู้คุมกฎถ้าไม่มีธรรมะ ก็จะสร้างปํญหาไปเรื่อยแบบไม่จบสิ้น

ขออภัยนะ ที่เอาความจริงมาบอกกล่าว แต่มีเจตนาดี อยากให้เขาเปลี่ยนความคิดและสังคมจะชื่นชมและน่าอยู่