สัญญาณขายที่พบใน Stochastic ขณะที่เคลื่อนตัวในเขตการซื้อมากเกินไป ส่งผลลบต่อทิศทางการเคลื่อนตัวในระยะสั้นของดัชนีเป็นอย่างมาก ดัชนีปรับลดลงติดต่อกันสี่วันทำการจากจุดสูงสุดที่ 895 จุด และเตะระดับต่ำสุดปิด gap บริเวณ 832 จุดวานนี้ คาดว่าดัชนีจะดีดกลับจาก gap นี้ได้บ้างโดยมีเป้าหมายที่ Tweezers Bottom หลุดลงมาบริเวณ 840 จุด เมื่อเสร็จสิ้นการดีดกลับนี้แล้ว ดัชนีอาจปรับลงสู่เส้นค่าเฉลี่ย 10 สัปดาห์ ที่ 825 จุด เพื่อสร้างฐานให้มั่นคงมากขึ้น

มุมมองระยะกลาง - TSTH
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
TSTH เคลื่อนตัวเข้าสู่ขาลงตั้งแต่ปี 47 และเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยการฝ่า Down Trend Line บริเวณ 1.00 บาทได้สำเร็จ ภาพระยะกลางเชิงบวกยังเด่นชัดมากขึ้นเมื่อราคายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 สัปดาห์ที่ 1.30 บาท ได้อย่างมั่นคง อนึ่งการอ่อนตัวที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ เป็นผลสืบเนื่องจาก ภาวะการซื้อมากเกินไปเท่านั้น คาดว่าราคาจะสามารถทรงตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 สัปดาห์บริเวณ 1.60 บาทสักระยะก่อนที่จะดีดตัวเข้าสู่ขาขึ้นระยะกลางต่อไป

หุ้นเด่น เล่นสั้น - GENCO
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
จากกราฟรายวัน ราคามีรูปแบบการกลับตัว (Reversal pattern) ยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วัน พร้อมกับการสะสมกำลังมาระยะหนึ่ง เพื่อรอการ break up ของราคา นอกจากนั้น ยังมีสัญญาณซื้อจาก RSI & Stochastic อีกด้วย ดังนั้น ในระยะกลาง มีโอกาสที่หุ้นจะขึ้นไปทดสอบเป้าหมายที่ 0.90 และ 1.10 บาท ตามลำดับ อีกทั้งยังเป็นกรอบแนวต้านตาม Fibonacci @ 161.8 และ 261.8 อีกด้วย จึงแนะนำ "ซื้อ" โดยให้แนวรับที่ 0.75-0.80 บาท สำหรับจุด Stop loss อยู่ที่ 0.73 บาท เมื่อหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน

หุ้นเด่น เล่นสั้น - ASIMAR
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
พิจารณาจากกราฟรายสัปดาห์มี Golden Cross เกิดขึ้นพร้อมกับรูปแบบ Continuation pattern ในขาขึ้นอย่างชัดเจน เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 สัปดาห์ นอกจากนั้น ยังมีสัญญาณซื้อจาก RSI & Stochastic ดังนั้น ในระยะกลาง มีโอกาสที่หุ้นจะขึ้นไปทดสอบเป้าหมายที่ 2.50 บาท อีกทั้งยังเป็นกรอบแนวต้านตาม Fibonacci @ 161.8 อีกด้วย จึงแนะนำ "ซื้อ" โดยให้แนวรับที่ 1.30-1.40 บาท สำหรับจุด Stop loss อยู่ที่ 1.29 บาท เมื่อหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 สัปดาห์

Z?SCAN: เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวอุปสงค์ในประเทศ

อุปสงค์ในประเทศเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว
ภาวะเศรษฐกิจเดือน มิ.ย. 50 เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของความต้องการในประเทศ โดยดัชนีการบริโภคภาคเอกชน ขยายตัว 0.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ดัชนีภาคการลงทุนเอกชนยังหดตัว 2.7% แต่เริ่มปรับตัวดีขึ้น 1.0% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน แต่หากพิจารณาการขยายตัวเป็นรายไตรมาส จะพบว่า เพิ่มขึ้น 1.2% และ 2.3% ตามลำดับ ซึ่งน่าจะเชื่อได้ว่า การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/50 และฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี จากผลของอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลงต่อเนื่อง

ส่งออกแข็งแกร่ง หนุนดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล
แม้เงินบาทยังแข็งค่า 0.1% จากเดือนก่อนหน้า แต่มูลค่าส่งออกยังเติบโต 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 12,714 ล้านดอลลาร์ สินค้าที่ขยายตัวดี เป็นสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีสูง โดยเฉพาะในหมวดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (มีสัดส่วนการนำเข้าสูงเช่นกัน) และความสามารถในการขยายตลาดใหม่ๆ แต่มูลค่านำเข้ายังคงชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยเพิ่มขึ้นเพียง 3.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลให้เกินดุลการค้า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อรวมกับเกินดุลบริการอีก 103 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลให้เกินดุลบัญชีเดินสะพัดถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ชะลอตัวตามอุตสาหกรรมในประเทศ
แม้การผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกยังคงขยายตัว แต่การชะลอตัวของอุตสาหกรรมที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ เช่น หมวดผลิตภัณฑ์เหล็ก และวัสดุก่อสร้าง รวมทั้งหมวดอาหารที่มีปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ ทำให้ MPI ในเดือน มิ.ย. 50 ขยายตัว 4.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ชะลอตัวจาก 6.3% ในเดือนก่อนหน้า

ภาคส่งออก ยังเป็นแรงหนุนอัตราการเติบโตเศรษฐกิจ
ความแข็งแกร่งของภาคการส่งออก ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตทางด้านปริมาณในอัตราถึง 12.5% การฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน รวมไปถึงการเร่งการใช้จ่ายของภาครัฐ น่าจะช่วยหนุนให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2/50 อยู่ในระดับใกล้ 4%


:lol: