Toon
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973 |  วันที่: 20/08/2007 @ 09:18:18 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ตลาดหุ้นเริ่มรีบาวด์ตามความคาดหมาย ทำให้เชื่อได้ว่าหลังการลงมติร่างรัฐธรรมตลาดหุ้นน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยหุ้นกลุ่มพลังงาน-แบงก์-ไฟแนนซ์-สื่อสารจะเป็นตัวหลัก
:TRCมองไกลถึง5.70บาท
หุ้น TRC เชิงดีไม่มีตกแม้ภาวะตลาดออกอาการเสียศูนย์ แต่ราคาหุ้น TRC ยังแรงไม่หยุด ด้วยนัยสำคัญจากพื้นฐานที่แข็งแกร่งและแนวโน้มธุรกิจ TRC ยังสดใสจากการเติบโตของงานก่อสร้างท่อก๊าซฯ
ที่สำคัญบริษัทลูกอย่าง SKW กำลังจะได้งานโครงการราชเพลินมีค่าก่อสร้าง 3 พันล้านบาท และได้รับค่าบริหารโครงการอีก 80 ล้านบาท และจากราคาหุ้นที่ปรับลดลงตามภาวะตลาดก่อนหน้านี้
จึงทำให้ TRC กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง โดย P/E เฉลี่ยปี50 อยู่ที่ 10 เท่า นั่นก็เท่ากับว่ามีอัพไซด์อีก 50% ด้วยราคาเป้าหมาย 5.70 บาท
:LHแนวโน้มครึ่งหลังดีขึ้นชัดเจน
หุ้น LH พี่ใหญ่แห่งตระกูลแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ครึ่งหลังน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง หลังจากเปิดตัว 9 โครงการมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท ทำให้มีการประเมินกันว่า อีกกว่า 60%ของกำไรปีนี้มาจากครึ่งปีหลังนี้เอง
โดยส่วนหนึ่งมาจาก 9 โครงการใหม่ ผนวกบ้านที่พร้อมขายอีก 36 โครงการ มูลค่ารวม 34,000 ล้านบาท และประเมินเบื้องต้นครึ่งหลังมียอดขายบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮ้าส์กว่า 10,000 ล้านบาท พ่วงคอนโดมีเนียมประมาณ 1,000 ล้านบาท นั่นหมายถึงตัวเลขรายได้ทั้งปีไม่น่าต่ำกว่า 19,000-19,500 ล้านบาท
จากข้อมูลเบื้องต้นจึงมองว่าราคาหุ้น LH มีอัพไซด์กว่า 10% จากเป้าหมาย 7.50บาท ผนวกผลตอบแทนจากปันผลอีก 3-4%
:TTAอนาคตMMLน่าจับตามอง
หุ้น TTA น่าจับตาบริษัทลูก MML ที่จะเป็นแหล่งรายได้สำคัญในอนาคต ปัจจุบัน MMLเป็นธุรกิจบริการนอกชายฝั่งของ TTA สามารถสร้างรายได้ให้ TTA สัดส่วนประมาณ 20%และแนวโน้มเติบโตดีมาก จากปริมาณการบริโภคน้ำมันเติบโตแบบก้าวกระโดด
นั่นหมายถึง ทำให้มีความต้องการสำรวจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติสูงและมีผลต่อเนื่องทำให้เกิดการขาดแคลนอุปทานเรือขุดเจาะน้ำมันทั่วโลก โดยมีการคาดการณ์กันว่าปี 2550-2551 ตลาดธุรกิจบริการนอกชายฝั่งอนาคตจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ดัชนีค่าระวางเรือยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำสถิตินิวไฮที่ 7,319 จุดชี้ให้เห็นถึงความต้องการในตลาดเรือสินค้าแห้งเทกอง สอดคล้องกับราคาถ่านหินที่ทำสถิติสูงสุดใหม่70.55 เหรียญต่อตัน
จึงกลายเป็นมุมมองเชิงบวกระยะยาวกับ TTA เนื่องจากมีการทำสัญญาระยะยาวไว้เพียง 32.5%ของกองเรือ ที่เหลืออีก 67.5% ของกองเรือสามารถรับประโยชน์ จากการปรับค่าระวางขึ้นตามภาวะตลาด
ด้วยพื้นฐานแข็งแกร่ง ทำให้ได้มูลค่าเหมาะสมเท่ากับ 63 บาท ทั้งนี้ผลประกอบการTTA ไตรมาส 3/50 เติบโตกว่า 93% โดยกำไรสุทธิ 1,390 ล้านบาท
:TOPธุรกิจโรงกลั่นพีคต่ออีก2ปี
หุ้น TOP แม้ภาวะราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวลง แต่แนวโน้มหลายฝ่ายเชื่อว่าราคาน้ำมันยังทรงตัวระดับสูงต่อเนื่อง ส่งที่น่าสนใจคงอยู่ที่การบริหารเงินสดช่วงปี 2551เป็นต้นไปเนื่องมี EBITDA มากถึงปีละ 700-1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยแนวทางการใช้เงิน TOP ประกอบด้วย 1.จ่ายเงินปันผลมากกว่าตลาดจะให้ผลตอบแทนจากปันผลกว่า 6% 2.ขยายกำลังการผลิตอะโรเมติกส์เพิ่มขึ้น มีความเสี่ยงอยู่ที่วัฏจักรธุรกิจปิโตรเคมี ที่ถูกมองว่าช่วงปี 2555 ธุรกิจปิโตรเคมีจะเริ่มเข้าสู่ช่วงขาลง
3.การซื้อหรือควบรวมกิจการกับ IRPC หรือ PTT Aromatics (RRC+ATC) หรือBCP และโรงกลั่นอื่นๆ โดยถูกมองว่ากควรวม IRPC มีความเป็นไปได้มากสุด เพราะเป็นสร้างมูลค่าเพิ่มให้ TOP ได้ปีละกว่า 40-50 ล้านเหรียญสหรัฐ
4.การซื้อหุ้นคืนถือเป็นอีกทางเลือก หลังจากผู้บริหารมั่นใจว่าแนวโน้มธุรกิจโรงกลั่นและอะโรเมติกส์จะดีต่อไปจนถึงปี 2551-52
ขณะที่หุ้น TOP มีอัพไซด์กว่า 27% ราคาเป้าหมาย 96 บาท P/E 9.1 เท่า
ข่าวหุ้น[/size:947ad789f4">
|
