Toon
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973 |  วันที่: 06/08/2007 @ 08:57:18 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ดัชนีตลาดหุ้นฟื้นกลับมาได้ 7.44 จุด น่าจะเป็นสัญญาณดีว่า นับจากนี้ไปดัชนีหุ้นไทยจะเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงาน-แบงก์-ไฟแนนซ์ เริ่มถอนสมอหันหัวเรือกลับได้แล้ว
:LPNกลับมาครองใจอีกรอบ
หุ้น LPN หายหน้าไปนาน หลังเคยเป็นพิมพ์นิยมอยู่พักหนึ่ง เชื่อว่าครั้งนี้จะกลับมาอย่างมั่นคงทีเดียว โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 9.03 บาท ขานรับผลการดำเนินงาน Q2 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 262 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 30% เลยทีเดียว
โดยเป็นการบันทึกรายได้จากยอดขายโครงการนราธิวาส เจ้าพระยาอาคาร B-C ทำให้ผลการดำเนินงาน Q2/50 ออกมาดีกว่าไตรมาสแรกอย่างเห็นได้ชัด
ที่สำคัญ Q3 อัตรากำไรขั้นต้น LPN จะลดลงมาอยู่ที่ 32% ขณะเดียวกันต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจากการใช้งบโฆษณาและส่งเสริมการตลาดและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ดี LPN น่าซื้อลงทุนจากการคาดการณ์ว่า ปีนี้ LPN จะเริ่มมีรับรู้รายได้จากโครงการพหล-สะพานควายและปิ่นเกล้า 2 โครงการ
:LHแอบซ่อนของดีไว้เพียบ
หุ้น LH พี่เบิ้มวงการอสังหาริมทรัพย์มีดีไม่แพ้ใครล่าสุดมีการอัพเกรดหุ้น LH จากระดับน่าลงทุนปานกลาง มาเป็นซื้อลงทุน ด้วยราคาเป้าหมาย 9 บาท สะท้อนถึงผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ระดับ 5%
โดยมูลค่าสินทรัพย์ยังไม่ได้สะท้อนอยู่ราคาหุ้นดังกล่าว
ที่สำคัญแนวโน้มผลการดำเนิน LH จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปีหน้า เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากอัตราดอกเบี้ยต่ำ และการขยายตัวทางเศรษฐกิจดีขึ้นตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป
โดยงบการเงินปี 2008 กำไรสุทธิ LH มีแนวโน้มขยายตัว 30% มาจากยอดขายทาวน์เฮาส์และคอนโดมิเนียม การใช้งบโฆษณาต่ำและการบันทึกกำไรจากบริษัทในเครือขณะเดียวกัน LH มีสินทรัพย์ที่มูลค่าซ่อนอยู่และล่าสุดไม่มีการประเมินมูลค่าใหม่ อาทิที่ดินทำเลทองหรือเงินลงทุนในบริษัทย่อย เบื้องต้นเชื่อว่ามูลค่าไม่ต่ำ 11,000 ล้านบาท
:TMTวันนี้ได้พันธมิตรใหม่
หุ้น TMT ข่าวดีวันนี้ได้"พันธมิตรใหม่"ว่ากันว่าผู้ถือหุ้นใหญ่"ตระกูลพพัฒนสกุล"ยอมสละสัดส่วนการถือหุ้นลงประมาณ 10-15% เพื่อแลกกับพันธมิตรใหม่ที่เปิดตัวบ่ายวันนี้
ส่วนปัจจัยพื้นฐานกำไรสุทธิ Q2 มีแนวโน้มลดลง 57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนเนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้น Q2 ปีก่อนสูงผิดปกติ
ขณะที่ผลประกอบการทั้งปี อาจลดลงประมาณ 32% เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่ต่ำลงตามภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ปริมาณขายหดตัว ราคาขายขยับขึ้นพอช่วยชดเชยได้บ้างแต่ไม่ทั้งหมด ทำให้ยอดขายจึงอ่อนตัวลง
อย่างไรก็ดีปี 2551 มีแนวโน้มดีขึ้นตามเชื่อมั่นผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ที่ฟื้นตัวหลังเลือกตั้งทั่วไป ทำให้การลงทุนภาคเอกชนน่าจะเพิ่มขึ้นและโครงการลงทุนภาครัฐจะมีมากขึ้นช่วงครึ่งหลังปี 51 ทำให้ความต้องการใช้เหล็กมีแนวโน้มสูงขึ้น
สำหรับจุดเด่น TMT คือธุรกิจมีความยืดหยุ่นสูง ผลิตภัณฑ์ครบวงจร สต็อกน้อยมีลูกค้าที่สั่งซื้อประจำประมาณ 40%ของยอดขายรวม โดยหลักอยู่ในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ปัจจุบันใช้กำลังการผลิตประมาณ 60-65%
 CCคึกทิ้งทวนก่อนขึ้นป้ายXD
หุ้น DCC วันนี้เชื่อว่าการซื้อขายน่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เป็นการทิ้งทวนก่อนขึ้นป้าน XD วันพรุ่งนี้ เพื่อรับสิทธิ์ปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.25 บาท โดยราคาเป้าหมายอยู่ที่ 20.40 บาท
อย่างไรก็ดีปีนี้ คาดว่าความต้องการจะชะลอตัวและการแข่งขันในตลาดยังสูง แต่DCC จัดว่าเป็นผู้นำในตลาดและมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำ และมีช่องทางการจัดจำหน่ายครอบคลุม
สำหรับกลยุทธ์ DCC ครึ่งปีหลังวางแผนขยายตลาดนัดกระเบื้องเพิ่มขึ้นอีกประมาณ7-8 แห่ง จากเปิดไปแล้วเมื่อต้นปีประมาณ 7-8 แห่ง คาดว่าปีนี้เปิดตลาดนัดได้ทั้งหมด15-20 แห่ง
จึงถือเป็นข้อได้เปรียบเพราะเป็นการลงทุนที่ไม่มากนัก แต่ทว่าทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 10%
ข่าวหุ้น[/size:9e7494c5fd">
|
