บริษัทคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทปล่อยกู้จำนองรายใหญ่สุดของสหรัฐ กำลังเผชิญภาวะวิฤติสินเชื่อ โดยล่าสุดบริษัทยอมรับว่าได้กู้ยืมเงินมูลค่า 1.15 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจากธนาคารพาณิชย์ 40 แห่ง เพื่อนำมาพยุงสถานะด้านการปล่อยกู้จำนองของบริษัท
ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงทันที 11% และทำให้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ออกมาประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทคันทรีไวด์ โดยให้เหตุผลว่า "คันทรีไวด์กำลังเผชิญปัญหาด้านการระดมทุน" ด้านวาณิชธนกิจเมอริลล์ ลินช์ ได้แนะนำให้นักลงทุน "ขายหุ้น" คันทรีไวด์
สำนักข่าวเอพีรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลของอินไซด์ มอร์ทเกจ ไฟแนนซ์ว่า คันทรีไวด์เป็นบริษัทปล่อยกู้จำนองรายใหญ่สุดเมื่อพิจารณาจากวอลุ่ม โดยคิดเป็นสัดส่วนกว่า 13% ของตลาดที่ให้บริการปล่อย ณ วันที่ 30 มิ.ย.
ทั้งนี้ การที่คันทรีไวด์ซึ่งเป็นบริษัทรายใหญ่ระดับนี้ตัดสินใจกู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์เพื่อพยุงสถานะด้านการปล่อยกู้จำนองย่อมทำให้เกิดความกังวลว่าบริษัทปล่อยกู้จำนองรายอื่นๆที่มีขนาดเล็กกว่าอาจจะเผชิญภาวะวิกฤติจนถึงขั้นล้มละลาย
นายเดวิด แซมโบล ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการของคันทรีไวด์ได้ออกแถลงการณ์ว่า "บริษัทได้ตัดสินใจเช่นนี้ เพราะเรามองว่ามีความท้าทายในหลายๆด้านมากขึ้น และการตัดสินใจเช่นนี้จะทำให้บริษัทสามารถจัดหาเม็ดเงินป้อนให้กับบริษัทในเครือได้ทันตามความต้องการ"
ด้านนายไฟรด์แมน บิงลิงส์ นักวิเคราะห์จากมูดีส์กล่าวว่า "หากสถานการณ์สภาพคล่องตึงตัวนานกว่า 3 เดือน อาจทำให้บริษัทคันทรีไวด์ล้มละลายได้ เรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่บริษัทปล่อยกู้จำนองรายใหญ่สุดของสหรัฐเผชิญปัญหาตึงตัวด้านการเงินและส่อเค้าล้มละลาย"