kaisel สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 3,380 | วันที่: 07/08/2007 @ 09:26:29 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต *"โมนิก้า" ขอกระแด๊ะใช้คำฝรั่งจั่วหัว เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลก แพนิกเรื่องซับไพร์ม เพราะนักลงทุนกำลังเข้าใจผิดอย่างหนัก และพยายามโยงเรื่องดังกล่าวเข้ามาที่ตลาดหุ้น จนทำให้ดัชนีร่วงตุบปัดตุเป๋อย่างที่คุณๆ ท่านๆ เห็นนี่แหล่ะค่ะ
*หากว่ากันตามจริง การที่ดัชนีร่วงหล่นลงมาถึง--จุด ก่อนจะมาปิดที่---จุด พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขาย ไม่ได้เป็นผลมาจากเรื่องซับไพร์ม เพราะเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องเฉพาะตลาดตราสารหนี้ล้วนๆ นะจะบอกให้
*ถึงกระนั้นก็ยังมีคนอุตริบอกว่าเกิดจากเรื่องซับไพร์ม "โมนิก้า" ถึงรู้สึกงงเป็นอย่างมากที่เห็นนักวิเคราะห์บ้านเราบางคนเอ่ออ๋อห่อหมกไปกับเขาหน้าตาเฉย และพยายามชี้แจงถึงสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นอย่างหนักก็มาจากเรื่องนี้แหล่ะ
*หากพูดกันแบบไม่ไว้หน้าอินทร์หน้าพรหม เดี๊ยนคิดว่ากลุ่มคนดังกล่าวที่ออกมาคอมเม้นท์พยายามจับแพะชนแกะ โดยไม่ยอมพูดความจริงให้สาธารณชนรับรู้ว่าสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นต่อเนื่องเกิดจาก การปรับพอร์ตการลงทุนที่มีเป็นประจำทุกปีพะยะค่ะ
*ยิ่งช่วงนี้ดัชนีเข้าเขตขายมากเกินไป ท่ามกลางแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติที่แน่นขนัด ยิ่งเป็นโอกาสทองของนักลงทุนที่จะได้ของถูกเก็บไว้พอร์ต "โมนิก้า" ถึงไม่เห็นความจำเป็นต้องเทขายหุ้นตามกระแสนิยม เพราะท้ายที่สุดนักลงทุนต้องกลับมาซื้อของที่แพงขึ้นอยู่ดี
*โดยเฉพาะพวกหุ้นกลุ่มบลูชิพ หากไม่มีความจำเป็นต้องรีบใช้เงิน เดี๊ยนขอแนะนำว่าอย่าเทขายหุ้นทิ้งเลย เพราะราคาหุ้นตอนนี้เทียบกับอนาคตอันสดใส มันยังถูกเกินไปนะจะบอกให้เด็กโง่
*เห็นกันชัดๆ คือ PTT ราคาหุ้นร่วงหล่นลงมาใต้ 300 บาทอย่างดายดาย เพราะเจอแรงเทขายถล่มออกมาตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนราคาหุ้นลบไป 10 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 292 บาท เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างทางเทคนิค ขณะที่พื้นฐานของบริษัทยังแน่นปีกแบบนี้...นักลงทุน
คงต้องช่วยกันร้องเพลง รักแล้วรอหน่อย ฆ่าเวลาไปพลางๆ ท่าจะดีไม่น้อยเจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ RRC กับ ATC พอเจอภาวะการลงทุนผันผวนเข้าหน่อย ราคาหุ้นก็ออกอาการตุปัดตุเป๋จนหาทางขึ้นไม่เจอ และมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงไปเรื่อยๆ "โมนิก้า" ขอแนะนำให้คุณๆ หาจังหวะซื้อหุ้นถั่วเฉลี่ยจะคุ้มกว่าหลายเท่าตัว เพราะเปล่าประโยชน์ที่จะตัดขายหุ้นเพื่อไปซื้อที่ราคาต่ำกว่าเจ้าค่ะ
*ทางด้านหุ้นแบงก์ร่วงระเนระนาดไปแพ้หุ้นกลุ่มอื่นเหมือนกัน แต่ถ้าถามว่าหุ้นตัวไหนน่าซื้อมากสุดยามนี้ "โมนิก้า" ขอแนะนำ KBANK เป็นลำดับแรก เพราะวานนี้ราคาหุ้นลงมาปิดที่ 79.50 บาท ซึ่งเท่ากับราคาปิดของ SCB แบบนี้...แฟนพันธ์แท้ "ข่าวหุ้น"เท่านั้นที่รู้ว่าโอกาสทองมาถึงแล้ว
*เนื่องจากใครๆ ก็รู้ว่า เคฮีโร่ มีมูลค่าสูงกว่า ตราใบโพธิ์ อยู่หลายขุม การที่ราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาเท่ากันขนาดนี้ "โมนิก้า" ไม่แนะนำก็ดูจะเชยไปเสียหน่อย รายแรกเคยแสดงกำลังภายในอันแข็งแกร่งให้เห็นหลายครั้งหลายครา ส่วนรายหลังใครๆ ก็รู้ว่า แนวรับเหนียวแน่นเกินจะหลุดลงไปง่ายๆ นะซี
*ส่วนในรายของ BT "โมนิก้า" กะจะไม่พูดถึงอยู่แล้วเชียว แต่เผอิญไปเห็นการลงทุนบางอย่างผิดที่ผิดทางไป จึงอดสงสัยไม่ได้เกิดขึ้นในสมัย ดร.ฝอยทอง หรือเปล่าก็เท่านั้นนะจ๊ะ
*คล้ายคลึงกับกรณีของ TMT ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ เหลาลงไปเป็นบ้องกัญชา เพราะการขายหุ้น 5% ออกไปให้กับพันธมิตรใหม่ญี่ปุ่น เงินเข้ากระเป๋าผู้ถือหุ้นใหญ่กว่า 100 ล้านบาทเรียบอาวุธ เหมือนกรณี AMC อย่างนี้...เฮียปานชัย จะว่าจังใด เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยได้ชื่อว่าเป็นหุ้นปันผลดี แต่กลับจะมาสิ้นชื่อเพราะความละโมบเข้าครอบงำจิตใจ ถือว่าตกม้าตายนะค่ะ
*แถมช่วงเช้ามีการไล่ราคาหุ้นขึ้นไปรับข่าวถึงระดับ 4.64 บาท แต่พอตกบ่ายราคาหุ้นกลับอ่อนตัวลงมาเรื่อยๆ จนมาปิดที่ 4 บาท ลบไป 0.28 บาท หรือลงไปกว่า 6%อย่างหน้าตาเฉย คงทำให้นักลงทุนบางรายหน้าซีดเป็นไก่ต้มเหมือนกัน เพราะทะเล่อทะล่าเข้าไปซื้อหุ้นที่ยอดดอยนะซี
*น่าจับตามมองมากที่สุด TSTH เพราะตั้งแต่ได้ผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่เข้ามาถือหุ้นอะไรๆ ก็ดูดีไปหมดเสียทุกอย่าง แถมวานนี้กระชากขึ้นมาปิดที่ 1.96 บาท บวกไป 0.13บาทททั้งที่ชาวบ้านชาวช่องลบกันเลอะเทะ หากไม่บอกว่ามีของดีอยู่กับตัว อาจเป็นการถ่อมตัวเกินไป เพราะช่วยดันตัวลูก TSTH-W1 ขึ้นมาปิดถึงที่ 0.71 บาท บวกไป 0.09 บาทหรือขึ้นไปถึง 14% อย่างง่ายดาย...ไม่บอกว่ามีแม่ดีได้อย่างไรจ๊ะ
*สำหรับในรายของ STEC นักลงทุนเห็นทะยานขึ้นมาปิดที่ 5.90 บาท บวกไป0.20 บาท พร้อมด้วยวอลุ่มหนาแน่น และเป็นการสวนกระแสขึ้นมาปิดบวกอย่างแข็งแกร่ง"โมนิก้า" พิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วนพบว่า เป็นเพียงการรีบาวนด์หลังจากเข้าเขตขายมากเกินไป ประกอบกับหุ้นลงมาถึงแนวรับพอดี หุ้นก็เลยบวกแรงเป็นพิเศษเจ้าค่ะ
:lol:
|