May 3, 2024   1:04:53 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เซียนแนะช้อนหุ้นอสังหา
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 17/08/2007 @ 09:09:56
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ราคาหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ร่วง 3 สัปดาห์เฉียด 30% หลังนักลงทุนตระหนกปัญหาซัพไพรส์สหรัฐแห่ขายไม่ลืมหูลืมตา โบรกชี้พลิกวิกฤตเป็นโอกาสมองปัญหาดังกล่าวไม่ทำให้ตลาดหุ้นไทยระคายผิว แนะฉวยจังหวะเก็บหุ้นดีสะสมเข้าพร์อต ชู LPN PS PRIN และ AP ลุ้นรีบาวด์ทางเทคนิค
จากการสำรวจราคาหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านและที่อยู่อาศัยพบว่า ราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าวได้ปรับตัวลดลงแล้ว 15-28% เมื่อเทียบจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นไปสูงสุดในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความตื่นตระหนกของนักลงทุนเกี่ยวกับปัญหาตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริการฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรงตลอดช่วงที่ผ่านมา
สำหรับหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวลดลงสูงสุด คือ PS ราคาหุ้นลดลง 28.8% จากราคาสูงสุด 9.20 บาท และต่ำสุด 6.55 บาท รองลงมา LPN ราคาลดลง 28.7% จากสูงสุด 9.05 บาท และต่ำสุด 6.45 บาท อันดับ3 AP ราคาหุ้นลดลง 26.9% จากสูงสุด 7.25 บาท ต่ำสุด 5.30 บาท อันดับสี่ PRIN ลดลง 25.4% จากสูงสุด 3.86 บาท ต่ำสุด 2.88 บาท อันดับห้า SPALI ลดลง 23% จากสูงสุด 4.50 บาท และต่ำสุด 3.46 บาท อันดับหก LH ลดลง 22.9% จากสูงสุด 8.30 บาท และต่ำสุด 6.40 บาท และ QH ราคาหุ้นลดลง 15.50% จากสูงสุด 1.87 บาท และต่ำสุด 1.58 บาท
นางสาววิชชุดา ปลั่งมณี ผู้จัดการส่วนวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมที่อยู่อาศัยในครึ่งปีหลังของปี 2550 คาดว่าจะขยายตัวได้ดีกว่าครึ่งปีแรกเพราะปัญหาด้านการเมืองเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น และหากไม่มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอีก คาดว่าน่าจะสามารถเลือกตั้งได้ทันช่วงปลายปีนี้
ประกอบกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยยังมีทิศทางอยู่ในช่วงขาลง และมีแนวโน้มที่ปรับลดลงได้อีก จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 3.25% ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคให้กลับคืนมาได้อีกครั้ง
? ครึ่งปีหลังคาดว่ายอดขายบ้านเดี่ยว ทาวส์เฮ้าท์ และคอนโดมิเนียมจะคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะทำเล รูปแบบและดีไซด์ และราคา ซึ่งลูกค้าจะให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมากเป็นพิเศษ และนั้นอาจจะเป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการแข็งขันกันอย่างรุนแรงเพื่อสร้างยอดขาย และดึงลูกค้าให้ได้มากที่สุด?นางสาววิชชุดากล่าว
สำหรับบริษัทที่คาดว่าผลประกอบการจะมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง คือ LH MK AP SPALI และ QH จากการขยายตัวของยอดขาย และการเพิ่มประเภทสินค้า เพื่อกระจายรายได้ครอบคลุมในกลุ่มที่อยู่อาศัยทุกประเภท ประกอบกับบางบริษัทมีการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะสร้างผลตอบแทนกลับมาในสัดส่วนที่ดีขึ้น
ดังนั้นจึงเป็นจังหวะที่ดีในการทยอยเก็บหุ้นดังกล่าว เพราะราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก และมีอัพไซด์การลงทุนมากขึ้น เช่น LH ให้ราคาเป้าหมาย 8.60 บาท MK ให้ราคาเป้าหมาย 3.28 บาท AP ให้ราคาเป้าหมาย 6.25 บาท SPALI ให้ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท และ QH ให้ราคาเป้าหมาย 2.04 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์หลายบริษัท เช่น LPN MK PS และ QH ได้ปรับตัวลงจากจุดต่ำสุดตั้งแต่ 8-23% จึงทำให้ราคาน่าสนใจจึงเหมาะแก่การทยอยลงทุน เพราะบริษัทในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของไทยได้รับผลกระทบทางตรงจากปัญหาตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยในสหรัฐน้อยมาก
นอกจากนี้ราคาหุ้นได้มีการปรับตัวลดลงมาค่อนข้างแรงจากการปรับตัวของตลาดรวมในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ได้มีการปรับตัวลดต่ำกว่าราคา
ด้านนายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ตลอดระยะเวลา 3 สัปดาห์นั้น มองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการซื้อเก็งกำไร โดยเฉพาะ LPN PS PRIN และ AP ที่ราคาหุ้นเฉลี่ยแล้วปรับตัวลดลงเฉียด 30%
ดังนั้นคาดว่าราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวทางเทคนิคในระยะสั้น จึงแนะนำ ?ซื้อเก็งกำไร? โดยให้แนวรับ LPN ที่ระดับ 6.70 บาท แนวต้าน 7.60 บาท PS ให้แนวรับ 6.80 บาท แนวต้าน 7.40 บาท PRIN ให้แนวรับ 2.90 บาท แนวต้าน 3.10 บาท และ AP ให้แนวรับ 5.60 บาท แนวต้าน 6.00 บาท

ทันหุ้น[/size:fd612e6d3f">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com