Toon สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 973 | วันที่: 15/08/2007 @ 09:01:23 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต เหตุใด ข้ออ้างเรื่องปัญหาซับไพร์ม หรือสินเชื่อต่ำกว่ามาตรฐานของเฮดจ ฟันด์ในสหรัฐฯจึงถูกนำมาใช้อธิบายเรื่องการตกลงของตลาดหุ้นในเอเชียไม่หยุดหย่อน ทั้งที่ข้อเท็จจริงก็คือ เงินที่ลงในตลาดซับไพร์มนั้นน้อยมาก
คำอธิบายที่มักจะชอบอ้างกันในบรรดานักวิเคราะห์ก็คือว่า มันส่งผลซึมลึกในระยะยาว เพราะทำให้ตลาดเครดิตทั่วโลกเสียหาย จนทำให้ทุนต้องเคลื่อนออกจากเอเชียกลับไปช่วยเหลือที่อื่นๆทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ
ข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นนี้ ไม่สามารถอธิบายได้ดีกว่าคำอธิบายประเภท?ไปไหนมา? สามวาสองศอก?แม้แต่น้อย แต่มันก็ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วเอเชียร่วงลงจนผงกไม่ขึ้นง่ายๆเพราะความตื่นตระหนกที่ไม่สามารถหาคำอธิบายอื่นมาหนุนช่วยดีกว่านี้
มีคำอธิบายเชิงจิตวิทยาที่น่าสนใจแทรกขึ้นมาในยามนี้ว่า จริงแล้ว เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังคำอธิบายของนักวิเคราะห์ ไม่มีมากอะไรไปกับ สัญญะของความหมายที่ถูกนำมาใช้ นั่นคือ ซับไพร์ม คือปีศาจ หรือ ผีที่เหมาะกับสถานการณ์มากที่สุด
คนส่วนใหญ่ ชอบสร้างจินตนาการในยามหวาดกลัวอนาคต ว่าผี หรือ ปีศาจ เสมอ
ซับไพร์ม ก็คือ ผี หรือปีศาจสำหรับหุ้นยามปรับฐานแรงอย่างช่วยไม่ได้
ข้อเท็จจริงล่าสุดที่ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี. ออกมายืนยันล่าสุด เห็นได้ชัดเจนว่า เงินลงทุนระยะสั้นหรือเก็งกำไร ไม่มีท่าทีจะถอนตัวออกจากเอเชียกลับไปยุโรปหรือสหรัฐฯดังที่มีนักวิเคราะห์พยายามให้คำอธิบายผ่านสื่อต่างๆกันอึงคะนึงยามนี้
เหตุผลที่อธิบายก็คือ ตราบใดที่ตลาดเอเชีย ยังให้ผลกำไรในการลงทุนสูงกว่าที่อื่นๆ ความจำเป็นจะทิ้งตลาดดีไปหาตลาดที่ย่ำแย่ ถือเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย
ผู้จัดการเฮดจ ฟันด์คนไหนที่กล้าทำการดังกล่าว ไม่บ้าก็เมาเท่านั้นเอง
นักวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุนหลายสำนักในฮ่องกงและโตเกียว ให้คำอธิบายเอาไว้น่าสนใจว่า ตัวแปรที่ไม่รู้ หรือ ความไม่มั่นใจแห่งอนาคต เป็นคำอธิบายที่ดูไม่มีเหตุผล แต่ก็ถือว่ามีน้ำหนักมากที่สุดในยามนี้
โดยเฉพาะตัวแปรที่เป็นคำถาม 3 เรื่องหลักได้แก่-ความเสียหายจากซับไพร์มที่แท้จริงมีมูลค่าเท่าใดกันแน่-ความเสียหายดังกล่าวส่งผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยในอเมริกาและโลกมากแค่ไหน-การขับเคลื่อนตัวของธนาคารกลางสำคัญอย่างเฟดฯ หรือ สหภาพยุโรปที่จะอัดฉีดเงินเข้ามาช่วยแก้ความกังวลของคนที่ลงทุนในเฮดจ ฟันด์ ที่ลงทุนในซับไพร์ม จะมากน้อยแค่ไหนคำถามเหล่านี้ เป็นเพียงมายาภาพ หรือ ความจริง?คำตอบไม่มีใครรู้เมื่อไม่รู้ ปรากฎการณ์กระต่ายตื่นตูม ด้วยการขายหุ้นทิ้งในตลาดต่างๆ ก็เลยต้องดำเนินต่อไป จนกว่าความชัดเจนจะเกิดขึ้น เพราะ กองทุนใหญ่นั้น เกลียดนักกับความคลุมเครือของตลาดเก็งกำไรข้อดีของปรากฏการณ์?กลัวผี?ของนักลงทุนเอเชียยามนี้ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ปล่อยให้ราคาหุ้นบลูชิพในเอเชียกลับมามีราคาต่ำเกินพื้นฐานอีกครั้งคำถามต่อไปก็คือ ความกลัวผีข้างต้น จะสิ้นสุดลงเมื่อใด? เรื่องนี้ ตอบได้ง่ายมากเพราะ หากมีเรื่องราวหรือข่าวคราวใหม่เข้ามากลบ คนก็พร้อมจะลืมความเลวร้ายที่เกิดขึ้นอย่างไม่ยากลำบากอะไรเลยมนุษย์นั้น เคยชินเสียแล้วกับการสร้างมายาคติขึ้นมาเพื่อสื่อสารกับตัวเอง และปลอบประโลมใจให้หลุดพ้นจากความกลัวตาย และเกี่ยวกับวีรชนและเทพขึ้นมา ก็คือคำตอบสำหรับเพื่อบรรเทาความหฤโหดของการดำรงชีวิตประจำวันคิดกันง่ายๆก็ได้ว่า หากมีข่าวดีเกี่ยวกับกองทุนหรือนักลงทุนใหญ่คนใดคนหนึ่งสามารถสร้างผลกำไรเกี่ยวกับความผันผวนของตลาดหุ้นในช่วงกระแสตื่นข่าวซับไพร์มอาละวาดอยู่ จะไม่กลายเป็นข่าวใหญ่เลยหรือ?เรื่องนี้ก็เช่นกัน เพราะเชื่อว่า อีกไม่นาน จะต้องเกิดนิทานเกี่ยวกับนักลงทุนหรือกองทุนบางรายที่นำข่าวดีเพื่อเผยแพร่ไปทั่วว่า ตลาดหุ้นเอเชียนั้นมีราคาต่ำเกินไปกว่าสมควรแล้ว นั่นคือจุดวกกลับของสถานการณ์อย่างมีความหมายในขณะที่ คนที่ขาดทุนป่นปี้เพราะราคาหุ้นตก ถูกถือเป็นเครื่องเซ่นสังเวยชะตากรรมเพื่อไถ่บาปของนักลงทุนอื่นๆไปแล้วคนก็พร้อมจะลืมซับไพร์มไปจนหมดสิ้น เหลือไว้แต่ตำนาน พร้อมกับข้อกล่าวหาว่า เป็นเพราะสื่อมวลชนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเกินสมควรไม่เชื่อก็เชิญพิสูจน์กันต่อไป
ข่าวหุ้น[/size:a1d56aff81">
|