May 17, 2024   3:13:02 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นขวัญใจนักช็อป...
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 08/08/2007 @ 09:11:44
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ความเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มพลังงาน ยังคงมีการเทขายทำกำไร แต่ในมุมมองแง่บวกอาจเป็นการปรับพอร์ตลงทุนของนักลงทุน เป็นผลให้ดัชนีแกว่งตลอดทั้งวัน ทว่า ที่สุดแล้วก็ยังคงปิดอยู่ในแดนลบ แต่ถือว่าไม่มาก ดังนั้น โอกาสรีบาวด์ที่หลายคนฟันธงไว้ก่อนหน้า คงจะได้เห็นในวันนี้ ขณะที่ หุ้นรายตัว น่าเข้าไปจับจอง "เซียนมุมตึก"ยังมีมาแนะนำเช่นเคย
QHคาดกำไรปกติโต108%จากปีก่อน
เป็นหุ้นที่มีปันผลในอัตรา 4-5% ดูจากสถานการณ์ วานนี้ ปิดในราคาที่ไม่เปลี่ยนแปลงจึงน่าจะ ซื้อ มีราคาเป้าหมายที่ 2 บาท
คาดกำไรในไตรมาส 2 ดีขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อนและไตรมาสที่ผ่านมา ในขณะที่ปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ 13 โครงการมูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท โดยแยกเป็นโครงการของบริษัทเอง 4 โครงการ อีก 9 โครงการเป็นแบรนด์คาซ่า คาดว่าสัดส่วนรายได้ระหว่างแบรนด์คาซ่ากับโครงการของบริษัทเอง น่าจะเพิ่มขึ้น จากอัตรา 40:60 เป็น50:50
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นก็มีแนวโน้มดีขึ้นเช่นกันจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากโครงการที่เปิดขายในแบรนด์คาซ่าและโครงการของบริษัทเอง อาทิ พฤกษ์ภิรมย์-สาทร เบื้องต้นคาดว่าจะมีกำไรขั้นต้นเกิน 30% สำหรับยอดขายของบริษัทในปีนี้ยังคงอยู่ที่ 10,023 ล้านบาทเติบโต6% โดยกำไรปกติคาดว่าจะอยู่ที่ 857 ล้านบาท โต 108% จากกำไรปกติในปี 2549
MCSกำไรรายไตรมาสครึ่งปีหลังโดดเด่น
แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 คาดว่าจะพลิกฟื้นจากไตรมาสแรกถึง 133% มีกำไรสุทธิ 80 ล้านบาท ปรับลดลงจากปีก่อน 20% ซึ่งกำไรสุทธิดังกล่าวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเหตุที่กำไรพลิกฟื้นกลับมานั้น น่าจะเกิดจากมีการส่งมอบงานโครงการเหล็กขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นเป็น 12,500 ตัน เทียบกับ 5,141 ตันในไตรมาสแรก ส่วนกำไรขั้นต้นของบริษัทขึ้นกับงานที่ส่งมอบ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่าง 17-21%
ขณะที่มุมมองต่อธุรกิจในครึ่งปีหลัง คาดว่ากำไรรายไตรมาสจะโดดเด่นขึ้นไปอีก และมีงานล้นมือถึงปีหน้า โดยช่วงปี 2550-2551 มีงานที่จะต้องส่งมอบในตลาดญี่ปุ่นทั้งหมด 70,000 ตัน โดยส่งมอบไปแล้วในครึ่งปีแรก 17,641 ตัน และจะส่งมอบมากขึ้นในไตรมาส 3และ 4 ของปีนี้ รวมทั้งไตรมาสแรกของปีหน้า โดยภาพรวมตัวเลขกำไรของMCSถือว่าเป็นฐานกำไรที่สูงและอยู่ในเกณฑ์ดี
เป็นอีกหุ้นที่มีเงินปันผลสูงถึง 9.1%หรือ 0.35 บาทต่อหุ้น ดังนั้นแนะนำ ซื้อ เป้าหมายอยู่ที่ 5 บาท
KTCพอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคลเติบโตชัดเจน
นักลงทุนแนะนำ ถือ ส่วนเซียนเหมาะ เก็งกำไร เป้าหมายที่ 27 บาท ปิดตลาดวานนี้ สัญญาณดี
คาดกำไรสุทธิไตรมาสสอง ใกล้เคียงกับไตรมาสแรก แต่เพิ่มขึ้นถึง 70% จากปีที่แล้วโดยผู้บริหารKTC ระบุว่า การเติบโตของพอร์ตสินเชื่อในไตรมาสสอง เป็นการเติบโตที่ชัดเจนในพอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้นจาก 8 พันล้านบาทจากปีก่อน มาอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาทขณะที่ยอดคงค้างของพอร์ตสินเชื่อบัตรเครดิตค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสแรก
การเน้นขยายตัวของสินเชื่อส่วนบุคคลทำให้คาดว่าบริษัทจะรักษาอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิตามที่คาดหมายในปีนี้ 12%และปีหน้า 10% โดยเหตุที่ทำให้เชื่อเช่นนั้น เพราะการจับฐานลูกค้าที่มีรายได้ต่ำกว่าบัตรเครดิต ทำให้โอกาสเติบโตได้อีกมาก ขณะที่ลูกค้าบัตรเครดิตเริ่มอิ่มตัว
SVIราคายังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในธุรกิจเดียวกัน
กำไรสุทธิไตรมาส 2 เติบโต 11% จากไตรมาสก่อนและ 16% จากปีก่อน ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้น 14% จากปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยที่ทำให้รายได้เพิ่ม เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วง highseason ตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 รวมถึงการได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าใหม่ตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วเป็นต้นมา
ในขณะที่ไตรมาส 3 บริษัทจะได้รับผลบวกจากโรงงาน SVI-3 ในประเทศจีน ที่เริ่มดำเนินการผลิตและส่งมอบตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีลูกค้ารองรับการผลิตในโรงงานดังกล่าวแล้ว 4 ราย คิดเป็นเงินมูลค่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ
จุดเด่นของบริษัทคือ ประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนการผลิต ประโยชน์การประหยัดต่อขนาด(Economy of scale) และต้นทุน IC ที่เป็นวัตถุหลับมีแนวโน้มลดลง ดังนั้น จึงสมควร ซื้อ โดยราคาหุ้นยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ในปัจจุบัน

ข่าวหุ้น[/size:bbd1ccbccc">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com