May 3, 2024   6:23:56 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ***** หุ้นขวัญใจ *****
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 22/08/2007 @ 08:41:34
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ทำเซียนดีใจได้ไม่ทันข้ามวัน ตลาดก็มีอันพังพาบในชั่วข้ามคืน โดยดัชนีปิดลบไปเกือบ30 จุด เมื่อเป็นเช่นนี้"เซียนมุมตึก" จึงเซฟตัวเองด้วยการแนะนำหุ้นพื้นฐานดีไว้ก่อน
TOPเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา
ปัจจัยทางธุรกิจคาดกำไรสุทธิปี 2550 จะอยู่ที่ 18,942 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 9.29บาท เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามทิศทางของค่าการกลั่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งผลประกอบการของบริษัทในเครือที่ยังมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะธุรกิจปิโตรเคมี ที่ยังได้รับประโยชน์จากความต้องการที่แข็งแกร่งในภูมิภาค
สรุปแนวโน้มธุรกิจยังได้รับปัจจัยบวกจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของโรงกลั่นและTPX โดยล่าสุด ค่าการกลั่นเฉลี่ยในไตรมาส 3 ปีนี้มีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา แต่ยังอยู่ในระดับสูงกว่า 7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการในไตรมาส 4 จะได้รับผลกระทบจากการหยุดโรงงานเพื่อทำการเชื่อมต่อโครงการส่วนต่อขยายทั้งโรงกลั่น(หน่วยกลั่นCDU3) ขนาดกำลังการผลิต1 แสนบาร์เรลต่อวัน และโรงงานปิโตรเคมี ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการไตรมาส 4 ปีนี้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
แม้จะมีปัจจัย ที่อาจกระทบต่อรายได้ แต่นักลงทุนยังมั่นใจอนาคต จึงมีแรงซื้อกลับเข้ามาและมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ดังนั้น จึงควร ซื้อ ราคาเป้าหมายระยะสั้น 80 บาทเหมาะสมทั้งปี 84 บาท
SPALIกำไรลดแต่Backlogดี
ราคาหุ้นตัวนี้ถือว่า ยังน่า ซื้อ เป้าหมายที่ 4.35 บาท
กำไรสุทธิไตรมาส 2 อยู่ที่ 221 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน ขณะที่บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 3-4 ปีนี้อีก 7 โครงการ มูลค่ารวม 10,700ล้านบาท และยังมีปัจจัยบวกจากยอด Backlog ในระดับสูง(ณ สิ้นมิ.ย.50 อยู่ที่ 7,894ล้านบาท คาดสามารถส่งมอบในปีนี้ 2,520 ล้านบาท) ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดรับรู้รายได้และกำไรสุทธิให้อยู่ในเกณฑ์ดี
โดยรายได้ของบริษัทในครึ่งปีแรกจากการขายอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 2,696 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ต้นทุนขาย 1,623 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 29%อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 40% ลดลงจากครึ่งปีแรกของปีก่อนที่ในระดับ 43%
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อน ภาษีเงินได้นิติบุคคล 255 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% ส่งผลให้ครึ่งปีแรก บริษัทมีกำไรสุทธิ 473 ล้านบาทลดลง 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการบันทึกภาษีไม่สอดคล้องกับรายได้
BAYซับไพร์มไม่กระทบธุรกิจ
หลังการเป็นพันธมิตรกับ GE ถือเป็นปัจจัยบวกกับธนาคาร ผลักดันราคาหุ้นให้ปรับตัวสูงขึ้นมาตั้งแต่ช่วงต้นปี ในขณะที่เดือนที่แล้ว GE ยังได้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนอีก 444 ล้านหุ้น แต่ผลประกอบการไตรมาส 2 ดูไม่ดีนัก อันเป็นผลมาจากการตั้งสำรองสูงกว่า 1 หมื่นล้านบาทส่งผลให้ขาดทุน 8.8 พันล้านบาท
ส่วนข้อกังวลกับปัญหาซับไพร์มในอเมริกานั้น ผู้บริหารBAYยืนยันว่า ได้มีการลงทุนในCDO ทั้งสิ้นไม่เกิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯและสินทรัพย์ที่อ้างอิงไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ ดังนั้น จึงไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
พิจารณาจากวอลุ่มวันก่อน ยังหนาแน่น จึงเหมาะสำหรับ ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย27.25 บาท

ข่าวหุ้น[/size:f519a6b3b3">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com