วันนี้จับตา TYM ร้อนเต็มพิกัด อานิสงส์บุญพาวาสนาส่ง หลังวานนี้ภาพรวมตลาดเขียวขจีทั้งกระดาน ฝรั่งขายสุทธิลดลงเหลือ 500 ล้านบาท จากก่อนหน้าขายเฉลี่ยวันละ 2,000 ล้านบาท ขณะที่สถิติหุ้นกลุ่มเหล็กเปิดเทรดวันแรกไม่ทำนักลงทุนผิดหวัง ราคาพุ่งเหนือ IPO ตั้งแต่ 40.74% ถึงสูงสุด 103%

* TYM มาถูกที่ถูกเวลา
และแล้ววันนี้ 9 สิงหาคม 2550 ถือเป็นฤกษ์ยามงามดีที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้มีโอกาสต้อนรับ บริษัท ไทยง้วนเมทัล จำกัด (มหาชน) หรือ TYM เข้าเป็นสมาชิกใหม่ในหมวดวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร (Industrial Materials & Machinery : IMM) ซึ่ง TYM ได้ตั้งราคา IPO ที่ 3 บาท โดยระบุว่าเป็นการตั้งราคาที่ให้ส่วนลดมากกว่า 20% โดยมีค่าพี/อี เรโชว์ ประมาณ 9 เท่า เปรียบเทียบกับกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่มีค่าพี/อี เรโชว์ ประมาณ 12 เท่า
ดูเหมือน TYM จะเข้ามาถูกที่ถูกเวลา เพราะเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นต่างประเทศ ได้คลายความวิตกกังวลในประเด็นซับไพร์มของสหรัฐฯ ไปแล้วระดับหนึ่ง และเมื่อวานนี้ (8 ส.ค.) ดัชนีฯ ได้ปิดที่ระดับ 831.64 จุด เพิ่มขึ้น 17.24 จุด หรือ 2.12% มูลค่าการซื้อขาย 17,967.22 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่ม IMM ปิดที่ระดับ 93.88 จุด เพิ่มขึ้น 1.48 จุด หรือ 1.60% และต่างชาติขายสุทธิน้อยลงเหลือ 548.53 ล้านบาท หลังจากก่อนหน้านี้ขายสุทธิติดต่อกันเฉลี่ยวันละประมาณ 2,000 ล้านบาท

* ผู้บริหารมั่นใจยืนเหนือจองชัวร์
ขณะที่ นายบุญชัย จิระพงษ์ตระกูล กรรมการผู้จัดการ TYM มั่นใจว่าหุ้น TYM ที่เข้าซื้อขายวันแรกนี้ จะสามารถยืนเหนือราคาจองได้อย่างแน่นอน โดยระบุจุดเด่นว่า ได้เลือกช่วงราคาตรงกลางที่ 3 บาท หลังประมาณต้นปี 2550 กำหนดช่วงราคาเบื้องต้นที่ 2.80-3.20 บาท/หุ้น ซึ่งนับเป็นราคาที่ discount ให้ผู้ลงทุนมากกว่า 20% และตอนนั้น SET INDEX อยู่ประมาณ 700 จุด ดังนั้น ต่อให้หุ้นรูดลงไปอีกก็คงจะไม่ลึกไปถึงประมาณ 700 จุดแน่ จึงคิดว่าหุ้น TYM น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีกับผู้ถือหุ้น
สำหรับวัตถุประสงค์ในการใช้เงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปชำระค่าก่อสร้างอาคารโรงงาน 2 แห่ง พื้นที่ใช้สอยรวม 4,500 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท, ชำระค่าเครื่องจักรผลิตท่อรีดร้อน และรีดเย็น 3 เครื่อง และเครื่องสลิต 1 เครื่อง กำลังการผลิตรวม 50,000 ตันต่อปี ใช้เงินลงทุนประมาณ 120 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเก็บไว้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
ผู้บริหาร TYM ระบุว่าด้วยว่า ในด้านปัจจัยพื้นฐานของ TYM ยังเดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการบริโภคเหล็กภายในประเทศยังคงขยายตัว โดยคาดว่ารายได้ในไตรมาสที่ 2/2550 มีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 1/2550 ที่มีรายได้ 1,600 ล้านบาท ขณะที่รายได้ตลอดปี 2550 คาดว่าน่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2549 ที่มีรายได้ 4,300 ล้านบาท เพราะบริษัทฯ มีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตโดยจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนจาก 300 ล้านบาท เป็น 400 ล้านบาท มาใช้ในการขยายกำลังการผลิตดังกล่าว

* กรุยทางให้รุ่นน้อง ไทยง้วน เอทานอล
หลายฝ่ายประเมินว่า หุ้น TYM จะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง ดูได้จากการตั้งราคา IPO ในระดับต่ำ ทั้งยังกระจายให้ผู้มีอุปการคุณถึง 55% และที่สำคัญ คือ เป็นการปูทางให้ บริษัท ไทยง้วน เอทานอล จำกัด (มหาชน) ที่บริหารงานโดย นายบุญเชิด สันทัดพานิช กรรมการผู้จัดการบริษัท ซึ่งเป็นน้องชายคลานตามกันมาของ นายบุญชัย จิระพงษ์ตระกูล ที่เตรียมเจริญรอยตามด้วยนโยบายการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งในเบื้องต้นวางแผนว่าจะเป็นภายในปี 2550 นี้
ดังนั้น ราคาหุ้น TYM จึงน่าจะยืนเหนือราคา IPO ได้ไม่ยาก เพื่อจูงใจนักลงทุนให้ตั้งตาตั้งตารอจองซื้อหุ้น IPO บริษัทใหม่ คือ บริษัท ไทยง้วน เอทานอล จำกัด (มหาชน) ที่ไม่น่าจะทำให้นักลงทุนผิดหวังเช่นเดียวกัน

* ตลาดหุ้นไทยมีแววอนาคตสดใส
ด้านภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้ นายณาศิส ประเสริฐสกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ บล.ฟาร์อีสท์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาหุ้นไทยในวันนี้น่าจะบวกต่อได้จากวานนี้ หลังจากนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐ หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด (FED) มีถ้อยแถลงว่า แม้อัตราค่าเงินเฟ้อว่ายังคงมีความกังวลอยู่ แต่ภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงสามารถขยายตัวได้ในระดับปานกลาง และประเด็น Yen Carry Trade ที่คาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 22-23 ส.ค.นี้ น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.25% หรืออาจปรับเพิ่มขึ้นเป็น 0.50% ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น
"พรุ่งนี้หุ้นไทยน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อ เนื่องจากเริ่มคลายความกังวลจากประเด็นเรื่องการประชุมของเฟด และทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยของ BOJ จึงน่าจะส่งผลดีให้หุ้น TYM ที่มีการเข้าเทรดในวันพรุ่งนี้เป็นวันแรก น่าจะยืนเหนือราคาจองที่ 3 บาท ได้" นายณาศิส กล่าว

* ฟินันซ่า มองสัปดาห์นี้มีรีบาวน์-Cover Short
บทวิเคราะห์ บล.ฟินันซ่า สรุปใจความว่า คาดว่าผลกระทบของ Sub-Prime Mortgage จะส่งผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลกในระยะสั้น ขณะที่ผลกระทบดังกล่าวจะเกิดความเสียหายกับระบบเศรษฐกิจสหรัฐในมูลค่าที่ไม่มากนัก แต่ผลทางจิตวิทยา และความเสียหายในตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตรจะมีมากกว่า เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากได้มีการกู้ยืมเงินเยนแล้วนำไปลงทุนต่อใน CDO และ Equities Funds ดังนั้นเมื่อการลงทุนตัวหนึ่งผิดพลาดจึงต้องมีการลดความเสียหายจากการลงทุน โดยการขายทำกำไรในตลาดหุ้น ขณะเดียวกันเมื่อภาคอสังหาริมทรัพย์สหรัฐมีปัญหาก็จะส่งผลให้ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง และ JPY แข็งค่าขึ้น เพราะฉะนั้นจึงเกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ ทั้ง 1) ลดผลขาดทุนจากการลงทุน และ 2) ยังมีความเสี่ยงจากต้นทุนเงินเยนที่เพิ่มขึ้น จึงเกิดปรากฏการณ์ Yen Panic Buy
เราพบว่านักลงทุนต่างชาติมีการขายสุทธิ Asian Fund Flows-6 ต่อเนื่องถึง 3 สัปดาห์คิดเป็นมูลค่า 9.5 พันล้านเหรียญสูงกว่าช่วงที่แล้ว (ก.พ.50) ถึง 76% ซึ่งเราเชื่อว่าการขายดังกล่าวเป็นปรากฏการณ์ Panic Sell แบบลูกโซ่จนส่งผลให้แทบทุกประเทศเคลื่อนเข้าใกล้ระดับ Oversold และเมื่อเราพิจารณาสัญญาณทางเทคนิค (RSI-7) ในตลาดหุ้นทั่วโลกโดยเปรียบเทียบระหว่างวันที่ 9 ก.ค. จนถึง 3 ส.ค. พบว่าแทบทุกตลาดมีการปรับลดความร้อนแรงลงมาโดยเฉลี่ยมากกว่า 50% ในช่วงระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน เพราะฉะนั้นเราจึงคาดว่า Downside Risk ของตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มลดน้อยลง ขณะที่การรีบาวด์ และ Cover Short น่าจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้

* เปิดสถิติหุ้นกลุ่มเหล็กไม่เคยทำให้นักลงทุนผิดหวัง
เมื่อย้อนกลับไปดูสถิติการเปิดเทรดหุ้นกลุ่มเหล็กในตลาดหุ้นไทย จะพบว่าไม่เคยทำให้นักลงทุนผิดหวัง โดยทุกตัวสามารถทำกำไรได้ตั้งแต่ 40.74% ถึงสูงสุด 103% แม้ราคาปิดตลาดวันแรกจะอ่อนตัวลงไปบ้างก็ตาม โดย บริษัท สามชัย สตีล อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ SAM เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 103% ในวันแรกที่เปิดเทรด จากราคา IPO ที่ 10 บาท โดยไปทำราคา High ที่ 20.30 บาท ก่อนจะปิดอ่อนตัวลงมาที่ 19.50 บาท หรือสูงถึง 95% จากราคา IPO

**************

ตารางแสดงราคาหุ้นกลุ่มเหล็กในวันเปิดเทรดครั้งแรก
หลักทรัพย์ วันแรก IPO ราคาสูงสุดวันแรก เปลี่ยนแปลง(%) ราคาปิดวันแรก เปลี่ยนแปลง(%)
AMC 13 ส.ค.47 3.50 5.00 42.85 4.44 26.85
SAM 15 ก.ย.47 10.00 20.30 103 19.50 95
PERM 14 ก.ค.48 3.50 5.45 55.71 5.40 54.28
TUCC 8 ธ.ค.48 2.70 3.80 40.74 3.80 40.74
RICH 31 ส.ค.49 2.25 3.34 48.44 3.08 36.88

รวบรวมโดย : eFinanceThai.com


:lol: