*"โมนิก้า" ไม่อยากจั่วหัวแบบนี้เลย เพราะเกรงจะเป็นการทำลายบรรยากาศการลงทุน แต่สุดท้ายก็ต้องจำใจจั่วหัวเช่นนี้ออกไป หลังแรงซื้อที่มีเข้ามากระปิบกระปอยเหลือเกิน จนไม่แน่ใจว่าดัชนีจะผ่านทะลุขึ้นไปอย่างถาวรนะซี

*หากวันนี้ดัชนีอ่อนตัวลงมาเล็กน้อย เท่ากับเป็นโอกาสทองของนักลงทุนที่จะได้เก็บหุ้นดีราคาย่อมเยาว์อีกหน "โมนิก้า" ถึงเชียร์สุดใจขาดดิ้นให้นักลงทุนรายย่อยตะลุยเข้าเก็บหุ้นตลอดเวลาไงหล่ะ

*เนื่องจากเห็นกันอย่างแจ๋มแจ้งแดงแจ๋ว่า ตลาดหุ้นไทยยังเป็นแหล่งลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สุดแห่งหนึ่งเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ จึงไม่มีความจำเป็นต้องหวาดกลัวอะไรทั้งสิ้นเพราะถ้ามองกันยาวๆ ราคาหุ้นกลุ่มบลูชิพยังมีโอกาสไต่ระดับขึ้นไปพลิกแนวต้านถัดไปให้เป็นแนวรับนะจะบอกให้

*ส่วนเรื่องซับไพร์มที่นักวิเคราะห์ติ๊งต๊องบางแห่งอธิบายว่า เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้หุ้นทั่วโลกตกแดงเถือกกันถ้วนหน้า เพราะต้องขายหุ้นประเทศต่างๆ เพื่อนำเงินไปพยุงกองทุนนั้น มันไม่มีเหตุผลเพียงพอ...เนื่องจากซับไพร์มเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับตลาดตราสารหนี้มากกว่าตลาดทุนนะซี

*เดี๊ยนถึงขอวิงวอนพวกสูรู้สำนักต่างๆ อย่าได้อุตริแสดงความคิดเห็นที่ไม่เข้าท่าอีกเพราะเป็นการบ่อนทำลายตลาดหุ้นอันเป็นที่รักของดิฉัน...โชคดีที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงตลาดหุ้นช่วยกันเตือนสติสตังค์กันคนละเล็กละน้อย เรื่องดังกล่าวถึงไม่ลุกลามใหญ่โตเหมือนกับที่วิตกกังวลนะซี

*ขนาดหมอบุญ ยังฟันธงว่ากองทุนใหญ่ๆ จะนำเงินมาลงทุนในประเทศแถบเอเชียมากขึ้น เพราะมองว่าประเทศแถบนี้ให้ผลตอบแทนดีกว่าฝั่งยุโรป คุณๆ ท่านๆ ยังคิดว่าตลาดหุ้นไทยไม่น่าลงทุนอีก "โมนิก้า" คงไม่มีคำพูดใดมากล่าวตักเตือนอีกแล้วหล่ะ...เนื่องจากชี้โพรงให้กระรอกมากขนาดนี้ กระรอกยังไม่เข้าก็ไม่รู้จะว่าจังใดอีกแล้ว

*สำหรับหุ้นที่ "โมนิก้า" ถุกอกถุกใจมากสุดยามนี้ คือ PTT เพราะท้ายที่สุดก็แสดงความแข็งแกร่งด้วยการกระชากขึ้นมาปิดที่ 304 บาท พร้อมกลับพลิกแนวต้าน 300 บาทให้เป็นแนวรับแบบนี้ หากไม่แนะนำให้ซื้อก็คงเสียยี่ห้อเดี๊ยนหมด...เนื่องจากของเขามันดีจริงๆ จะว่าไม่ดีได้อย่างไรกัน

*เช่นเดียวกับในรายของ BANPU มีคนคอยดูแลหุ้นอย่างใกล้ชิดแบบนี้ไงเล่า ราคาหุ้นถึงไม่เคยลงแล้ว ลงเลย และพอสบช่องได้โอกาสวิ่ง ราคาหุ้นก็วิ่งโกยอ่าวชนิดที่ไม่เห็นฝุ่น ล่าสุดวิ่งขึ้นมาปิดที่ 284 บาท บวกไป 18 บาท "โมนิก้า" ถือว่าน้อยเกินไปสำหรับหุ้นที่มี market maker หนุนหลังนะจ๊ะ

*ทางด้าน SCC พอหมดตัวถ่วงเรื่องการจ่ายปันผล และภาวะการลงทุนกลับมาคึกคักสุดขีด แรงซื้อจากกองทุนต่างๆ ก็ไหลบ่าเข้ามาเป็นจำนวนมากในทันที จนดันราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 262 บาท บวกไป 6 บาท หากถามว่าหุ้นตัวนี้น่าตามต่อไหม เดี๊ยนขอตอบว่าน่าตามเป็นอย่างยิ่ง...เนื่องจากเป็นบริษัทที่ผูกขาดการทำธุรกิจประเภทต่างๆ จึงไม่มีวันรจะเดินถอยหลังเข้าคลองหรอกค่ะ

*เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มแบงก์ แสดงความแข็งแกร่งด้วยการทะยานขึ้นมาปิดบวกกันถ้วนหน้า แต่ที่น่าสนใจกลับเป็นในรายของไม้เบื่อไม่เมา KBANK และ SCB เพราะแสดงให้เห็นว่าหุ้นที่มีมูลค่าสูงกว่า ยังไงก็ต้องมีราคาดีกว่าวันยันค่ำ "โมนิก้า" บอกใบ้ให้ขนาดนี้แล้วยังเลือกไม่ถูก...จะเล่นแซนด์วิสเลยก็ได้ เนื่องจากเป็นสิทธิส่วนบุคคล และความชอบส่วนตีวของแต่ละคนเจ้าค่ะ

*ส่วนหุ้นหลักทรัพย์ยังไว้ใจได้เสมอในยามที่ตลาดหุ้นกลับทิศ "โมนิก้า" จึงไม่มีความจำเป็นต้องกล่าวเตือนอะไรมากมาย เพราะแต่ละตัวมีกลุ่มคนเล่นคนละกลุ่มอยู่แล้วโดยเฉพาะในรายของ KEST และ KGI กำลังกลายเป็นหุ้นขวัญใจของนักเก็งกำไรสั้นๆ แบบนี้...รับรองยังมีแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกบานตะเกียง เพราะหุ้นมีสตอรี่ที่ดีรองรับอยู่หลายเรื่องนะจะบอกให้

*ประหลาดสุดเห็นจะเป็นในรายของ BGH ราคาหุ้นรูดลงแรงอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งที่หุ้นส่วนใหญ่อยู่ในมือผู้ถือหุ้น แต่วานนี้หุ้นกลับดิ่งลงไป 2.25 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 40 บาท พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อกว่า 400 ล้านบาท...มันน่าแปลกใจไหมเอ่ย เพราะใครๆก็รู้ว่าผู้บริหารโรงพยาบาลแห่งนี้ พยายามสร้างสตอรี่ดีๆ ตลอดเวลา หุ้นร่วงหล่นราวกับใบไม้ร่วงจึงต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่แน่ๆ

*เช่นเดียวกับ SVI-W2 จู่ๆ ก็ขึ้นมาเป็นหุ้นเก็งกำไรดาวเด่นหน้าตาเฉย ด้วยการทะยานขึ้นไป 15% หรือขึ้นไปถึง 0.12 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 0.92 บาท มันเว่อนเกินไปสำหรับอีฉัน...แต่พวกคุณเน็ตอาจชอบใจก็ได้ "โมนิก้า" จึงของดคอมเม้นท์ เพราะไม่ต้องการขวางทางปืนเจ้าค่ะ

*ตบท้ายกันที่หุ้นน้องใหม่ TYM "โมนิก้า" เห็นผู้บริหารออกมาเย่วๆ ว่า ราคาขายIPO ที่ 3 บาทมีดิสเค้าท์ให้ตั้ง 20% จึงไม่กลัวว่าหุ้นจะหลุดจองในวันแรกแบบนี้ เดี๊ยนขอแนะนำให้ฟังหุไว้หู เพราะตัวเลขที่มีอยู่ในมือบอกว่าบริษัทเต็มไปด้วยหนี้เงินกู้ยืมระยะสั้นแถมต้นทุนขายก็สูงถึง 96 ของรายได้จากการขาย จึงไม่มั่นใจว่าหุ้นจะยืนระยะได้นานนะจะบอกให้

*ก่อนจากกันย้ำกันอีกที่ว่า อย่าได้เล่นหุ้นตามเกมของผู้อื่น เพราะหุ้นขึ้นทีไรนักลงทุนชอบทำเป็นหูทวนลมทุกที จนสุดท้ายต้องเสียค่าโง่ด้วยการขายหุ้นขาดทุนเป็นประจำนะซี


:lol: