May 17, 2024   3:57:42 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > TMT มือเปื้อนเลือด!
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 07/08/2007 @ 21:13:19
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

TMT มือเปื้อนเลือด ใช้เวลา 2 วันทำการ ทำ " เมทัลวัน คอร์ปอเรชั่น" พันธมิตรญี่ปุ่นเจ๊งยับ เกือบ 30 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยตายเรียบจากการข้าไปรับไม้ต่อที่ยอดดอย หลังราคาหุ้นดิ่งถึง 66 สตางค์ หรือ 14.22% ในวันที่ 6-7 ส.ค. ขณะ"ปานชัย" ออกโรงยันบริสุทธ์-ผุดผ่อง เปล่าขายหุ้นถล่มแทงข้างหลังนักลงทุน ท้าทางการตรวจสอบได้เต็มที่ ด้านวงการจี้ผู้คุ้มกฎสอบหาไอ้โม่งใช้ข้อมูลอินไซด์หาประโยชน์ด่วน เหตุราคาหุ้นถูกไล่ราคามาตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนล่อให้รายย่อยเข้ารับเป็นไม้สุดท้ายแล้วขายถล่มกดราคาหุ้นวูบทันควัน ส่งซิกแรงเทขายมหาศาลมาจากโบรกเกอร์เบอร์ 16

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบราคาหุ้นบนกระดานพบว่าวานนี้ (7 ส.ค.50) ราคาหุ้น บริษัทค้าเหล็กไทย จำกัด (มหาชน) (TMT) ได้ปรับลดลงต่อเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมาอีกครั้ง โดยปิดการซื้อขายที่ระดับ 3.98 บาท ลดลง 0.02 บาท มูลค่าการซื้อขาย 20.85 ล้านบาท โดยเมื่อเปรียบเทียบกับราคาหุ้นที่ขึ้นไปทำ high ที่ระดับ 4.64 บาท เมื่อวันที่ 6 ส.ค.จะพบว่าราคาหุ้นได้ลดลงถึง 0.66 บาท หรือ 14.22% ภายในเวลาเพียง 2 วันทำการ และหากเปรียบเทียบกับราคาที่ขาย Big Lot ให้กับ บริษัท เมทัลวัน คอร์ปอเรชั่น ที่ราคาหุ้นละ 5.30 บาท พบว่า ลดลงถึง 1.32 บาท หรือ 24.90% ส่งผลให้พันธมิตร จากประเทศญี่ปุ่นที่ยินดีเข้ามาซื้อหุ้นที่ราคาแพงลิบลิ่วในครั้งนี้ ขาดทุนทางบัญชีไปแล้วเกือบ 30 ล้านบาท ภายในเวลาเพียง 2 วันทำการ

- แกะรอยที่มาของการนองเลือดบนกระดาน
ในวันศุกร์ที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา ในช่วงท้ายตลาดฯพบว่ามีการซื้อขายหุ้น TMT ผ่านกระดาน Big lot จำนวน 21.25 ล้านหุ้น หรือ 5% ของทุนเรียกชำระแล้ว 425 ล้านหุ้น ส่งผลให้ในวันที่ 6 ส.ค. ราคาหุ้น TMT ได้ดีดขึ้นทำระดับราคาสูงสุดทันทีตั้งแต่ตลาดเปิดทำการซื้อขาย จากการเก็งกำไรของนักลงทุน หลังจากที่พบว่ามีการซื้อขายกันที่ราคาหุ้นละ 5.30 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายในกระดานค่อนข้างมาก (โดยราคาหุ้น TMT ปิดการซื้อขายในวันที่ 3 ส.ค.ที่ระดับ 4.28 บาท ) ประกอบกับทางบริษัท แจ้งผ่านบริษัทประชาสัมพันธ์ว่าจะมีการแถลงข่าวด่วนในบ่ายวันเดียวกัน ก็ยิ่งทำให้มีการไล่ราคาหุ้นกันอย่างชัดเจนมากขึ้น โดย เวลาประมาณ 10.00 น. ราคาหุ้น TMT อยู่ที่ 4.64 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของวัน ก่อนจะอ่อนตัวลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 4.54 บาท เพิ่มขึ้น 0.26 บาท หรือ 6.08% มูลค่าการซื้อขาย 40.72 ล้านบาท ในเวลา 10.48 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ดัชนีฯปรับตัวลดลง 16.59 จุด อยู่ที่ 821.17 จุด การปรับเพิ่มขึ้นของหุ้น TMT จึงสวนกับภาวะตลาดฯอย่างชัดเจน และยิ่งกระตุ้นความสนใจจากนักลงทุนได้มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ตลอดการซื้อขายภาคเช้าราคาหุ้น TMT ทรงตัวอยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ 4.56 บาท เพิ่มขึ้น 0.28 บาท

- แถลงที่มาของบิ๊กล็อตปริศนา
ในเวลา 14.00 น.ของวันที่ 6 ส.ค. นายปานชัย พิพัฒนสกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทค้าเหล็กไทย จำกัด (มหาชน) (TMT) ได้เปิดเผยถึงที่มาที่ไปของการขายหุ้นผ่านกระดาน Big lot ว่า ในช่วงที่ผ่านมา TMT ได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ เมทัลวัน คอร์ปอเรชั่น โดยบริษัทดังกล่าวได้เข้ามาถือหุ้นของ TMT ในสัดส่วน 5% ของทุนจดทะเบียน ซึ่งปัจจุบันทุนจดทะเบียนของ TMT อยู่ที่ 425 ล้านบาท
ทั้งนี้การจับมือกับพันธมิตรในครั้งนี้เพื่อร่วมกันพัฒนาตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กในกลุ่มบริษัทข้ามชาติจากประเทศญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ตลอดจนให้การส่งเสริมและพัฒนาตลาดสำหรับผลิตเหล็กชนิดใหม่ๆในประเทศไทย รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆที่ต้องใช้ในการจัดการหรือผลิตสินค้าใหม่ๆ นอกจากนี้พันธมิตรดังกล่าวยังจะเป็นเครือข่ายในการจัดหาสินค้าจากทั่วโลกให้กับ TMT อีกด้วย

อย่างไรก็ดีรายได้ในปีนี้คงจะใกล้เคียงกับก่อนที่ 6,611.99 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิมีโอกาสที่จะลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 286.47 ล้านบาทเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวรวมทั้งปัจจัยทางการเมืองที่ยังไม่มีเสถียรภาพทำให้ความต้องการใช้เหล็กในธุรกิจรับเหมาฯลดลงแต่ในปีหน้าประเมินว่าความต้องการใช้เหล็กน่าจะเพิ่มขึ้นถ้าหากว่ามีการเลือกตั้งและมีรัฐบาลชุดใหม่เกิดขึ้นก็คงจะทำให้โครงการเมกะโปรเจ็กเดินหน้าและความต้องการใช้เหล็กเพิ่มมากขึ้น

ปีนี้ประเมินว่าความต้องการใช้เหล็กโดยรวมจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 12 ล้านตัน ส่วนปีหน้าคาดว่าความต้องการใช้เหล็กน่าจะเพิ่มขึ้นถ้าหากเมกะโปรเจ็กเดิน
หน้า นายปานชัย กล่าว

สำหรับรายได้ในปีนี้คงจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 6,611.99 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิมีโอกาสที่จะลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 286.47 ล้านบาทเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวรวมทั้งปัจจัยทางการเมืองที่ยังไม่มีเสถียรภาพทำให้ความต้องการใช้เหล็กในธุรกิจรับเหมาฯลดลงแต่ในปีหน้าประเมินว่าความต้องการใช้เหล็กน่าจะเพิ่มขึ้นถ้าหากว่ามีการเลือกตั้งและมีรัฐบาลชุดใหม่เกิดขึ้นก็คงจะทำให้โครงการเมกะโปรเจ็กเดินหน้าและความต้องการใช้เหล็กเพิ่มมากขึ้น

ปีนี้ประเมินว่าความต้องการใช้เหล็กโดยรวมจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 12 ล้านตัน ส่วนปีหน้าคาดว่าความต้องการใช้เหล็กน่าจะเพิ่มขึ้นถ้าหากเมกะโปรเจ็กเดินหน้า นายปานชัย กล่าว
นายปานชัย กล่าวต่อว่าในระยะเวลา 1-2 ปีข้างหน้าบริษัทไม่มีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิต เนื่องจากในปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 5 แสนตันต่อปี ซึ่งเพียง
พอสำหรับการรองรับออร์เดอร์จากลูกค้าได้

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่า TMT จะจับมือกับพันธมิตรเมทัล วัน คอร์ปอเรชั่น จากประเทศญี่ปุ่นคงจะยังไม่ส่งผลบวกในปีนี้แต่จะเริ่มเห็นความร่วมมือที่ชัดเจนในปีหน้า ซึ่งในไตรมาส 4/50 เมทัล วันฯ จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาทำงานรวมทั้งแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีกับ TMT ตลอดจนพัฒนาองค์กรให้เติบโตต่อไปส่วนกรณีที่บริษัทเมทัล วัน คอร์ปอเรชั่นเข้ามาถือหุ้นของ TMT ในสัดส่วน 5% และได้เงินเข้ามาจำนวน 112 ล้านบาท ทั้งนี้คงจะช่วยขยายฐานลูกค้ารวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์เหล็กชนิดใหม่ๆรวมถึงเทคโนโลยีและสร้างความแข็งแกร่งให้กับ TMT

การเข้ามาในครั้งนี้ก็เพื่อร่วมกันพัฒนาเรื่องของธุรกิจเทคโนโลยีและฐานลูกค้าแต่ภาพคงจะยังไม่ชัดเจนในปีนี้เพราะเพิ่งเป็นการเริ่มต้นแต่ปีหน้าคงจะเห็น
ความร่วมมือในครั้งนี้ชัดเจนมากขึ้น นายปานชัย กล่าว

- เผยตระกูลธรสารสมบัติและพิพัฒนสกุล ขายหุ้น TMT ให้พันธมิตรญี่ปุ่น เหลือสัดส่วนถือหุ้น 75.66% จากเดิม 80.66%

บริษัท ค้าเหล็กไทย จำกัด (มหาชน) ( TMT ) ได้รับแจ้งจากกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทว่า เมื่อวันที่3 สิงหาคม 2550 กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้ทำการจำหน่ายหุ้นสามัญให้แก่พันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่น โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. นายสูรย์ ธรสารสมบัติ ได้จำหน่ายหุ้นสามัญจำนวน 13,250,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.12 ของทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วของบริษัท ให้แก่
บริษัท Metal One Corporation จากประเทศญี่ปุ่นในราคาหุ้นละ 5.30 บาท

2. นายไพศาล ธรสารสมบัติ ได้จำหน่ายหุ้นสามัญจำนวน 2,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.47 ของทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วของบริษัท ให้แก่
บริษัท Metal One Corporation จากประเทศญี่ปุ่น ในราคาหุ้นละ 5.30 บาท

3. นายปานชัย พิพัฒนสกุล ได้จำหน่ายหุ้นสามัญจำนวน 2,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.47 ของทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วของบริษัท ให้แก่
บริษัท Metal One Corporation จากประเทศญี่ปุ่น ในราคาหุ้นละ 5.30 บาท

4. นายคมสัน ธรสารสมบัติ ได้จำหน่ายหุ้นสามัญจำนวน 2,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.47 ของทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วของบริษัท ให้แก่
บริษัท Metal One Corporation จากประเทศญี่ปุ่น ในราคาหุ้นละ 5.30 บาท

5. นายชำนาญ ธรสารสมบัติ ได้จำหน่ายหุ้นสามัญจำนวน 2,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.47 ของทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วของบริษัท ให้แก่
บริษัท Metal One Corporation จากประเทศญี่ปุ่น ในราคาหุ้นละ 5.30 บาท

ซึ่งเป็นผลให้กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมในตระกูลธรสารสมบัติและตระกูลพิพัฒนสกุลที่เดิมถือหุ้นรวมกันคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 80.66 ลดลงเหลือร้อยละ 75.66 ของทุนจด
ทะเบียนและเรียกชำระแล้ว โดยผู้ถือหุ้นรายใหม่ได้เข้าซื้อหุ้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ5.00 ของทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้ว
วัตถุประสงค์ในการเข้าซื้อหุ้นนี้เพื่อแสวงหาความร่วมมือทางการค้าต่อกันในอนาคต และการจำหน่ายหุ้นในครั้งนี้ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจการบริหาร
แต่อย่างใด

- หลังแถลงข่าวกดราคาหุ้น TMT วูบทันที
ทั้งนี้ หลังจากที่ TMT ได้จัดงานแถลงข่าวชี้แจงถึงที่มาที่ไปของการขายหุ้นผ่านกระดาน Big lot ราคาหุ้น TMT ก็ปรับลดลงทันที ตั้งแต่ตลาดหุ้นเปิดทำการซื้อขายภาคบ่ายของวันที่ 6 ส.ค. โดย ณ เวลา 14.30 น.ราคาหุ้นปรับลดลงไปทำระดับต่ำสุดที่ 4.18 บาท และหลังจากนั้นราคาหุ้นได้ ปรับลดลงต่อเนื่องจนทำระดับต่ำสุดที่ 3.98 บาท ลดลง หลังจากนั้นได้ปิดการซื้อขายที่ระดับ 4.00 บาท ลดลง 0.28 บาท มูลค่าการซื้อขาย 138.32 ลบ.

- บิ๊ก TMT ยันผู้บริหาร-ผถห.เดิมไม่มีใครขายหุ้นในกระดานแน่ พร้อมท้าให้ตรวจสอบ
นายปานชัย พิพัฒนสกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ. ค้าเหล็กไทย (TMT) เปิดเผยในรายการ เปิดสาย ระบายอารมณ์ ทาง eFinRadio.com ว่า ถึงกรณีที่ราคาหุ้นปรับลดลงค่อนข้างแรงว่า ไม่ทราบสาเหตุที่ราคาหุ้น TMT ปรับตัวลดลงแรง แต่ยืนยันว่าทางผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ไม่มีใครขายหุ้นออกมาอย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องดังกล่าวสามาเหตุตรวจสอบได้ หากผู้บริหารขายหุ้นออกมาต้องรายงานต่อสำนักงาน ก.ล.ต.อยู่แล้ว
ผมคงไม่สามารถการันตีเรื่องราคาหุ้นได้ และไม่รู้ว่าใครเป็นคนขายหุ้นออกมา เพราะตัวผมเองไม่ได้เล่นหุ้น แต่ในด้านของการบริหารบริษัทฯ ยืนยันว่าจะทำดีที่
สุด TMT ถือว่าเป็นหุ้นที่พื้นฐานดี และมีการจ่ายปันผลทุกปี

- เผยขายหุ้นในมือให้ เมทัล วัน เหตุอยากได้เทคโนโลยีทันสมัย แต่ไม่อยากเพิ่มทุน หวั่นราคาหุ้นไดลูทกระทบผถห.
นายปานชัย กล่าวว่า สาเหตุที่เลือกเอาหุ้นส่วนตัว และหุ้นในส่วนของผุ้ถือหุ้นเดิมขายให้กับบริษัท เมทัล วัน (METAL ONE CORPORATION) นั้น เพราะต้องการเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากเมทัล วัน ซึ่งบริษัทใหญ่ของเครือ มิตซูบิชิ ที่มีธุรกิจในระดับโลก

ประกอบกับไม่ต้องการที่จะเพิ่มทุน เพราะเกรงว่าจะกระทบราคาหุ้นในกระดานให้เกิดการไดลูทลง และจะไม่เป็นผลดีต่อผู้ถือหุ้น อีกทั้งบริษัทฯยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มทุน เพราะมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินอยู่แล้ว โดยมีหนี้สินต่อทุน หรือ D/E อยู่ที่ 0.7 เท่า ซึ่งถือว่าเป็นระดับต่ำ วัตถุประสงค์คือเราต้องการเทคโนโลยี ไม่ได้ต้องการเงิน และไม่อยากให้หุ้นเกิดการไดลูทนายปานชัยกล่าว

- เผยโยนบิ๊กล็อตราคาสูงถึง 5.30 บ. เป็นระดับที่เหมาะสมกับมูลค่าของบริษัทฯ และเมทัล วัน รับได้
นายปานชัย กล่าวต่อว่า จากการที่ตนเอง และผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯขายหุ้นบิ๊กล็อตของ TMT ให้แก่ เมทัล วัน ที่ราคา 5.30 บาท เป็นราคาที่ตกลงกันระหว่าง 2 ฝ่าย โดยในส่วนของ เมทัล วัน ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบฐานะของ TMT และรับได้ที่จะซื้อหุ้นในราคาสูงกว่ากระดาน ดังนั้นถือว่าราคาดังกล่าวเป็นระดับที่เหมาะสมกับมูลค่าของบริษัทฯ
เมทัล วัน เป็นบริษัทระดับโลก ผมคงไม่สามารถไปบังคับให้เค้าซื้อหุ้นเราในราคาแพงได้ ซึ่งราคาที่ 5.30 บาท เป็นราคาที่ตกลงกันและทางโน้น (เมทัล วัน) รับได้นายปานชัยกล่าว

- ตกลงทำบันทึกความเข้าใจทางการค้ากับพันธมิตรญี่ปุ่น 3 ข้อ
นายไพศาล ธรสารสมบัติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ค้าเหล็กไทย จำกัด (มหาชน) (TMT) ระบุว่า ตามที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทได้จำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท ค้าเหล็กไทย จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วนร้อยละ 5 ของทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วให้แก่ Metal One Corporation ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการค้าจากประเทศญี่ปุ่นนั้นบริษัทเห็นว่าพันธมิตรดังกล่าว ได้ให้ความสำคัญต่อบริษัทเป็นอย่างดียิ่ง จากความร่วมมือที่ได้เคยมี มาต่อกันในอดีตในโครงการสำคัญๆ ต่างๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าระหว่างกัน สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน บริษัทและ Metal One Corporation จึงได้ร่วมกันลงนามในบันทึกความเข้าใจในการร่วมมือทางการค้า ซึ่งสรุปโดยย่อได้ดังนี้
- ให้ความร่วมมือในการทำตลาดที่เกี่ยวข้องกับบริษัทข้ามชาติจากประเทศญี่ปุ่นในประเทศไทย
- ให้โอกาสกับพันธมิตรจากญี่ปุ่นและเครือข่ายได้เป็นผู้จัดหาและแนะนำสินค้าจากต่างประเทศให้แก่ บริษัท
- ให้ความร่วมมือในการพัฒนาสินค้าใหม่ รวมถึงการผลิตสินค้าด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อสร้าง มูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า

บริษัทเล็งเห็นว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะยังประโยชน์ต่อธุรกิจของบริษัทในระยะยาว และบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อตอบสนองความ
ต้องการของลูกค้าได้อย่างดีที่สุด

- เมทัล วัน เล็งถือหุ้น TMT เพิ่มเป็น 20-30% หากในอนาคตผลประกอบการเจ๋ง
Mr.Hiroyuuki Hirano President บริษัทเมทัล วัน คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ถ้าหากในอนาคตบริษัทค้าเหล็กไทย จำกัด (มหาชน) (TMT) มีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีการขยายธุรกิจในทิศทางที่ดีเมทัล วัน ก็มีแผนที่จะเข้าไปถือหุ้นของบริษัทดังกล่าวเพิ่มเป็น 20-30% จากปัจจุบันที่ได้เข้าไปถือหุ้นแล้วในสัดส่วน 5% ของทุนจดทะเบียนเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและเพิ่มโอกาสในการลงทุนด้วย

- แจงซื้อหุ้น TMT ที่ 5.30 บ.สูงกว่าราคากระดาน เหตุเห็นอนาคตสดใส ระบุเป็นราคาที่เหมาะสม
Mr.Hiroyuuki Hirano President เปิดเผยว่า ที่ซื้อหุ้นของบริษัทค้าเหล็กไทย จำกัด (มหาชน) (TMT) ในราคา 5.30 บาทต่อหุ้นซึ่งสูงกว่าราคากระดานที่ 4 บาทกว่าๆ ทั้งนี้เนื่องจากเป็นการซื้ออนาคตและประเมินว่าราคาหุ้นดังกล่าวเป็นราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของ TMT ที่จะมีการเติบโตในอนาคต
ราคาหุ้นที่ซื้อมาถือว่าไม่แพง ถ้าหากดูจากพื้นฐานแล้ว เพราะการเข้าไปซื้อหุ้นเป็นการพิจารณาถึง TMT ที่จะมีการเติบโตในอนาคตได้ Mr.Hiroyuuki กล่าว

- วงการจี้ ตลท.ตรวจสอบใครอยู่เบื้องหลังการไล่ราคาหุ้น
แหล่งข่าวจากวงการค้าหลักทรัพย์กล่าวว่า การที่ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนก่อนที่จะมีการขายหุ้นผ่านกระดาน Big lot น่าจะประเมินได้ว่า อาจจะใช้ข่าวภายในมประโยชน์จากราคาหุ้นบนกระดานได้ เนื่องจากราคาหุ้น TMT ได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่วันที่ 20
กรกฎาคม 2550

ทั้งนี้จากการสำรวจของผู้สื่อข่าวพบว่า วันที่ 20 กรกฎาคม 2550 ราคาหุ้นปิดการซื้อขายที่ระดับ 3.50 บาท จากนั้นได้ปรับเพิ่มขึ้นมาทำราคา high ที่ 4.24 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 4.14 บาท ในวันที่ 27 ก.ค. และหลังจากนั้นราคาหุ้นได้ทรงตัวอยู่ในระดับเฉลี่ยที่ 4.14 บาท ต่อเนื่องถึง 24 วันทำการ และราคาหุ้นเริ่มปรับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนอีกครั้งในวันที่ 2 ส.ค.โดยปิดที่ราคา 4.14 บาท เพิ่มมาปิดที่ 4.28 บาท ในวันที่ 3 ส.ค.และปรับเพิ่มขึ้นมาทำระดับสูงสุดที่ระดับที่ 4.64 บาท ในวันที่ 6 ส.ค.ถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 1.14 บาท หรือ 32.57% ภายในเวลา เดือนเศษ ซึ่งจริงๆแล้วราคาหุ้นเพิ่มขึ้นชัดเจนเพียง 2 ช่วง (20-27 ก.ค. และ 2-3 และ 6 ส.ค.) เท่านั้น ซึ่งสอดคล้องกับข้อสังเกตุของแหล่งข่าวรายดังกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า หลังจากที่ข่าวเรื่องการขายบิ๊กล็อตมีความชัดเจน หุ้น TMT ก็ถูกเทขายลงมาทันทีอย่างรวดเร็ว จนทำให้นักลงทุนรายย่อยจำนวนหนึ่งที่เข้าไปรับหุ้นที่ราคาสูง ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก และเป็นที่น่าสังเกตว่าคำสั่งขายส่วนใหญ่มาจากโบรกเกอรฯเบอร์ 16 ดังนั้น หากเป็นไปได้ต้องการให้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาไปตรวจสอบ การซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าว เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงว่าจะมีการใช้ข้อมูลภายในมาหาประโยชน์หรือไม่ และใครเป็นคนทุบราคาหุ้นในวันดังกล่าว

- บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส TMT แนะนำ ซื้อ TMT ราคาพื้นฐาน 4.80 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)ได้ออกบทวิเคราะห์ถึง TMT ว่า

? กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้น 5% @ 5.30 บาทให้กับเมทัล วัน คอร์ปอเรชั่น - TMT แจ้งตลาดฯว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ (ตระกูลธรสารสมบัติ และพิพัฒนสกุล รวม 5 ราย) ซึ่งเดิมถือหุ้น TMT เท่ากับ 80.66% ได้ขายหุ้นบางส่วนให้กับพันธมิตรใหม่ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเหล็กครบวงจรจากญี่ปุ่น คือ เมทัล วัน คอร์ปอเรชั่น จำนวน 21.25 ล้านหุ้น หรือเท่ากับ 5% ของจำนวนหุ้นเรียกชำระแล้ว 425 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 5.30 บาท ภายหลังการขายครั้งนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่จะถือหุ้นในบริษัทเป็น 75.66% ซึ่งไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจบริหาร

? เกี่ยวกับเมทัล วัน คอร์ปอเรชั่น ? บริษัทก่อตั้งเมื่อวันที่ 6 ม.ค.46 ทุนจดทะเบียน 1 แสนล้านเยน โดยเป็นการร่วมทุนระหว่าง Mitsubishi Corporation และ Sojitz Corporation ณ สิ้นปี 49 มีสินทรัพย์รวม 1.228 ล้านเยน และมียอดขายทั่วโลกในปี 49 เท่ากับ 2.75 ล้านเยน หรือประมาณ 25 ล้านตันโดยมีฐานลูกค้าประมาณ 171 แห่งทั่วโลก ทั้งเอเชีย, ยุโรป, ตะวันออกลาง และอเมริกา สำหรับยอดขายในไทยปี 49 ของเมทัล วัน คอร์ปอเรชั่นอยู่ที่ 5 แสนตัน คิดเป็น 2% ของยอดขายทั้งกลุ่มบริษัท

? มองว่าดีลนี้ส่งผลดีกับกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่-ผู้ซื้อ-บริษัท ? เรามองว่าดีลการซื้อขายหุ้นครั้งนี้ส่งผลดีกับทุกฝ่าย (โดยเฉพาะกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่) โดย 1) กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่สามารถขายหุ้นได้ในราคาที่ดี คือ หุ้นละ 5.30 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาซื้อขายในตลาดย้อนหลัง 1 เดือนก่อนประกาศดีลประมาณ 30% และสูงกว่าราคาตามพื้นฐานที่เราให้ไว้ที่ 4.80 บาทราว 10%, 2) กลุ่มผู้ซื้อ แม้ว่าจะต้องจ่ายเงินซื้อหุ้นในราคา Premium แต่ก็จะได้รับเงินปันผลตอบแทนในอัตราประมาณ 5-6% ต่อปี (คำนวณจากราคาหุ้น 5.30 บาท) ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นที่ 0.50% นอกจากนั้นยังมี TMT มาเป็นซับพลายเออร์ที่แน่นอนลดความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดเหล็กในประเทศตึงตัว และ 3) บริษัท TMT เราเห็นว่าโดยรวมของบริษัทจะได้รับประโยชน์จากโอกาสที่จะได้คำสั่งซื้อจากกลุ่มบริษัทญี่ปุ่นข้ามชาติมากขึ้น โดยในเบื้องต้นประมาณการคำสั่งซื้อที่ผ่านเข้ามาทางเมทัล วัน คอร์ปอเรชั่น ไว้ที่ 3-5% ของยอดขาย TMT เริ่มตั้งแต่ปี 51 เป็นต้นไป หรือหากไม่มี Contribution เลยเราก็มองว่าบริษัทไม่ได้เสียอะไร

? ในระยะยาวพันธมิตรมีโอกาสขยายสัดส่วนลงทุนเป็น 20-30% - ทางผู้บริหารของเมทัล วัน คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่าหากผลการดำเนินงานของ TMT ดีอย่างต่อเนื่อง ใน 3-5 ปีข้างหน้าก็อาจจะพิจารณาเพิ่มสัดส่วนการลงทุนจาก 5% ในปัจจุบันเป็น 20-30% ทั้งนี้ทางกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TMT ยืนยันที่จะยังเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วนมากกว่า 51% เพื่อคงอำนาจบริหารไว้

? คาดการณ์ผลดำเนินงาน 2Q50 ? เราประมาณการว่ากำไรสุทธิของ TMT ใน 2Q50 จะลดลง 9%QoQ แม้ว่าอัตรากำไรจะเพิ่มขึ้นจากการขยับราคาขายแต่ไม่สามารถชดเชยกับปริมาณขายที่ต่ำลงเพราะเศรษฐกิจชะลอตัวและมีวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ หากเทียบ YoY พบว่ากำไรสุทธิจะลดลงแรง 64% เนื่องจาก 2Q49 มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าปกติที่ 13.2% จากที่คาดการณ์ของ 2Q50 ไว้ที่ 7.8% ประกอบกับคาดว่าปริมาณขายลดลง 18%YoY ซึ่งเป็นไปตามภาวะอุตสาหกรรม

? ปันผลสูง....แนะนำซื้อลงทุน ? เราให้ TMT เป็นหุ้น High Dividend Yield Play เนื่องจากมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวก ฐานะการเงินแข็งแกร่ง สินค้าคงคลังอยู่ในระดับต่ำเพียง 1 เดือน และ Net gearing อยู่ที่ 0.72 เท่าในสิ้นปี 50 การมีพันธมิตรต่างชาติ คือ เมทัล วัน คอร์ปอเรชั่น เข้ามาถือหุ้น 5% เป็น Neutral ? Positive กับบริษัทในระยะยาว ณ ราคาปัจจุบัน 4.00 บาท ซื้อขายที่ PE ปี 50 เท่ากับ 8.7 เท่า EV/EBITDA 7.1 เท่า และ PBV 1.3 เท่า และจะลดลงเป็น 7.5 เท่า, 6.3 เท่าและ 1.2 เท่าในปี 51 ตามลำดับ คาดการณ์ Dividend Yield ปี 50 และ 51 เท่ากับ 6.9% และ 8.0% ให้ราคาตามพื้นฐาน 4.80 บาท อิงกับ PE ปี 51 เท่ากับ 9 เท่า





:lol:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com