ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเกิดอาการช๊อคไปช่วงขณะดัชนีรูดลงไปกว่า 20 จุดแต่ต้องถือเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนจะได้ทยอยเก็บของถูก และเชื่อว่าหุ้นขนาดเล็กหลายตัวยังมีช่องทางเก็งกำไรได้ไม่น้อยทีเดียว โดยเฉพาะกลุ่มตลาด mai

:RICHสัญญาณเทคนิคยังสวย
หุ้น RICH นับเป็นอีกตัวที่วิ่งสวนทางตลาด ไม่น้อยหน้าหุ้นกลุ่มเหล็กปลายน้ำตัวอื่นๆแม้ว่าปัจจัยพื้นฐานไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่เป็นการย้ายกลุ่มเล่นหลังจากหุ้นบลูชิพหลายตัว ราคาเริ่มเต็มมูลค่า แล้ว

ขณะที่ "สมเกียรติ วงศาโรจน์" เอ็มดีใหญ่ RICH ขณะนี้บริษัทยังไม่มีข่าวดีอะไรเป็นพิเศษและนโยบายต่างๆ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด และราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นต่อเนื่อง เป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องตัดสินใจกันเอาเอง

โดยเป้าหมายยอดขายปีนี้ 7,000 ล้านบาท หลังจากความต้องการเหล็กในประเทศยังมีอยู่มาก อีกทั้งการกระจายสินค้าที่เข้าถึงลูกค้าไม่มากขึ้น ส่วนงบ Q2 น่าจะใกล้เคียงกับไตรมาสแรก.....สัญญาณเทคนิคหุ้น RICH แนวต้านอยู่ที่ 9 บาท.....

:SNCหาจังหวะเล่นเก็งกำไรไปก่อน
หุ้น SNC ปรับขึ้นมารับข่าวผลประกอบการไตรมาส 2 ที่จะประกาศออกมาหลังประชุมบอร์ดวันที่ 6 ส.ค.นี้ โดยเฉพาะประเด็นปันผลระหว่างกาลที่ถูกคาดหมายกันว่าไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 0.20 บาท หลังจากตัวเลขยอดขายเบื้องต้นโตขึ้นกว่า 40%
โดย "เสี่ยสมชัย ไทยสงวนวรกุล" ซีอีโอใหญ่เชื่อมั่นว่ารายได้ทั้งปีน่าจะอยู่ที่ระดับ 2,800-3,000 ล้านบาท เหตุผลหลักมาจากตลาดแอร์บ้านและแอร์รถยนต์ เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้วาระหลักในที่ประชุมบอร์ด 6 ส.ค.อยู่ที่การพิจารณาเงินปันผลระหว่างกาลเบื้องต้นสูงกว่างวดปีก่อนที่จ่ายหุ้นละ 0.20 - 0.25 บาท

ขณะที่หลายโบรกเกอร์ ประเมินว่า ปัจจุบัน SNC ซื้อขายกัน ณ ระดับ P/E เท่ากับ 12-13 เท่ามองระยะสั้นราคาหุ้นค่อนข้างปรับตัวขึ้นมามาก อย่างไรก็ดีระยะสั้นความสามารถในการแข่งขันถูกกดดันด้วยการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาท

เนื่องจากลูกค้า SNC เป็นผู้ผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก และระยะยาวค่าแรงงานเวียดนามจะเป็นแรงดึงดูดที่ทำให้ลูกค้า SNC ย้ายฐานการผลิตไปเวียดนามและอาจกระทบกับยอดขาย SNC ไม่น้อยทีเดียว.....ดังนั้นหุ้น SNC น่าจะมองแบบช็อตต่อช็อตกันไปก่อน....
:KHท้าทายสุดในกลุ่มโรงพยาบาล

หุ้น KH ถือว่าแรงไม่เบาสำหรับหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล นัยสำคัญไม่ต่างจาก 2 ตัวข้างต้น กล่าวคือนักลงทุนเปลี่ยนกลุ่มเล่น โดยจุดเด่น KH มีเหนือหุ้นโรงพยาบาลอื่นๆคือ P/Eค่อนข้างต่ำประมาณ 18-19 เท่า เทียบกับตัวอื่นเฉลี่ยสูงถึง 30 เท่า

งานนี้ "หมอเหลิม" เฉลิม หาญพาณิชย์ ซีอีโอ KH ระบุว่า ความได้เปรียบดังกล่าวกลายเป็นผลดีต่อหุ้น KH ที่นักลงทุนหันมาให้ความสนใจมากขึ้น ขณะที่ปัจจัยพื้นฐาน KH ยังถือว่าภาพรวมยังแข็งแกร่งไม่แพ้ค่ายใหญ่อย่าง BGH แน่นนอน
โดย "หมอเหลิม" ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ขยายตัว 15%จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 3,388ล้านบาท เนื่องจากโรงพยาบาลมีการเพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยให้เพียงพอสำหรับการให้บริการผู้ป่วยและปริมาณผู้ป่วยยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย......ดังนั้นหุ้น KH ถือว่าน่าเล่นสุดสำหรับกลุ่มโรงพยาบาล......

:MLINKมีอัพไซด์เหลือไม่ถึง4%
หุ้น MLINK พื้นฐานปีนี้ไม่ค่อยจะดีเท่าที่ควร ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากยอดยขายโทรศัพท์มือถือ ปรับลงอย่างต่อเนื่อง จากการอิ่มตัวของตลาดมือถือและคู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ศักยภาพการแข่งขันและการทำกำไรลดลงตามไปด้วย

โดยมีการประมาณการปี 50 ลงจากเดิมคาดว่ามีกำไร มาเป็นขาดทุนสุทธิ 143 ล้านบาท เพราะการ ตั้งสำรองสูงถึง 258 ล้านบาทช่วงไตรมาสแรก อย่างไรก็ตามธุรกิจหลักยังมีกำไร แต่ปรับลดลงถึง 24% จากปีก่อน

สำหรับสัญญาณทางเทคนิคหุ้น MLINK ช่วงกลางเดือนพักตัวกลับลงไปทดสอบแนวรับจากเส้นต้นทุนเฉลี่ย 25 วัน และเส้น 10 สัปดาห์ ที่ระดับ 1.22 บาท และยืนทรงตัวแกว่งแคบมาจนกระทั่งเริ่มขยับตัวขึ้นอีกครั้ง ทำให้เกิดพฤติกรรมการเก็งกำไร.....แต่ทว่าหุ้น MLINK มีอัพไซด์ให้เล่นไม่ถึง 4%......